ขณะที่รถแล่นไปถึงครึ่งทาง เจียนจือซังเหลือบมองที่กระจกหลังและเห็นรถเฟอร์รารี่กำลังไล่ตามมาอย่าติดๆ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
"เหอะๆ ไอ้หมาบ้า"
"กล้าไล่ตามมาได้ไง? ไม่ดูสภาพตัวเอง"
จากนั้นเขาเหยียบคันเร่งอย่างหนัก ความเร็วก็เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน และทิ้งรถเฟอร์รารี่ไว้ข้างหลัง
เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นถึงนักขับ F1 มืออาชีพ แต่นักขับที่เจียนจือซังกับเจียงชื่อต่างเคยพบเจอกันมานั้นระดับมันต่างจากครั้งนี้ ซึ่งบนเส้นทางตรงนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจียนจือซังเลย
แม้กระทั่งการเข้าโค้งเขาแทบจะเข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบแล้ว
รวมไปถึงสมรรถนะระดับสุดยอดของรถลัมโบร์กีนี จึงทำให้เจียนจือซังทิ้งห่างมาตลอดทั้งทาง และดูเหมือนว่าไม่มีวี่แววว่าจะตามทัน
ด้านหลังรถ
หลินเจียหรงส่ายหัวอย่างไม่หยุด "หมอเทวดาเจียง ช่างมันเถอะครับ? ถึงแม้ว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณจะดีมาก แต่มันไม่เกี่ยวกับการขับรถนะครับ เพราะเขาเป็นถึงนักขับมืออาชีพนะ ปล่อยเขาไปเถอะครับ?"
ในด้านหนึ่ง หลินเจียหรงรู้ว่าเจียงชื่อไม่มีทางแข่งกับคนอื่นเขาได้
แต่ในอีกด้านหลินเจียหรงยิ่งกลัวว่าเจียงชื่อจะใจร้อนแล้วทำอะไรไม่คิด
เพราะในตอนนี้พวกเขากำลังเร่งความเร็วอยู่บนถนนทางด่วน และถ้าหากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในการเคลื่อนไหวที่เร็วขนาดนี้ เชื่อว่าผลลัพธ์มันจะน่ากลัวจนไม่กล้าคิด
รถชนจนพังยับหรือเสียชีวิต นั่นเป็นเพียงเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตาเท่านั้น
ดังนั้นหลินเจียหรงจึงกลัวมาก เขาอดไม่ได้ที่จะขึ้นไปคว้าพวงมาลัยแล้วบังคับให้เจียงชื่อหยุดรถ
แต่เขาไม่กล้าทำอย่างนั้น
เพราะถ้าหากแตะต้องพวงมาลัยเพียงเล็กน้อย อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
สถานการณ์ยังคงเป็นเหมือนเดิม และระยะห่างระหว่างรถทั้งสองคันแทบไม่เปลี่ยนแปลง
เจียนจือซังที่ขับนำอยู่ก็ค่อนข้างแปลกใจ
ความจริงเขาใช้ทักษะการแข่งรถ F1 มามากแล้ว ถ้าหากเป็นคนขับทั่วไปคงทิ้งห่างจนไม่เห็นไฟท้ายกันแล้วด้วยซ้ำ
แต่เจียงชื่อกลับตามมาอย่างไม่เลิกรา แสดงว่าเขาก็มีทักษะการขับรถในระดับหนึ่งเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...