บทที่ 54
“ก็ฉันหิว เธอคงไม่ปล่อยให้ฉันต้องหิ้วท้องรอจนหิวโซหรอกใช่ไหม” เขาบอกเสียงพร่าพลางจับมือที่เธอใช้พรางอกอวบขึ้นมาจุมพิตอย่างอ้อยอิ่ง ถึงจะขัดเขินอยู่บ้าง แต่เธอก็อดหมั่นไส้ไม่ได้อยู่ดี
“ถ้าฉันทำให้คุณหายหิวได้จริงๆ ป่านนี้คุณคงท้องแตกไปนานแล้ว”
“อาหารทิพย์อย่างเธอกินให้ตายก็ท้องไม่แตกหรอก เพราะฉันไม่เคยรู้สึกอิ่ม ยิ่งกินก็ยิ่งเสพติด ยิ่งกินก็ยิ่งอยากกินอีก ขอกินอีกได้ไหม” คำพูดหวานหูกอปรกับสีหน้าเว้าวอนของเขาทำเธอเผลอพยักหน้าตอบ ครั้นพอได้สติก็รีบส่ายหน้าหวือ แต่เห็นจะไม่ทันกาลเสียแล้ว เมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าลงมาทาบทับริมฝีปากปิดกั้นถ้อยคำปฏิเสธ ปลุกปั่นให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับบทรักบทใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น เช่นนั้นแล้วเนื้อหวานๆ อย่างเธอจะรอดพ้นเงื้อมมือสุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ไปได้อย่างไร
สายของอีกวัน หลังจากลืมตาตื่น เธอก็รีบหลบออกไปจากห้องเงียบๆ เพื่อกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องของจันทร์เจ้า โชคดีที่เจ้าของห้องไม่อยู่ ไม่งั้นเธอคงต้องตอบคำถามยาวเหยียด
ครั้นพอก้าวออกจากห้อง เสียงโวยวายจากด้านล่างที่ดังขึ้นมาถึงชั้นบน ทำให้หัวคิ้วทั้งสองข้างของเธอขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย กระทั่งเมื่อได้ยินเสียงเด็กกรีดร้องบวกกับเสียงหมาเห่า เธอก็รีบก้าวยาวๆ ไปตามเสียง
กระทั่งเห็นภาพที่เด็กน้อยนั่งกรีดร้องอยู่กับพื้น โดยมีน้องหมาตัวโตยืนเลียหน้าเลียตาประหนึ่งกำลังปลุกปลอบเจ้านายตัวน้อย แน่นอนว่าสาเหตุการร้องไห้ของเด็กน้อยคงไม่พ้นคุณน้าหน้าดุที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่นั่นแน่ แต่อะไรก็คงไม่เลวร้ายเท่ากับการที่รายนั้นมีไม้อยู่ในมือด้วย เห็นแบบนั้นมีนาก็รีบวิ่งลงบันไดอย่างไม่คิดชีวิต
“ฉันจะตีแกให้ตายไอ้หมาบ้า” ตีรณาเงื้อมือหมายจะฟาดเจ้าหมาตัวโตที่เห่าตนอยู่ตอนนี้ ทันใดนั้นมีนาก็กระโจนเข้าไปขวางด้วยการกอดน้องหมาไว้แน่น ทำเอาคนที่เงื้อมือชะงัก แต่ก็เลือกที่จะฟาดลงไปอยู่ดี แล้วเสียงไม้กระทบหลังก็ทำเอาเหล่าแม่บ้านที่ยืนอยู่บริเวณนั้นถึงกับเอามือปิดปากด้วยความตกใจ ต่างกับตีรณาที่แอบแสยะยิ้มด้วยความสะใจ ก่อนจะต้องรีบหุบยิ้มเพราะเสียงตวาดกร้าวที่ดังมาจากอีกทาง
“ตีรณา” คนที่เพิ่งเดินลงบันไดมาและทันได้เห็นภาพเหตุการณ์พอดี ก้าวยาวๆ เข้ามาด้วยใบหน้าถมึงทึง
“ช่วยไม่ได้ ก็แม่นี่อยากเข้ามาขวางเอง” ตีรณาบอกอย่างถือดี เพราะคิดว่าความลับที่ตัวเองถืออยู่จะทำให้ตนจัดการทุกอย่างได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา หลายครั้งที่เธอได้ใจแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในบ้านหลังนี้ จนทุกคนในบ้านเอือมระอา แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน เพราะขณะที่เจ้านายตัวน้อยกำลังถูกดุจนร้องไห้ ถึงแม้จะสงสารจับใจ แต่พวกเขากลับทำได้แค่ยืนมองด้วยความรันทดใจ
“เธอมันเกินเยียวยา ออกไปจากบ้านฉันตีรณา แล้วก็ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก” คนถูกไล่ถึงกับนัยน์ตาเบิกกว้าง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เจตต์กล้าพูดแบบนี้กับตน
“พี่เจตต์กล้าไล่ณา” ตีรณาครางถามเจ้าบ้านที่ไม่แม้แต่จะไว้หน้ากัน แน่นอนว่าเธอกำลังรู้สึกเสียหน้าจนต้องหันไปมองรอบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ