สรุปตอน บทที่ 33 – จากเรื่อง จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ โดย เลอบัว ผลิกา
ตอน บทที่ 33 ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ โดยนักเขียน เลอบัว ผลิกา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 33
เช้าของอีกวัน หลังตื่นนอนเธอก็รีบออกมาหาคนที่คิดว่ายังนอนอยู่บนโซฟา แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา มีเพียงกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ ที่แปะเอาไว้ข้างชามข้าวต้มเท่านั้นที่เขาทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
‘ก่อนออกไปทำงานอย่าลืมกินมื้อเช้าด้วย’ ให้ตายสิ! ถึงแม้จะไม่มีข้อความหวานๆ อยู่ในกระดาษแผ่นนี้ แต่เธอก็รับรู้ได้ถึงความใส่ใจที่เขามีให้ และมันก็ทำให้เธอแทบหุบยิ้มไม่ได้
“เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงได้อยากเป็นผู้หญิงที่โชคดีของคุณ…คุณเจตต์” เธอยิ้มกับกระดาษโน้ตใบเดิม ประหนึ่งว่ามันคือคนเขียน และเชื่อเถอะว่าข้าวต้มชามนี้จะอร่อยกว่าข้าวต้มที่เคยกินมา
หลังจากจัดการมื้อเช้าเสร็จ เธอก็รีบแต่งตัวเพื่อลงไปทักทายเขาก่อนออกไปทำงาน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“Morning ค่ะคุณเจตต์” เธอเปิดประตูพร้อมกับส่งเสียงมาแต่ไกล ทำเอาคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจเอกสารจำต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“ทำไมยังไม่ไปทำงาน” เขาถามพลางยกข้อมือดูเวลา
“ก็กำลังจะไปนี่แหละ แต่แวะมา Morning คุณก่อน อา…! ขอเปลี่ยนเป็น Morning kiss แทนได้ไหม” ว่าแล้วคุณเธอก็รีบขยับเข้ามาใกล้ด้วยสายตาเป็นประกาย
“ถ้าไม่อยากให้หน้าผากมีรอยแดงตอนไปสอนก็เข้ามา” ไม่ใช่แค่ขู่ แต่เขายังชูมือขึ้นทำท่าดีด ทำเอาคนที่อยาก Morning kiss ถึงกับชะงักเท้าแทบไม่ทัน สุดท้ายจึงได้แค่ยืนทำปากขมุบขมิบบ่นพึมพำอยู่ที่เดิม
“เชอะ! ทำเป็นเล่นตัว ถึงทีฉันเมื่อไหร่ แม้แต่ปลายก้อยแม่ก็ไม่ให้จับคอยดู” บ่นเสร็จเธอก็หันกลับไปทางประตู
“งั้นฉันไปก่อนนะคุณ”
“เดี๋ยว!” เสียงเรียกของเขาทำให้เธอหันขวับกลับมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ดังเดิม
“ได้กินข้าวต้มที่ฉันเตรียมให้รึเปล่า”
“ขืนไม่กิน คุณได้บ่นฉันหูชาน่ะสิ ขอบคุณนะคะสำหรับอาหารเช้าที่มีประโยชน์ ว่าแต่คุณล่ะกินมื้อเช้ารึยัง”
“นี่ไงมื้อเช้าของฉัน” เขาบอกพลางยกแก้วกาแฟขึ้นมา
“เอ้า! คุณให้ฉันกินข้าวต้ม แต่คุณกลับกินแค่กาแฟแก้วเดียวเนี่ยนะ” เธอเสียงสูงขึ้นมาทันที
“ก็ถูกแล้วนี่ เด็กควรกินอาหารที่มีประโยชน์ แล้วมื้อเช้าก็เป็นมื้อที่สำคัญ” คนถูกล้อเลียนว่าเป็นเด็กถึงกับกัดฟันกรอด
“คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ไม่มีเมียเด็กบ้างให้มันรู้ไป เออใช่! ว่าแต่อยากมีเมียเด็กบ้างไหมคุณ ฉันพร้อมนะ” จู่ๆ คุณเธอก็เปลี่ยนท่าทีเป็นยิ้มมีเลศนัย ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับปรับอารมณ์กันแทบไม่ทัน
“ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก” เขาโบกมือไล่ทันที
ขณะที่กำลังปล่อยให้เธอร้องไห้ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าคนที่กำลังสะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้คงไม่พร้อมที่จะรับสายใคร เขาจึงถือวิสาสะกดรับให้และเปิดลำโพงให้เธอได้ยิน
“ไง รสชาติของการตกงานมันเป็นยังไง นี่แค่เริ่มต้นนะ จากนี้ไปอย่าหวังว่ามึงจะไปทำงานที่ไหนได้ กูจะตามรังควานมึงไปทุกที่ ถ้าไม่อยากให้ใครต้องเดือดร้อน ก็แค่คลานกลับมาหากู ไม่งั้นแม้แต่ไอ้เจตต์ กูก็ไม่เอาไว้ กูจะทำให้โรงแรมของมันหายไปจากประเทศนี้” คำขู่ของตฤณทำให้มีนาโกรธจนตัวสั่น ก่อนจะกลายเป็นความกลัว เมื่อคนข้างๆ ถูกลากเข้าไปเอี่ยวด้วย
“ถ้าคิดว่าทำได้ มึงก็ลองดู” เจตต์ตอบก่อนตัดสายทิ้ง เมื่อพบว่าสีหน้าของคนข้างๆ ไม่สู้ดีนัก
“มีนา…ฟังฉันนะ” เขาตรึงไหล่คนที่ตอนนี้สั่นไปทั้งตัว
“ไม่…ฉันต้องไป” เธอยื่นมือสั่นๆ ไปหยิบข้าวของของตัวเอง แต่ก็ถูกเขาแย่งเอาไปจนหมด
“เธอจะไปไหนมีนา” เขาถามเสียงเครียด แน่นอนว่าจากสีหน้าท่าทางเธอตอนนี้ มันทำให้เขาทั้งห่วงทั้งกังวลไปหมด
“ฉันต้องไปจากที่นี่คุณเจตต์ ฉันต้องไป” เธอพูดซ้ำๆ พร้อมกับพยายามจะยื้อแย่งของของตัวเองที่เขาถืออยู่
“แต่ฉันไม่ให้ไป เธอบอกเองว่าไม่ให้ฉันทิ้งเธอ แล้วทำไมเธอถึงจะทิ้งฉันล่ะ”
“ฉันไม่ได้จะทิ้งคุณ แต่ถ้าฉันยังอยู่ที่นี่ คุณก็จะต้องเดือดร้อน ไม่! คุณจะมาเดือดร้อนเพราะฉันไม่ได้ ฉันยอมไม่ได้เด็ดขาด ให้ฉันไปนะคะคุณเจตต์” เธอบอกเสียงสะอื้นพร้อมกับยื่นมือไปขอของของตัวเองคืนอีกครั้ง แต่เมื่อเขาไม่ให้ จึงเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น
ต่างฝ่ายต่างยื้อยุดฉุดกระชาก กระทั่งเป็นเขาที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหว โถมตัวเข้าหา แล้วดันเธอให้เอนลงไปบนโซฟา จากนั้นก็กักเธอเอาไว้ใต้ร่าง ในขณะที่สองมือก็ตรึงแขนเธอเอาไว้เหนือหัวจนเธอไม่สามารถขยับไปไหนได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ