ทุกคนในงานต่างก็ตกตะลึง ได้แต่ยืนดูการแสดงและไม่มีใครกล้านั่งลงสักคน
ต่อให้เป็นคนที่สมองทำงานช้าที่สุด ณ เวลานี้ เขาต้องรู้เขาใครคือคนที่กำลังขับร้องเพลงโอเปร่าบนเวที แต่ว่าทุกคนก็สงสัยมาก ว่าคุณปู่มาได้ยังไง?
เพราะทุกคนรู้ถึงความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ว่ามันแย่แค่ไหน
ไม่ต้องพูดถึงการที่ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน แค่การที่ทั้งคู่ไม่ยอมไปมาหาสู่กันก็ทำให้ทั้งสองไม่อยากเจอหน้ากันอยู่แล้ว
ด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ แล้วคุณปู่ติงจะยอมลดตัวมาได้อย่างไร?
หนึ่งในผู้ชม คนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดก็คือติงฉี่ซาน เขาได้แต่ยืนทื่ออยู่กับที่ แล้วมองดูคุณปู่ที่กำลังแสดงบนเวทีอย่างงุนงง ซึ่งดูเหมือนว่าทุกอย่างนี้ไม่ใช่ความจริง
เป็นไปไม่ได้ คุณปู่จะมาได้ไง?
เราฝันไป
เขาขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่ได้เป็นความจริงตามที่เขาจินตนาการอยู่
แต่ยิ่งมองดู ดวงตาของเขาก็ยิ่งเปียกชื้นขึ้นเรื่อย ๆ
อันที่จริง ในฐานะลูกชายคนหนึ่ง เขาจะเกลียดชังพ่อตัวเองได้อย่างไร? เขาแค่โกรธในสิ่งที่คุณปู่เคยทำไว้ และทั้งสองก็แค่ไม่ยอมลดตัวลงมาปรับความเข้าใจกันก็เท่านั้น
แต่ถ้าคุณปู่ติงยอมขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีให้เขาฟัง นั่นก็แสดงว่าคุณปู่ยอมลดตัวให้เขาแล้ว และนี่ก็แทบจะทำให้หัวใจของติงฉี่ซานละลาย
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีความเกลียดชังไหนสามารถกีดกั้นความสัมพันธ์ของสายเลือดเดียวกันได้
ติงเฟิงเฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็ตกตะลึงอย่างอธิบายไม่ได้ เขามองไปที่เจียงชื่อแล้วชูนิ้วโป้งให้กับเขา "เจียงชื่อ สุดยอดจริงๆ ที่เชิญคุณปู่มาได้ ถึงว่าล่ะ ทำไมนายถึงบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก 'ศิลปินคนดัง' คนนี้ ตอนนี้ข้าเข้าใจความหมายนั้นแล้ว"
แน่นอน ถ้าใครในนี้กล้าที่จะไม่รู้จักติงจ้ง แสดงว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะได้นั่งกินข้าวอยู่ในงานเลี้ยงนี้
ติงเฟิงเฉิงกระซิบถามเบาๆ ว่า "เจียงชื่อ นายบอกหน่อยได้ไหม ว่านายเอายากล่อมประสาทอะไรให้คุณปู่กิน คุณปู่ถึงขั้นมาร้องเพลงให้กับอาสามฟังได้?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...