สรุปตอน บทที่ 753 จับตัวภรรยาและลูกชายมาข่มขู่ – จากเรื่อง จอมนักรบท้าโลก โดย ต้วนจื้อเวยหนีซือ
ตอน บทที่ 753 จับตัวภรรยาและลูกชายมาข่มขู่ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จอมนักรบท้าโลก โดยนักเขียน ต้วนจื้อเวยหนีซือ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
จ้าวซานเหอสับสนไปหมดแล้ว คำพูดนี้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก ถึงขนาดไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไรดี
บังคับขู่เข็ญ
เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจ้าบ้านตระกูลติงที่สูงส่ง จะกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้
ที่จริงก็ไม่แปลก
แต่ไหนแต่ไรมา ขอแค่บรรลุเป้าหมายของตัวเอง ติงหงเหย้าสามารถทำได้ทุกวิถีทาง
อย่ามองรอยยิ้มบนใบหน้าของติงหงเหย้า ที่จริงทุกคำพูดของเขาได้ทิ่มแทงไปที่หัวใจของจ้าวซานเหอตรงๆ ทำให้จ้าวซานเหอก้าวขาไม่ออก
เขาเดินกลับไปด้วยความโกรธแค้น ตบลงไปที่โต๊ะอย่างแรง แล้วตะคอกด้วยความโกรธว่า "ติงหงเหย้า ถ้าแกกล้าแตะต้องภรรยากับลูกชายฉันแม้แต่ปลายผม ฉันจะแจ้งตำรวจจับแกทันที!"
ติงหงเหย้ายักไหล่ "ได้เลย งั้นลุงแจ้งตำรวจเลยสิ ถ้าหากลุงแจ้งตำรวจ ผมกล้ารับประกันเลยว่าภรรยาและลูกชายลุงแม้แต่ผมสักเส้นก็ไม่เหลือ ลุงจับผมเข้าคุก สักปีสองปีผมก็ออกมาแล้ว แต่ลุงกลับเสียคนที่รักไป คนผมดำต้องมาจากไปก่อนคนผมขาว ลุงจ้าว คุณเลือกเองแล้วกัน"
คนหน้าด้านไม่ห่วงเรื่องศักดิ์ศรี ไม่ว่าเรื่องอะไรก็กล้าทำได้ทั้งนั้น
ติงหงเหย้าหน้าด้านถึงขีดสุดแล้ว เผชิญหน้ากับคนไร้ยางอายแบบนี้ คุณจะไปทำอะไรเขาได้ล่ะ?
จ้าวซานเหอกัดฟันกระทืบเท้าด้วยความโมโห
เขาไม่อยากร่วมมือทำชั่วกับคนอย่างติงหงเหย้า และไม่อยากทำร้ายติงเฟิงเฉิงที่มีบุญคุณกับเขา แต่เขาไม่มีทางเลือก ถ้าหากไม่ยอมทำตามที่ติงหงเหย้าบอก ภรรยาและลูกชายของเขาก็จะได้รับอันตรายถึงชีวิต
จึงจำเป็นต้องทำแบบนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
จ้าวซานเหอโน้มตัวลงไปอย่างไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แล้วหยิบสมุดบัญชีเล่มนั้นขึ้นมาจากบนพื้น
ติงหงเหย้าพยักหน้าด้วยความพอใจ "แบบนี้สิถูกต้องแล้ว ผู้รู้สถานการณ์คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ จะปฏิเสธเงินไปทำไมกันล่ะ?"
จ้าวซานเหอสีหน้าดุดัน "ฉันต้องการแค่ให้ภรรยากับลูกชายฉันปลอดภัย"
"ได้เลย"
จ้าวซานเหอหยิบสมุดบัญชีเดินออกไปด้วยความหมดอาลัยตายอยาก ตลอดทาง เขาเดินมายังอาคารสำนักงานบริษัทติงเหออย่างใจเลื่อนลอย เรียกว่าอาคารสำนักงานบริษัทติงเหอ ที่จริงก็คือห้องเก่าซ่อมซ่อที่อยู่ชั้นสองของตึกเล็กห้องหนึ่งนั่นเอง
เขาเดินผ่านประตูเข้าไป แล้วมายังชั้นสอง มองเห็นแสงไฟที่ยังส่องสว่างอยู่ภายในห้องทำงาน
นั่นคือติงเฟิงเฉิงกำลังทำงานล่วงเวลาอยู่นั่นเอง
เห็นภาพฉากนี้ จ้าวซานเหอรู้สึกปวดใจเหมือนมีมีดปักอยู่กลางหัวใจ ติงเฟิงเฉิงเป็นหนุ่มเพลย์บอยคนหนึ่ง แต่มาวันนี้ได้ปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน
อีกทั้งติงเฟิงเฉิงดีกับเขาขนาดนั้น
ตอนนี้เขากลับใช้บัญชีปลอมไปทำร้ายติงเฟิงเฉิง ทำแบบนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอ?
ไม่เหมาะสม
ไม่เหมาะสมแน่นอน
จ้าวซานเหอกระทืบเท้า แล้วหมุนตัวจะเดินจากไป แต่เดินไปไม่ถึงสองก้าว ก็นึกถึงภรรยาและลูกชายของตัวเองที่ถูกจับตัวไป จึงปวดใจเป็นอย่างมาก
ถ้าหากเขาจากไปทั้งอย่างนี้ ชีวิตภรรยาและลูกชายของเขาก็คงไม่เหลือ
จะไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้
ขณะที่ลังเลไปมาอยู่หลายครั้ง ติงเฟิงเฉิงได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอกประตู ก็เงยหน้าขึ้นมามอง
ขณะเดียวกัน เขาหันหน้ามองไปยังห้องการเงินที่อยู่สุดทางเดิน แล้วเดินไปอย่างช้าๆ
ผ่านไปประมาณสามนาที เจียงชื่อกลับไปยังห้องทำงาน เพื่อช่วยกันศึกษาวิจัยแผนการพัฒนาโครงการกับติงเฟิงเฉิงและจ้าวซานเหอ
ศึกษาวิจัยได้ไม่ถึงสิบนาที ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น
ได้ยินเพียงเสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้นเป็นระยะๆ เหมือนกับมีรถตำรวจจอดอยู่ด้านนอกอาคารสำนักงาน
"เกิดอะไรขึ้น?"
ติงเฟิงเฉิงลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาที่ริมหน้าต่างมองออกไปด้านนอก เห็นรถตำรวจสองคันจอดอยู่ด้านล่างตึก จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามา แล้วเดินขึ้นบันไดมายังชั้นสอง
"ตำรวจมาทำไมกัน?" ติงเฟิงเฉิงเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ไม่รู้สิ" จ้าวซานเหอมีสีหน้าสงสัย แต่แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่นาน ตำรวจก็มายังที่เกิดเหตุ
ขณะที่ตำรวจกำลังมา อีกคนหนึ่งก็มาด้วย
นั่นคือติงจื่อยวี่
เธอเห็นตำรวจขึ้นมาบนตึก จึงได้ตามขึ้นมาด้วย คอยดูเรื่องสนุกอยู่ด้านหลัง
ตำรวจพรวดพราดเข้ามาในห้อง แล้วขวางพวกติงเฟิงเฉิงเอาไว้ทั้งสามคน พร้อมเอ่ยถามว่า "ใครเป็นผู้รับผิดชอบดูแลที่นี่?"
ติงเฟิงเฉิงเดินหน้าไปหนึ่งก้าว "ผมครับ ผมเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่ ชื่อติงเฟิงเฉิง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...