จอมยุทธ์กบฏโลก นิยาย บท 16

สรุปบท บทที่16 ฉันขอรถMercedes-Benz: จอมยุทธ์กบฏโลก

บทที่16 ฉันขอรถMercedes-Benz – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมยุทธ์กบฏโลก

ตอนนี้ของ จอมยุทธ์กบฏโลก โดย เหมยปาเหย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่16 ฉันขอรถMercedes-Benz จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่16 ฉันขอรถMercedes-Benz

“แม่งเอ้ย แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ลองมาต่อยฉันอีกครั้งสิ! ”

เมื่อมองไปที่ฉู่เทียนเจียง ความโกรธของเฉินเสี่ยวเฟิงปะทุถึงขีดสุด ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายขนาดนี้มาก่อน

ในขณะที่ฉู่เทียนเจียงจะโทรศัพท์ ทันใดนั้นมีกลิ่นหอมโชยมา หลังจากนั้นเฉินหว่านได้ยืนบังเขาไว้

“เฉินเสี่ยวเฟิง มีอะไรก็มาลงที่ฉัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉู่เทียนเจียง”

ในตอนนี้ เฉินเสี่ยวเฟิงหัวเราะออกมา

“อ้อ แกชื่อว่าฉู่เทียนเจียงเหรอ วันนี้ถ้าฉันไม่สามารถทำให้แกเป็นง่อยเป็นอัมพาต ฉันจะไม่ใช้นามสกุลเฉินอีก พวกแกไปหักขาสองข้างของมันเดียวนี้”

เขาโบกมือส่งสัญญาณ ในจินตนาการเขาคิดว่าสองคนนั้นจะวิ่งไปข้างหน้าแต่มันไม่ได้เกิดขึ้น ทุกอย่างเงียบสงบไม่มีการเคลื่อนไหว เฉินเสี่ยวเฟิงอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับ สองคนนี้ที่เป็นบอดี้การ์ดคนสนิทของคุณปู่ เป็นยอดฝีมืออันดับสามและสี่ พวกเขายืนอยู่กับที่ไม่กล้าขยับตัว ที่หน้าประหลาดที่สุดคือ หน้าผากของทั้งสองคนเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น

“พวก……พวกเจ้าไม่สบายเหรอ?”

หลังจากเฉินเสี่ยวเฟิงถามด้วยความไม่เข้าใจ ฉู่เทียนเจียงมองไปที่บอดี้การ์ดสองคนนั้น เหมือนกับว่าคิดอะไรบางอย่างออก เขาก็เก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงทันที

“ในเมื่อพวกเจ้ามาแล้ว งั้นกลับไปบอกเฉินเจียงเหอ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉินหว่านจะทำอะไรก็ได้ ถ้าพวกเจ้ายังเข้ามายุ่งกับเธอ อีก ฉันจะไปบ้านตระกูลเฉินด้วยตัวเอง”

พอพูดจบขณะกำลังจับมือเฉินหว่านเพื่อจากไป เฉินเสี่ยวเฟิงรีบกระโดดเข้ามาขวาง

“แม่งเอ้ย เจ้ากล้าดียังไงเรียกชื่อของคุณปู่แบบนี้ เจ้าอยาก……”

“รำคาญ หนวกหู! ”

เขาตบไปที่หน้าเฉินเสี่ยวเฟิงอีกครั้ง เฉินเสี่ยวเฟิงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมองอีกครั้ง ใบหน้าครึ่งซีกของเขาเต็มไปด้วยเลือดและน่ากลัวมากๆ

ไม่ว่าเฉินหว่านจะดิ้นยังไง ฉู่เทียนเจียงก็ไม่สนใจ เดินตรงไปขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่ง และหายไปจากถนนเส้นนี้อย่างรวดเร็ว

เฉินเสี่ยวเฟิงที่ตกอยู่ในความเจ็บปวด มองบอดี้การ์ดสองคนที่ไม่กล้าขยับตัวด้วยความโกรธ ตะโกนด่าว่า

“พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ?อ้า!ไม่เห็นหรือว่าข้าโดนตบ?พวกเจ้าจงจำไว้ ข้าจะเอาเรื่องนี้กลับไปฟ้องคุณปู่”

บอดี้การ์ดสองคนสบตากัน ทั้งสองเช็ดเหงื่อเย็นออก เมื่อกี้ไม่ใช่พวกเขาไม่อยากเอ่ยปากช่วย แต่คือไม่กล้าพูดออกมา ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ การเงียบไม่พูดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ข้างหูยังเต็มไปด้วยคำด่าทอของเฉินเสี่ยวเฟิง ทั้งสองคนขมวดคิ้ว และแสยะยิ้มออกมา

“จะฟ้องท่านเฉินเหรอ?ก็แล้วแต่คุณเลย พวกเราให้โอกาสนี้กับคุณ”

“เฉินเสี่ยวเฟิง ฉันเกรงว่าฐานะคุณชายของคุณอาจจะจบลงตรงนี้แล้ว”

อะไรนะ?เฉินเสี่ยวเฟิงตะลึงชั่วครู่ จากนั้นเขายิ้มออกมา แต่รอยยิ้มไปกระทบบาดแผลของเขา ทำให้เขาเจ็บปวดจนตัวสั่น

ผ่านไปสักพักขณะที่เขากำลังจะพูด กลับถูกบอดี้การ์ดสองคนโยนเข้าไปในรถยนต์ การกระทำนั้น ไม่ได้มีความสุภาพหรือเกรงใจ ทำเหมือนเขาไม่ได้เป็นคุณชายของตระกูลเฉินเลย

เพราะอะไร เขาสองคนเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวเฉินเจียงเหอ วันนั้นที่ไปห้างประมูลพวกเขาก็ไปด้วย พวกเขาสองคนได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตาตัวเอง ไม่ได้คาดคิดว่าผ่านไปไม่กี่วัน เฉินเสี่ยวเฟิงที่เป็นหลานไม่เอาไหนคนนี้จะกล้าไปมีเรื่องกับคนน่ากลัวอย่างฉู่เทียนเจียง แค่โดนปลดจากฐานะคุณชายของตระกูล ยังเป็นการลงโทษที่เบาไปด้วยซ้ำ

ในเวลาเดียวกัน บนรถแท็กซี่ เฉินหว่านรู้สึกงงมากๆ

“นี่……เฉินเสี่ยวเฟิงยอมปล่อยพวกเราจากไป?ไม่น่าเชื่อจริงๆ”

คุณควรรู้ว่าพวกเขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณปู่ ถึงแม้พวกเขาจะสู้กับคนนับร้อยในเวลาเดียวกันไม่ได้ แต่พวกเขาก็เป็นยอดฝีมือ แค่รับมือกับฉู่เทียนเจียงที่พึ่งออกจากกองทัพไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อกี้พวกเขายืนนิ่งราวกับก้อนหิน แม้แต่เฉินเสี่ยวเฟิงโดนตบหน้าอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาช่วย

“ผมเคยพูด จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย คุณวางใจได้ ภายในสองชั่วโมง คุณปู่เฉินเจียงเหอจะโทรศัพท์มาหาคุณ ถึงเวลาจะให้อภัยเขาหรือไม่ ก็แล้วแต่คุณจะตัดสินใจ”

เธอมองฉู่เทียนเจียงอย่างไม่น่าเชื่อ เฉินหว่านงงมากๆ

“คุณปู่ของฉัน……จะโทรศัพท์มาหา?เป็นไปไม่ได้! ”

มุมปากของฉู่เทียนเจียงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อเห็นฮัวจิ่นถิงพยักหน้า ฮัวเหวินฮุยตบหน้าขาอย่างกะทันหัน

“ช่างเถอะ ดูเหมือนว่าฉู่เทียนเจียงจะเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้เขาดีกับเธอและอีอี งั้นพ่อก็จะดีต่อเขาให้มากขึ้น เคารพซึ่งกันและกัน”

หลิวหลานที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มและพูดว่า

“ใช่แล้ว คนๆหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เราก็ควรให้โอกาสเขา พวกเราควรดีกับเทียนเจียงมากๆ เธอก็ด้วย อย่าถือสาเขาเลยปล่อยวางได้แล้ว”

ฮัวจิ่นถิงที่กำลังดีใจเมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป

“คุณพ่อคุณแม่ เรื่องของหนูพวกท่านไม่ควรมายุ่ง สี่ปีที่ผ่านมาประสบการณ์ที่ฉันกับอีอีได้รับ มันไม่สามารถชดเชยกันได้ง่ายๆ

คนแก่สองคนก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม ฮัวเหวินฮุยลุกขึ้น มองกุญแจรถที่อยู่ในมือแล้วรู้สึกตื่นเต้น

“พ่อจะไปขยับรถเลยตอนนี้ เฮ้อๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพ่อจะมีวันที่ได้ขับรถหรู่ที่มีมูลค่ามากว่าห้าแสน”

ทันทีที่ถึงหน้าประตู ประตูบ้านก็เปิดออกเอง ฮัวเมิ่งหยวนก็เดินเข้ามา

“คุณพ่อ ดึกขนาดนี้พ่อจะไปทำอะไร?และรถMercedes-Benzที่จอดอยู่หน้าโรงจอดรถเป็นของใคร ทำไมถึงมาจอดที่หน้าบ้านเราแบบนี้”

ฮัวจิ่นถิงรู้ว่า การที่น้องสาวฮัวเมิ่งหยวนกลับมาที่บ้าน เป็นเพราะเธอได้ส่งข้อความทางWeChatไปบอก สำหรับน้องสาวคนนี้ เธอทั้งรักทั้งแค้น

“รถMercedes-Benzคันนี้พี่เขยซื้อให้พี่สาว พ่อจะไปขยับรถก่อน อ้อพูดผิด พ่อจะไปขับรถMercedes-Benzเข้าไปจอดในโรงจอดรถ”

อะไรนะ?ถ้าไม่ได้เห็นกุญแจรถที่อยู่ในมือของพ่อ ฮัวเมิ่งหยวนคงไม่กล้าเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง

เวลาต่อมา ฮัวเมิ่งหยวนรีบเข้าไปกอดที่แขนของฮัวเหวินฮุย

“คุณพ่อ!รถMercedes-Benzคันนี้ ให้หนูเอาไปใช้ได้ไหม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมยุทธ์กบฏโลก