ห้องประชุมที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นแต่เดิมก็เงียบลงในทันที นอกจากเสียงของเครื่องตัดหินในรายการสดแล้ว ไม่มีเสียงพูดของใครอีกเลย
หินขี้หมา หินชิ้นแรกที่ทำการตัดออกมาก็เป็นหินขี้หมาเลย ใครจะคาดเดาได้?
เหวยซือที่ยืนอยู่บนเวทีและมีไฟส่องไปกระทบที่เขา ในตอนนี้ เขาเหมือนตัวตลกตัวหนึ่งที่ดูแล้วน่าขำขันมาก
ยังรับประกันว่าหินทุกก้อนเป็นหินชั้นหนึ่งทั้งนั้น แต่สุดท้ายหินก้อนแรกที่ทำงานผ่านก็เป็นหินหินขี้หมาเลย มันช่างน่าตลกสิ้นดี
แก้วไวน์ในมือของเหวยซือเริ่มไม่มั่นคง มือของเขาเริ่มสั่นและทำให้ไวน์ในแก้วหกออกมาเป็นครั้งคราว
ด้านล่างเวทีมีแต่ความเงียบ
หลังจากนั้นไม่นาน มีคนเริ่มพูดแทนเหวยซือว่า "ก็นี่มันหินหยาบ จะแม่นยำทุกก้อนได้ยังไงล่ะ? บังเอิญมีหินขยะก้อนสองก้อนไม่แปลกหรอก"
แต่หลังจากที่เสียงนั้นหยุดลง หินก้อนที่สองและก้อนที่สามก็ทำการตัดเสร็จ
และเช่นเดียวกัน ทั้งหมดล้วนเป็นหินขี้หมา
ถ้าหินก้อนแรกเป็นหินขี้หมายังพอเข้าใจได้ แต่ถ้าเปิดหินขี้หมาสามก้อนติดต่อกัน นั่นยังเรียกว่าบังเอิญอีกหรือ?
บอกว่าเป็นหินชั้นหนึ่งทั้งหมด แต่สุดท้ายเป็นหินขี้หมาทั้งสามก้อน
เหอะๆ ตบหน้าตัวเองชัดๆ
ฉีเจิ้นเอื้อมมือหยิบแตงโมชิ้นหนึ่งมาใส่ปากของเขาแล้วพูดว่า "หึ หึ หึ แตงโมวันนี้หวานจริงๆ เลยนะ!"
ใช่เลย 'แตง' วันนี้หวานจริงๆ
แต่หวานสำหรับฉีเจิ้นเท่านั้น เพราะสำหรับเหวยซือ มันขมจนน่าเวทนา
เจียงชื่อนั่งนิ่งๆ อยู่บนเก้าอี้แล้วเงยหน้ามองหน้าจอรายการสดนั้น มุมปากของเขาค่อยๆ โค้งขึ้น เพราะหินขี้หมาสามก้อนก่อนหน้านี้เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ทีเด็ดยังอยู่ข้างหลัง
'การแสดง' ต่อไปมันน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะหินที่ผ่าออกมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหินขี้หมา และส่วนน้อยที่เป็นหินธรรมดา แต่สำหรับหินชั้นหนึ่งแล้ว ไม่มีสักก้อนเลย
อย่าว่าแต่หินชั้นหนึ่ง แม้แต่หินหยาบธรรมดายังไม่มีเลยสักก้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...