ในที่สุด สือเหวินปิ่งก็ร้อนใจและด่าออกมาว่า "พ่อ พ่อเป็นคนขี้ขลาดมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่ของผมจะดูถูกพ่อ แล้วหนีตามเศรษฐีไปเมืองเมืองหลวง!"
ประโยคนี้เสียดแทงเข้าไปในปอดของสือควน
สือควนเป็นคนทำอะไรลังเล ชักช้าอืดอาด นี่คือเหตุผลที่ภรรยาดูถูกเขาและหนีตามเศรษฐีไปเมืองเมืองหลวงในที่สุด ทิ้งสามีและลูกชาย ทิ้งครอบครัวไป
นี่คือรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันหายในหัวใจของเขาตลอดกาล
"เด็ดเวร!"
"ไอ้สัตว์!"
"เนรคุณ!"
สือควนโกรธจัดถึงกับด่าสามคำติดต่อกัน ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนหน้าของสือเหวินปิ่งจนเลือดออกจากปาก
ทุกคนในที่นี้เงียบลงทันที
สือเหวินปิ่งเอามือปิดหน้า จ้องเขม็งมาที่สือควน
บอดี้การ์ดทั้งสองก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดสอด นี่คือเรื่องภายในครอบครัว ไม่สะดวกที่จะพูดอะไร
เกิดความเงียบงันขึ้นเป็นเวลานาน
สุดท้ายสือควนก็นั่งลงและพูดอย่างอ่อนแรง "ดี ดี ดี! วันนี้ฉันจะแข็งแกร่งให้แกเห็น"
เขาโบกมือ "จัดการเจิ้งป๋อหยาง"
สือเหวินปิ่งดีใจ "ถูกแล้วพ่อ แบบนี้สิพ่อถึงจะเป็นลูกผู้ชาย!"
เจิ้งป๋อหยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตกใจกลัว อย่างไรสือควนก็ไม่เคยบิดพลิ้วกับลูกชาย ดูท่าทางวันนี้เขาจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ตรงนี้แน่
เขาต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
แต่นักศึกษาที่อ่อนแอคนหนึ่งจะสามารถสู่กับบอดี้การ์ดร่างกำยำสองคนได้อย่างไร?
หลังจากที่บอดี้การ์ดทั้งสองได้รับคำสั่ง คนหนึ่งก็เข้ามาควบคุมเจิ้งป๋อหยาง อีกคนก็ใช้แขนที่แข็งแรงรัดคอของเขาไว้ กำลังนั้นแข็งแกร่งมากอย่างกับงูเหลือมพันรอบสัตว์ตัวเล็ก พยายามทำให้เขาหายใจไม่ออกจนตาย
วิธีตายแบบนี้สามารถรักษาอวัยวะทั้งหมดในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย และยังเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการฆ่าคน
ในตอนแรกเจิ้งป๋อหยางยังคงขัดขืน แต่ค่อยๆ รู้สึกว่าหายใจลำบาก ลำคอของเขากำลังจะถูกบีบแตก
เขาค่อยๆ หมดสติไปอย่างช้าๆ
"ฉัน...จะตาย......แล้วเหรอ..."
ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ เสียงฝีเท้าก็ทยอยเดินเข้ามา ชายหลายคนในชุดตำรวจได้เดินเข้ามา
คนที่นำหน้าคือเซี่ยเมิ่งจื้อ หัวหน้าทีมตำรวจ
"ทำอะไรอยู่น่ะ?" เซี่ยเมิ่งจื้อตะโกนเสียงดัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบท้าโลก
บทที่ 1 2 3 หาย...