จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 15

สรุปบท บทที่ 14: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

บทที่ 14 – ตอนที่ต้องอ่านของ จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

ตอนนี้ของ จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ โดย เลอบัว ผลิกา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 14 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 14

“ฤทธิ์เยอะนักนะนังตัวดี ชอบซาดิสม์ก็ไม่บอก ฉันจะจัดให้สาสมเลยคอยดู” สิ้นเสียงเสื้อเธอก็ถูกกระชากแรงๆ จนฉีกขาด ตามมาด้วยใบหน้าของอีกฝ่ายที่ก้มลงมาหมายจะซุกไซ้ที่เนินอกซึ่งมีเพียงเศษผ้าปิดอยู่ ทันใดนั้น…

ผัวะ!

คนที่คิดว่าสิ้นฤทธิ์ไปแล้วกลับเอื้อมมือจนสุดปลายนิ้ว เพื่อหยิบกระถางกระบองเพชรบนโต๊ะ แล้วใช้มันฟาดเข้าที่หัวอีกฝ่ายเต็มแรง

“อ๊าก!” ตฤณร้องเสียงหลงพลางเอามือกุมหัว ครั้นพอเห็นว่าเลือดสีแดงสดไหลผ่านขมับลงมา เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

“ตายซะเถอะนังสารเลว” สิ้นเสียงคนที่กำลังบันดาลโทสะก็ยื่นมือมาบีบคอเธอทันที แน่นอนว่าด้วยพละกำลัง เธอไม่มีทางหนีพ้นเงื้อมมือปิศาจใจโฉดตนนี้ไปได้แน่ๆ

คนที่กำลังจะขาดอากาศหายใจรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นทุกที ทางรอดที่ริบหรี่ทำให้น้ำตาเธอค่อยๆ ไหล เมื่อคิดว่าจะต้องมาตายอนาถแบบนี้ จากที่เคยดิ้นรนขัดขืน เรี่ยวแรงที่เคยมีก็เริ่มหดหาย มือไม้ที่เคยทั้งทุบทั้งตีก็ร่วงหล่นลงข้างตัว แต่ระหว่างที่ภาพตรงหน้ากำลังจะมืดดับ เธอเหมือนถูกฉุดให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ผลั่ก! แรงกระแทกหนักๆ จากแรงถีบทำเอาคนที่กำลังบีบคอเธอกระเด็นไปชนกับขอบโต๊ะข้างๆ จนเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้น

“แค็กๆๆ” มีนาไอหน้าดำหน้าแดงทันทีที่เป็นอิสระและกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ในขณะที่เจตต์ก็รีบเข้ามาประคองเธอให้ลุกขึ้น กระทั่งเห็นสภาพยับเยิน ไม่ว่าจะเป็นเลือดที่มุมปาก รอยแดงเพราะแรงบีบที่คอ และเสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยของเธอ ความโกรธของเขาก็พุ่งทะยานจนนัยน์ตาวาวโรจน์

“มึงเป็นใคร มาเสือกอะไรด้วย” คนที่ถูกถีบจนล้มหน้าคว่ำลุกขึ้นมาโวยวายด้วยความโกรธเกรี้ยวไม่แพ้กัน

“ไอ้เจตต์” ตฤณตะโกนเรียกชื่อทันทีที่ได้เห็นหน้าคนที่ทำร้ายตัวเองชัดๆ ในขณะที่เจ้าของชื่อก็หันขวับไปมองนัยน์ตาดุกร้าว ราวกับจะฉีกฝ่ายนั้นให้เป็นชิ้นๆ

“มึงมายุ่งอะไรด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง กลับไปซะ กูจะถือว่ามึงไม่เคยมาที่นี่ แล้วมึงกับกูก็ยังจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” ตฤณยักไหล่ด้วยความมั่นใจตามประสาคนที่มีพ่อเป็นนักการเมืองคอยหนุนหลังมาตลอด แน่นอนว่าเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็ให้ความเกรงใจ บางคนถึงกับตกเป็นเบี้ยล่าง ยอมเป็นทาสรับใช้เพียงเพราะอำนาจเงินและบารมีที่อีกฝ่ายมี แต่ไม่ใช่กับเจตต์ ที่แน่นอนว่าอีกฝ่ายก็เป็นแค่คนรู้จักสำหรับเขาเท่านั้น

“กูไม่เคยมีเพื่อนอย่างเลวๆ อย่างมึง” สิ้นเสียงเขาก็กระโจนใส่ ทำเอาอีกฝ่ายล้มหงายลงไปกับพื้น

“คนอย่างมึง มันสมควรตาย ไอ้สารเลว วันก่อนมึงก็สั่งให้เพื่อนวางยาเพื่อจะทำลายเขา ถ้ากูไปช่วยไว้ไม่ทัน ผู้หญิงคนหนึ่งคงเหมือนตกนรกทั้งเป็นเพราะถูกมึงข่มเหง มาวันนี้มึงยังมาทำร้ายน้องเขาอีก” เขารัวกำปั้นกระแทกลงบนใบหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยที่รายนั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้

ตอนที่เขาขับรถออกไปจากคอนโด พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคีย์การ์ดวางอยู่บนเบาะ ก็เดาได้ทันทีว่าเธอคงลืมเอาไว้

“เฟอะฟะจริงๆ หึๆ เก็บไว้เป็นตัวประกันดีกว่า เผื่อว่ามันจะทำให้เธอทำตัวดีๆ เวลาที่เจอฉัน” เขาคิดอย่างหมายมาดว่าจะใช้คีย์การ์ดใบนี้ต่อรองให้เธอยอมทำตามที่ตัวเองสั่ง แต่แล้ว…ภาพใบหน้าที่มีรอยช้ำของเธอวันนี้ ทำให้เขาต้องหันหัวรถกลับไปทางเดิมอย่างไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย

“เฮ้อ! เห็นแก่ที่วันนี้เธอต้องเจ็บตัวหรอกนะ ฉันจะยอมเธอสักวัน แล้วอย่าคิดละว่าฉันอยากกลับไปเห็นหน้าเธอ” เขาพูดกับคีย์การ์ดใบนั้นประหนึ่งว่ามันคือเธอ กระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ครั้นพอเห็นว่าเป็นเบอร์เธอ เขาก็กระหยิ่มยิ้มย่องทันที

“หึ! เป็นเธอหรอกนะที่เรียกฉันกลับไป หรือว่าเราจะเล่นตัวดี” คนบอกจะเล่นตัวดันกดรับอย่างทันท่วงที

“อะแฮ่ม! มีอะไร” เขาพยายามทำเสียงขรึมในขณะที่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้ม แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็กลายเป็นเครียดขรึม เมื่อเสียงที่ได้ยินดันเป็นเสียงของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังถกเถียงกัน และเขาก็จำได้ดีว่าเสียงผู้หญิงคนนั้นคือเธอ จากที่ขับเอื่อยเฉื่อยในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นเหยียบคันเร่งจนแทบมิด พร้อมกันนั้นก็คอยฟังเสียงในสายตลอดเวลา กระทั่งได้รู้ว่าเธออยู่ห้องไหน และไปช่วยเธอได้ทันเวลา

อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขามาช้ากว่านั้นอีกนิด เธอจะเป็นอย่างไร คิดมาถึงตรงนี้ลำคอเขาก็ตีบตันจนแทบหายใจไม่ออก พลันกอดรัดเธอแน่นขึ้นอีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ