ทุกคนต่างก็รู้สึกระวังตัวขึ้นมา
ติงเมิ่งเหยนถามไปตรงๆ ว่า "ไม่มีเรื่องก็คงไม่มา พูดเถอะ ว่าวันนี้พี่มาที่นี่ทำไม?"
"จิ๊ๆ น้องเล็กนี่เป็นคนที่ไม่อ้อมค้อมจริงๆ " ติงเฟิงเฉิงหยิบตั๋วออกมาสี่ใบ "วันนี้ฉันได้ตั๋วของเมืองเล่นมาสี่ใบ มันได้มายากมาก ต่อให้มีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้! ว่าแล้วเลยอยากชวนพี่ใหญ่น้องเล็กกับเจียงชื่อไปเล่นด้วยกันหน่อย"
คำพูดแบบนี้ใครมันจะไปเชื่อกัน?
ติงฉี่ซานพูดไปตรงๆ ว่า "ฮึ แกคิดจะทำอะไรชั่วๆ อีก? ฟ้าก็มืดแล้ว เมิ่งเหยนของเราไม่ออกไปเถลไถลกับแกหรอก"
ติงฉี่ซานทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"อาสามครับ นี่อามองผมไร้ค่าเกินไปหรือเปล่าครับ?"
"ผมยอมรับ ว่าเมื่อก่อนผมทำหลายอย่างกับน้องเล็กและเจียงชื่อเกินไปจริงๆ แต่เรื่องวันนี้มันไม่เหมือนกัน ฉันอยากออกไปพร้อมกับพวกเธอจากใจจริงนะ"
"ผมไม่กลัวพวกอาจะหัวเราะเยาะผม พูดจริงๆ นะ ที่ผมมาวันนี้ ก็ตั้งใจมาคืนดีกับพวกอาจริง"
"ถ้าจะนับกันจริงๆ เราต่างก็เป็นญาติกัน"
"ใครๆ ต่างก็พูดกัน ว่าควรจะแก้ไขความขัดแย้ง ไม่ใช่เอาแต่สร้างความขัดแย้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือเราเป็นญาติที่เลือดข้นกว่าน้ำไม่ใช่เหรอครับ?"
"น้องเล็ก ทำไมเราไม่มาใช้โอกาสนี้ ทำให้เราดีกันเหมือนตอนแรก กลับไปเป็นเหมือนสมัยเด็ก ทุกคนต่างปล่อยวางความระแวงและความอิจฉาริษยา แล้วกลายมาเป็นครอบครัวที่รักใคร่ปรองดองล่ะ?"
คำพูดเหล่านี้ได้พูดไปจนถึงในใจของติงเมิ่งเหยน
ชีวิตนี้ของเธอ สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจมากที่สุดก็คือ การทะเลาะกับญาติที่สนิทชิดเชื้อจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้
หัวใจของเธอนั้นอ่อนโยนมาก
กับคนนอกก็ช่างมัน แต่กับคุณปู่ พี่ใหญ่ พี่รองนั้น เธอไม่อยากอยู่อย่างโกรธแค้นแบบนี้ไปทั้งชีวิตจริงๆ
ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนมาขอคืนดีเอง งั้นก็ควรให้โอกาสอีกสักครั้ง
ติงเมิ่งเหยนเสยผมไปทีหนึ่ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ตกลง คืนนี้เราออกไปเล่นกันให้เต็มที่เลยนะคะ!"
"เมิ่งเหยน!" ติงฉี่ซานตกใจมาก ทำไมลูกสาวของตัวเองถึงได้โง่ถึงขนาดนี้? เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นกับดัก แล้วยังจะโดดลงไปเองเนี่ยนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...