"ผู้จัดการเจียง เกิดอะไรขึ้นครับ?" คนขับถามอย่างสงสัย
เจียงชื่อไม่ได้ตอบคำถามทันที แต่มองไปรอบๆ ก่อน เมื่อเห็นว่ามีร้านบะหมี่อยู่ไม่ไกล เขาจึงพูดขึ้นว่า "ขอโทษด้วยนะทุกคน พอดีตอนเช้าผมไม่ได้กินอะไรมาเลย ตอนนี้หิวจนปวดท้องแล้ว นั่งอยู่บนรถส่ายไปมาผมเริ่มไม่ไหวแล้วครับ ดังนั้น ขอทุกคนเห็นใจผมหน่อยนะครับ เราพักสักครู่"
"เอางี้ดีกว่า ผมเลี้ยงบะหมี่ทุกคนนะ ตามผมมาเลยครับ"
ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงวันแล้ว ท้องไส้ของทุกคนก็ว่างมาก และทุกคนก็เริ่มหิว
ในเมื่องเจียงชื่อจะให้พักกินบะหมี่ก่อน แถมยังเลี้ยงทุกคนอีกด้วย แล้วพวกเขาที่เป็นพนักงานจะปฏิเสธได้อย่างไร?
ดังนั้นทุกคนก็ตามเจียงชื่อไปที่ร้านบะหมี่
จากนั้นทุกคนก็สั่งบะหมี่ร้อนแถมไข่ต้มสองฟอง!
แต่เจียงชื่อกินไปครึ่งถ้วยก็ขอออกไปเข้าห้องน้ำก่อน
และในช่วงที่ทุกคนไม่ทันสังเกต เขาก็ได้แอบกลับไปที่ข้างรถบรรทุกแล้วเริ่มตรวจสอบทีละคัน เขาต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมจู่ ๆ หินหยาบเหล่านี้ถึงเปลี่ยนคุณภาพดีขึ้นได้
เขาสัมผัสผ่านพลังชี่ในร่างกายของเขา
รถคันแรกและคันที่สองไม่มีปัญหาใดๆ แต่เมื่อมาถึงรถคันที่สาม เขาก็ตรวจพบอย่างประหลาดใจว่า ทำไมหินหยาบบนรถคันนี้ถึงมีปฏิกิริยาต่อร่างกายเขารุนแรงขนาดนี้
มีปัญหา
ต้องมีปัญหาใหญ่แน่นอน
ในช่วงแรก รถคันนี้ขับช้ามาก จึงทำให้ทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าสองคัน แต่หลังจากที่ตามทันอีกครั้ง จู่ๆ คุณภาพหินหยาบบนรถก็เปลี่ยนไป ถ้าจะบอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วใครจะเชื่อ?
แต่โชคดีที่เป็นเจียงชื่อ ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป เขาไม่มีทางรู้ปัญหานี้อย่างแน่นอน
ในขณะที่ทุกคนไม่ทันสังเกต เจียงชื่อก็สัมผัสต่อไป
เขาสำรวจไปทีละโซน ทีละจุด และในที่สุดก็สังเกตเห็นถึงบางอย่างที่ผิดปกติอยู่ตรงกลางรถ เขาจึงย้ายหินหยาบที่คุมอยู่ชั้นนอกออก และทันใดนั้นเขารู้สึกแปลกใจมาก เพราะใต้หินหยาบเหล่านั้นมีกล่องสีดำขนาดใหญ่ซ่อนอยู่
และสิ่งที่ทำให้พลังชี่ในตัวของเจียงชื่อเกิดความไม่คงที่ก็คือกล่องดำนี้
แปลกประหลาดจริงๆ
เจียงชื่อค่อยๆ เปิดกล่องอย่างระมัดระวัง และสิ่งที่ดึงดูดสายตาเขาก็คือหินหยาบด้านในนั้น
เขาจึงเอื้อมมือหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งเพื่อสัมผัสมัน
แต่มันแปลกมาก มีการตอบสนอง แต่การตอบสนองนี้มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากที่เขารู้สึกในตอนแรก และมันไม่เป็นธรรมชาติเลย
เจียงชื่อคลำหาความผิดปกติด้วยความสงสัย และในตอนนี้ เขาก็พบรอยแตกเล็กๆ ใต้หินหยาบนั้น ซึ่งมันไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็บิดหินตามรอยแตกบางๆ นั้นออก ซึ่งด้านในหินจะเป็นโพรงแถมยังอัดแน่นไปด้วยโฟม และในโฟมนั้นก็คือหินหยก!
เป็นหินหยกที่ผ่านการเจียระไนแล้ว!
เจียงชื่อพยักหน้าแล้วพึมพำกับตัวเอง "ถึงว่าทำไมความรู้สึกมันแปลกๆ แม้คุณภาพมันจะสูงมาก แต่มันไม่ใช่ของเดิม ผ่านการเจียระไนมาแล้วด้วย"
จากนั้นเขาก็หยิบขึ้นมาอีกก้อนหนึ่งแล้วแกะมันออกเหมือนก้อนแรก
......
ณ สำนักงานผู้จัดการทั่วไปในเครื่องประดับเส้ายิน
โหวหยังเดินเข้ามาอย่างหอบเหนื่อย จากนั้นนั่งลงบนโซฟาแล้วดื่มน้ำไปหลายแก้ว
เหวยซือมองไปที่เขาอย่างร่างเริง รอจนกว่าโหวหยังดื่มเสร็จเขาจึงจะถามว่า "เป็นยังไงบ้าง จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?"
โหวหยังพยักหน้าตอบ "เรียบร้อยครับ"
"แน่ใจนะ?"
"แน่ใจสิ!" โหวหยังพูดอย่างได้ใจว่า "ผมซื้อคนขับของมันแล้ว และให้คนเอากล่องสินค้าลักลอบนำเข้าแอบไปใส่ในรถของเจียงชื่อ ฮ่า ๆ คอยดูว่าครั้งนี้มันจะดิ้นหลุดไปได้อย่างไร"
เหวยซือพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
โหวหยังถามว่า "แต่การลักลอบนำเข้าไม่ใช่งานของเจียงชื่อคนเดียวนะครับ ท่านผู้จัดการยังมีแพะรับบาปอีกคนไม่ใช่เหรอครับ? คนที่รับช่วงต่อเจียงชื่อ คนหนึ่งรับผิดชอบในการจัดส่ง อีกคนรับผิดชอบในการขนส่ง แล้วคุณจัดการถึงไหนแล้วครับ?"
เหวยซือยิ้มพูด "ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ผมจัดการเป็นอย่างดีแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ เลยล่ะ"
โหวหยังปรบมือตอบ "เยี่ยมมากครับ! จริงด้วยสิ ผู้จัดการครับ คุณสะดวกเปิดเผยชื่อของไอ้แพะรับบาปคนนั้นให้ผมฟังหน่อยไหมครับ? ไอ้คนที่ต้องลำบากพร้อมกับเจียงชื่อ มันเป็นคนของเครื่องประดับดาวฤกษ์เหมือนกันใช่ไหมครับ?"
ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร รอยยิ้มบนใบหน้าของเหวยซือก็หายไป และเขาก็มองไปที่โหวหยังอย่างไม่ขยับเขยื้อน
สายตาของเขาเป็นดั่งงูพิษที่ทำให้โหวหยังรู้สึกอึดอัดไปหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...