ในเวลาเดียวกัน ณ สำนักงานผู้จัดการทั่วไปของเครื่องประดับดาวฤกษ์ ชายสองคนนั่งโง่ๆ อยู่บนเก้าอี้ ถึงแม้จะใส่เสื้อหลายตัว แต่ก็ยังรู้สึกหนาวไปทั้งตัวอยู่ดี
ซึ่งสองคนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหยวนหยาเหว่ยกับฉังหยัง
ทั้งสองคนเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่รออยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดูการถ่ายทอดสดตัดหินของเครื่องประดับเส้ายิน และทั้งสองยังคิดว่าจะได้เห็นฉากที่สมดังปรารถนา เพราะทั้งสองมีสถานะพิเศษกว่าคนอื่น จึงไม่เหมาะสมที่จะเข้าร่วมในงานได้ ทำได้เพียงชมผ่านคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ แต่สถานการณ์มันน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ โดยเฉพาะภาพที่เหวยซือเป็นลมกลางเวทีและถูกคนหามไปขึ้นรถพยาบาล มันทำให้ชายทั้งสองในออฟฟิศหดหู่อย่างอธิบายไม่ได้
แต่เรื่องมันมาถึงจุดนี้แล้ว แม้แต่คนโง่ก็คงรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอก
หยวนหยาเหว่ยปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาแล้วหายใจหอบเหนื่อยมาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นการปิดกั้น 'หนทางรอด' สุดท้ายของเขาไปแล้ว
เพราะเหวยซืออาจคิดว่าเขาได้วางแผนร่วมมือกับเจียงชื่อก็ได้?
ณ ตอนนี้ ทุกอย่างหมดกัน แผนการล้มละลาย
หยวนหยาเหว่ยขมวดคิ้วแน่นๆ เขายิ่งคิดยิ่งตื่นตระหนก ขาทั้งสองข้างก็สั่นอย่างไม่หยุด
ฉังหยังที่อยู่ข้างๆ ได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ยอมแล้ว ยอมแล้ว ผมยอมแพ้เจียงชื่อคนนี้แล้วจริงๆ ไอ้หมอนี่มันเล่นเหลี่ยมกับเรา ทำให้เราเข้าไปติดกับกลอุบายมัน แต่พวกเราก็ดันไปหลงกลมันจริงๆ เหอะๆ โง่จริงๆ"
อันที่จริง พวกเขาต้องหลงกลอยู่แล้ว
เพราะข้อมูลที่เจียงชื่อให้มานั้น มันเป็นการกดดันพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่แย่งสินค้าล็อตนี้ เครื่องประดับดาวฤกษ์จะทำเงินได้มหาศาล และจะปิดกั้นช่องทางกำไรของเครื่องประดับเส้ายิน
เพื่อประโยชน์ของตนเอง เหวยซือและหยวนหยาเหว่ยกับคนของเขาต้องถูกล่อลวงจนหลงกลแน่นอน
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้หยวนหยาเหว่ยจะเกลียดเจียงชื่อมาก แต่ในเรื่องนี้ เขาจำเป็นต้องยอมแพ้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...