บทที่ 13
“หิวรึเปล่า หาอะไรกินหน่อยไหม” เขาหันมาถามระหว่างทางที่กำลังพาเธอไปส่งที่คอนโด ในขณะที่เธอเพียงส่ายหน้าแทนคำตอบ
“แล้วเจ็บตรงไหนบ้าง ไปให้หมอตรวจดูหรือจะให้แวะร้านยาดี” เธอยังส่ายหน้าดังเดิม แต่ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอาทรของเขาก็ทำให้เธอปริปากออกมาในที่สุด
“ขอบคุณนะ” แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายของเธอตอนนี้ ทำให้เขาค่อยๆ ยื่นมือไปลูบที่หัวเธอเบาๆ
“เวลาที่เธอเงียบ มันดูไม่ใช่เธอเลยนะรู้ไหม” เขาพยายามหยอกล้อด้วยการเปลี่ยนจากลูบมาเป็นขยี้ผมเธอแทน
“เฮ้อ! ทำไงได้ สภาพฉันตอนนี้มันไม่ไหวเลยจริงๆ เอาไว้กลับไปนอนชาร์จแบตสักเจ็ดแปดชั่วโมงก็น่าจะดีขึ้น…แหละมั้ง” เธอว่าพลางหลับตาพิงพนักด้วยความรู้สึกที่ผ่อนคลายขึ้น
“งั้นพรุ่งนี้ฉันอนุญาตให้เธอลาได้หนึ่งวัน”
“มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละ ฉันไม่ยอมให้จันทร์เจ้าเห็นฉันในสภาพหน้าเยินแบบนี้หรอก อ้อ! งั้นฉันฝากโน้ตนี่ให้เขาซ้อมไปพลางๆ ก่อนละกันนะคะ” เธอหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ ก่อนจะทิ้งตัวพิงพนักดังเดิม ด้วยร่างกายกำลังอยากพักเต็มที กระทั่งถึงคอนโด
“ไปก่อนนะคุณ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ…ทุกเรื่อง” เธอลงจากรถแล้วค้อมศีรษะให้ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ
“อืม รีบขึ้นไปพักเถอะ มีอะไรก็โทรหาแล้วกัน แล้วโทรศัพท์น่ะ โทรไปก็หัดรับซะบ้าง ไม่ใช่มีเอาไว้เฉยๆ” พูดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก
“อ้อ! โทษที ฉันปิดเสียงเอาไว้น่ะ ว่าแต่คุณโทรมามีอะไรรึเปล่า” เธอรีบหยิบโทรศัพท์มือถือจากในกระเป๋าออกมาดู
“ไม่รู้สิ ฉันลืมไปแล้ว ก็ตอนที่ฉันอยากคุยเธออยากไม่รับเอง” ให้ตายสิ! เห็นผู้ชายทำท่ากระเง้ากระงอดเธอก็อดยิ้มไม่ได้
“งั้นนึกออกเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน ฉันเปิดเสียงไว้ละ” เธอว่าพลางชูโทรศัพท์ในมือให้ดูอย่างเอาใจ
“อืม!” เขาตอบรับแบบขอไปที แต่ก็มิวายหันไปลอบยิ้มอีกทาง ก่อนจะขับรถออกไป เมื่อเห็นว่าเธอเดินเข้าไปด้านในคอนโดแล้ว
เธอกดรหัสที่หน้าประตูเข้ามาในห้อง หมายจะหยิบคีย์การ์ดในกระเป๋าขึ้นมาเสียบที่ช่องเสียบคีย์การ์ดข้างประตู แต่ก็พบว่ามันดันถูกเสียบเอาไว้แล้ว ยังไม่ทันจะหาคำตอบ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“กลับมาแล้วเหรอ” เสียงเข้มๆ ของผู้ชายคนหนึ่งทำเธอสะดุ้งเฮือก พร้อมกันนั้นไฟทั้งห้องก็สว่างวาบขึ้น
“พี่ตฤณ” เธอครางเรียกพี่เขยด้วยความตกใจแกมแปลกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ