สรุปเนื้อหา บทที่ 19 – จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ โดย เลอบัว ผลิกา
บท บทที่ 19 ของ จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เลอบัว ผลิกา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 19
“ฉันไม่เคยไม่รักแก” ผู้เป็นแม่บอกเสียงพร่า
“งั้นถ้าหนูบอกว่า ไอ้สารเลวนั่นต่างหากที่มันทำร้ายหนู มันพยายามจะข่มขืนหนู แม่จะเชื่อหนูไหม” เธอโพล่งออกไปด้วยความหวัง
“อย่าพูดพล่อยๆ แบบนั้นมีนา ขอโทษพี่เขาซะ แกควรจะสำนึกบุญคุณที่เขาอุตส่าห์ให้ที่แกซุกหัวนอนถึงจะถูก” ผู้เป็นแม่เอ็ดเสียงเขียวขึ้นมาอีก
“สุดท้ายแม่ก็ไม่เชื่อหนู” สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง ต่างกับตฤณที่กำลังลอบยิ้มมุมปาก ในขณะที่เจตต์ก็กำลังจ้องมองมาด้วยนัยน์ตาดุกร้าว แต่รายนั้นก็ไม่ได้นำพา กลับหันมายักคิ้วหลิ่วตาอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า ก่อนจะยั่วยวนด้วยการหันไปเรียกคะแนนสงสารต่อ
“อย่าไปว่าน้องเลยครับ อย่าให้ผมต้องเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องทะเลาะกันเลยครับ ถ้าจะมีคนผิด ก็คงเป็นผมเองที่เข้าไปยุ่ง แต่ที่พี่ทำไปเพราะพี่หวังดีนะครับน้องมัด พี่เห็นเราเป็นเหมือนน้องคนหนึ่ง ในฐานะพี่ชายพี่จึงไม่อยากให้เราหลงผิด กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ทุกคนให้โอกาสมัดเสมอ เชื่อพี่นะ” หลังจากพูดกับแม่ยาย ตฤณก็หันมารับบทพี่ชายที่แสนดีกับมีนาต่อ
“หุบปากโสโครกของแกซะไอ้สารเลว อย่างแกมันก็เก่งแค่เรื่องรังแกผู้หญิงเท่านั้นแหละ ไอ้หน้าตัวเมีย” มีนาหันไปผรุสวาทใส่ด้วยความเดือดดาล จนทำให้ศรีไพรต้องตวาดใส่ลูกสาวเสียงดัง
“มีนา! ฉันไม่เคยสอนให้แกมีนิสัยก้าวร้าวแบบนี้ ขอโทษพี่เขาซะ” ตฤณลอบยิ้มอีกครั้ง แน่นอนว่าคนที่มีอิทธิพลต่อเธอมากที่สุดเลือกที่จะอยู่ข้างเขา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอีกเดี๋ยวเธอก็จะต้องกลับมาอยู่ในกำมือเขา แต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด
“ไม่ค่ะ ทำไมหนูต้องขอโทษคนเลวอย่างมันด้วย มันต่างหากที่ต้องขอโทษหนู แต่ต่อให้มันก้มลงกราบตรงนี้ หนูก็ไม่มีวันให้อภัยมันเด็ดขาด ถ้าหนูต้องขอโทษไอ้สวะนั่น ให้หนูไปกราบหมาข้างถนนยังจะรู้สึกดีกว่า” เธอประกาศกร้าว ดูเหมือนนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอคิดแข็งข้อและต่อต้านผู้เป็นแม่
“มีนา!” อีกครั้งที่ผู้เป็นแม่แผดเสียงกร้าวพร้อมกับเงื้อมือหมายจะตบหน้าลูกสาว แต่มือนั้นก็ถูกเจตต์คว้าเอาไว้
“ถ้าคุณจะตบลูกเพื่อสั่งสอนในฐานะแม่ ผมจะไม่ยุ่ง แต่ถ้าคุณตบเพียงเพราะหลงเชื่อคำพูดจากปากคนสารเลวนั่น ผมคงอยู่เฉยไม่ได้” เขาบอกพลางปล่อยมืออีกฝ่าย แล้วดันตัวมีนาให้ไปยืนหลบอยู่ด้านหลัง ทำเอาเธอถึงกับมองด้วยความซาบซึ้ง แล้วขยับเข้าไปพูดกับเขาเบาๆ
“ขอบคุณนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะปกป้องเธอ” เขาเอี้ยวตัวมากระซิบตอบ ทำเอาตฤณที่เห็นทุกอย่างถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“คุณเป็นใคร มายุ่งอะไรด้วย” ศรีไพรถามพลางชักสีหน้า แต่ยังไม่ทันที่เจตต์จะได้ตอบ เมษาที่นั่งเงียบมาตลอดก็แทรกเข้ามา
“ถ้าจำไม่ผิด คุณคือคุณเจตต์ เจ้าของห้างและโรงแรมที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศใช่ไหมคะ” เมษาถามพลางขยับมามองหน้าเขาใกล้ๆ
“ครับ” เจตต์เพียงตอบสั้นๆ
“อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลยค่ะ คนดีๆ อย่างคุณไม่ควรลดตัวลงไปเสวนากับคนชั่วพรรค์นั้น เราไปจากที่นี่กันเถอะค่ะ” เธอบอกด้วยสีหน้าสิ้นหวังเต็มทน ทำให้เขาจำต้องหันไปพูดกับแม่ของเธออีกครั้งอย่างต้องการจะช่วย
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าอะไรทำให้พวกคุณปักใจเชื่อคำพูดของไอ้เลวนั่นมากกว่าคำพูดของคนที่คุณเรียกว่าครอบครัวได้ยังไง แต่ผมก็ยังหวังว่าพวกคุณจะเปิดใจรับฟังในสิ่งที่พวกเราจะพูดบ้าง” เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะทวงความยุติธรรมให้ ซึ่งเธอเองก็ซึ้งใจ แต่พอเห็นว่าผู้เป็นแม่ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เขาขอ เธอจึงโพล่งออกมาด้วยความเด็ดเดี่ยว
“ช่างเถอะ! ในเมื่อเขาเลือกจะเชื่อแบบนั้นแล้ว พูดอะไรไปก็คงเปล่าประโยชน์ เราไปจากที่นี่กันเถอะ” เธอว่าพลางจับจูงมือเขาให้เดินออกไป
“แกยังไปไหนไม่ได้ แกต้องคุยกับฉันให้รู้เรื่องก่อน” ผู้เป็นแม่สั่งเสียงเขียว
“ในเมื่อแม่ไม่เชื่อหนู หนูก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก”
“งั้นแกก็ควรจะขอโทษคุณตฤณก่อน” สิ่งที่ผู้เป็นแม่บอก ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งๆ มาจุกที่หน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก ตอนนี้แค่จะร้องไห้ เธอยังร้องไม่ออก
“เคยมีสักครั้งไหมที่แม่เลือกจะอยู่ข้างหนู” เธอมองบุพการี ก่อนหันหลังเดินจากไปด้วยความสิ้นหวัง แต่แล้วเท้าทั้งคู่จำต้องหยุดชะงักอีกครั้ง
“ถ้าแกก้าวออกไปแม้แต่ก้าวเดียว เราขาดกัน ต่อไปไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่อีก” การยื่นคำขาดของศรีไพรทำให้ตฤณหยักยิ้มร้ายกาจอีกครั้ง ด้วยมั่นใจว่าอย่างไรเธอก็ไม่กล้าขัดคำสั่งผู้เป็นแม่แน่ๆ แต่แล้วทุกอย่างก็ผิดคาด เมื่อเธอเลือกที่จะเดินต่อไป โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ