บทที่ 9 เกล็ดบนตัว
ทั้งสองคนมาถึงที่งาน แว๊บเดียวก็เห็นติงฉี่ซานที่ถือกล่องของขวัญอยู่ เดินวนไปเวียนมา แสดงถึงความกระวนกระวาย
“พ่อ" ติงเมิ่งเหยนเดินเข้าไปหา
“พวกลูกมาได้อย่างไร?” ติงฉี่ซานรู้สึกแปลกใจ
ติงเมิ่งเหยนชี้ไปที่เจียงชื่อ “เขาไหว้วานเพื่อนให้ช่วยทำสิทธิ์ให้2สิทธิ์ พวกเราก็เลยมาดู”
“แล้วเขาทำให้ได้เหรอ?”
เจียงชื่อหัวเราะพูดว่า: “เพื่อนร่วมรบของผมสมัยที่ผมเป็นทหารอยู่ที่เวสเตอร์แลนด์ เขาเป็นเพื่อนกับคนที่จัดงานพิธีในครั้งนี้ ใช้เส้นสายภายในขอสิทธิ์มาได้2สิทธิ์”
ติงฉี่ซานพยักหน้า "ที่แท้อย่างนี้เอง"
ติงเมิ่งเหยนถามขึ้นมา: “พ่อ พ่อเดินกังวลไปมาอะไรเหรอ?”
ติงฉี่ซานขมวดคิ้วแน่น “ก็เรื่องมอบของขวัญน่ะสิ พ่อซื้อเหล้าหยางจวิ้นยี่ห้อเก่ามาแล้ว ปัญหาคือ ส่งให้ไม่ได้จริงๆ ลูกรู้ไหม เหล้าขวดนี้เฉลี่ยแล้วราคาแค่3หยวน6เหมาต่อขวด ให้เหล้าราคาถูกแบบนี้มันเหมาะสมจริงเหรอ? ”
เจียงชื่อตอบว่า: “ขอแค่ผู้รับผิดชอบคนนั้นเป็นผู้นำที่ร่วมเป็นร่วมตายกับพลทหาร ก็ต้องชอบเหล้าแบบนี้แน่”
“หวังว่านะ"
ในเวลานี้ ชายวัยกลางคนพุงใหญ่สองสามคนเดินเข้ามา คนแรกหัวเถิก (หมายถึงศีรษะล้าน) สวมแว่นตา
“โอ้ เหล่าติง บังเอิญจังได้เจอคุณที่นี่"
“เหล่าจ้าวนั่นเอง” ติงฉี่ซานพูดกับติงเมิ่งเหยนและเจียงชื่อ: “นี่คือคุณลุงจ้าวถงฝ่ายการตลาด กับเพื่อนร่วมงานพ่อ”
ติงเมิ่งเหยนรีบทักทาย
ลุงจ้าวคนนี้เป็นคู่ปรับกับติงฉี่ซาน ปกติทุกคนเห็นปรองดองกัน แต่ความจริงเป็นพวกตาต่อตาฟันต่อฟัน
ทั้งสองคนแข่งขันกันทุกอย่าง ครั้งนี้เพื่อให้ได้ตำแหน่งเดียวกันก็งัดข้อกันเงียบๆ
พูดได้ว่า งานพิธีรับตำแหน่งครั้งนี้ใครแสดงออกได้ดีกว่า ก็จะเกทับอีกฝ่าย ชิงขึ้นเป็นรองหัวหน้าไปก่อน
ติงฉี่ซานไม่ได้พูดถึงจ้าวถงที่บ้านแค่ครั้งเดียว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ฉะนั้นเมิ่งเหยนก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับจ้าวถงคนผู้นี้
“สวัสดีค่ะท่านลุงจ้าว” ติงเมิ่งเหยนพูดด้วยความเย็นชา
“เฮ้อ...เมิ่งเหยนสวัสดีจ้ะ ไม่เจอนานเลย เผลอแป๊บเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว”
สายตาลวนลามของจ้าวถงสำรวจไปทั่วร่างของเมิ่งเหยน จับจ้องที่เรียวขาคู่นั้นไม่หยุด กลืนน้ำลายอึกๆ ดูถ่อยมาก
ติงเมิ่งเหยนไม่สบายตัว ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ให้เจียงชื่อบังตัวไว้
“คนนี้คือ...?” จ้าวถงชี้ไปที่เจียงชื่อ
“เขาเป็นเขยของฉัน เจียงชื่อ” ติงฉี่ซานพูดขึ้นมา
จ้าวถงหัวเราะ “อ้อ คนที่พ่อหายสาบสูญ น้องชายฆ่าตัวตาย เศษสวะที่อับจนหนทางเป็นสามีที่เกาะผู้หญิงกินน่ะเหรอ ยินดีที่ได้รู้จัก”
ติงฉี่ซานกับติงเมิ่งเหยนหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมาพร้อมกัน
จ้าวถงไม่สนใจความรู้สึกของเจียงชื่อ พูดต่อไปว่า: “เหล่าติง ผมว่าคุณก็เหลือเกิน ทำไมถึงทนคนที่เอาแต่กินเอาแต่ดื่มเฉยอย่างนี้ได้นะ? ถ้าเป็นผม ไล่ออกจากบ้านไปนานแล้ว ให้หย่าขาดกับลูกสาว ถ้าพูดแบบไม่น่าฟัง ต่อให้คนแก่สูงวัยอย่างผมเป็นลูกเขยคุณ ก็ยังดีกว่าไอ้เศษสวะพรรค์นี้”
“เหล่าจ้าว!” ติงฉี่ซานส่งเสียงตวาดขึ้น
จ้าวถงโบกมือไปมา “โธ่ๆๆ โมโหเหรอ? ผมแค่ล้อคุณเล่น ฮ่าๆ อย่าถือสา คือว่า ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อน”
จ้าวถงจงใจเดินผ่านตัวเจียงชื่อไป ส่งสายตายั่วยุไปที่เขา แล้วก็มองติงเมิ่งเหยนที่อยู่ด้านหลังเจียงชื่อ อดเลียริมฝีปากขึ้นมาไม่ได้
สายตานั้นเผยถึงความชั่วร้าย ชวนให้คนรู้สึกขยะแขยง
ผู้น้อยที่ตามติดจ้าวถงก็แยกย้ายกันไป
พอผู้คนไปกันหมด เมิ่งเหยนกระทืบพื้นอย่างหนัก “คนชั่ว เศษสวะ!”
ติงฉี่ซานหน้าดำคร่ำเครียด แน่นอนเขาก็โมโห แต่ที่มากกว่านั้นคือจำใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...