จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ นิยาย บท 9

สรุปบท บทที่ 8: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

อ่านสรุป บทที่ 8 จาก จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ โดย เลอบัว ผลิกา

บทที่ บทที่ 8 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เลอบัว ผลิกา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 8

บ่ายวันต่อมา หลังจากที่เธอสอนที่สถาบันดนตรีเสร็จ เธอก็รีบตรงมายังโรงแรมเจตต์ต่อ

“ชื่อโหลชะมัด” เธอมาหยุดยืนมองป้ายชื่อโรงแรมแล้วก็บ่นงึมงำ ก่อนจะรีบเข้าไปข้างใน ใช่! เธอรับงานที่นี่ไว้ ซึ่งวันนี้ดูเหมือนเธอจะแต่งตัวดีเป็นพิเศษ จากที่เคยใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีน ม้วนผมเป็นทรงโดนัทยุ่งๆ ไว้กลางหัว วันนี้เปลี่ยนมาใส่ชุดกระโปรงเสมอเข่า อีกทั้งผมยาวๆ ก็ถูกปล่อยสยายถึงกลางหลัง และติดกิ๊บที่ข้างหู ส่งให้เธอดูน่ารักน่าทะนุถนอม

“สวัสดีค่ะคุณสจี” มีนาถูกพามาพบผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่ห้อง

“อ้อ! มาแล้วเหรอ พร้อมเริ่มงานแล้วใช่ไหมค่ะ” เมื่อเห็นเธอพยักหน้ารับ ทั้งคู่จึงพากันออกมายังสถานที่ที่เธอต้องทำงาน

“ที่นี่เหรอคะ” มีนาหันไปถามหัวหน้าฝ่ายบุคคลอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก เมื่อพบว่าสถานที่ตรงหน้าถูกจัดไว้ประหนึ่งบรรยากาศในสวนที่ร่มรื่น ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเทพนิยาย แต่ติดตรงที่ว่า…เธอดันไม่ใช่เจ้าหญิง และยังห่างไกลจากคำคำนี้อีกโข

“อืม ดูเหมือนเสื้อผ้าหน้าผมเธอจะเข้ากับที่นี่พอดีนะ” สจีไล่มองเธอตั้งแต่หัวจดเท้าแล้วก็พยักหน้าด้วยความพอใจ นับว่าเป็นความโชคดีของเธอสินะที่อุตส่าห์ไปหยิบยืมชุดนี้มาจากพี่สาว เพราะคิดว่าวันแรกควรให้เกียรติสถานที่ หลังจากคุ้นเคยแล้ว เธอก็คงกลับมาเป็นตัวเองได้ แต่เห็นแบบนี้แล้ว...คงยาก

“เอาละ ฉันจะอธิบายรายละเอียดคร่าวๆ ให้เธอฟัง เธอจะเล่นที่นี่แค่วันละสองชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนมีงานจัดเลี้ยง เธอก็ต้องไปเล่นด้วย ซึ่งงานเลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นช่วงกลางคืน นั่นหมายความว่าเธอจะได้รับค่าแรงเป็นสองเท่าจากเวลาปกติ ติดปัญหาอะไรไหม”

“อะ เอ่อ…ไม่ติดค่ะ” เธออึกอักตอบไม่เต็มเสียงนัก

“อืม งั้นก็เริ่มได้เลย อย่าลืมละว่าเสียงเพลงที่เธอเล่นมันถูกต่อสายให้ดังไปทั่วทั้งโรงแรม เพราะฉะนั้นอย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด” คนถูกกดดันกลายๆ ถึงกับลอบกลืนน้ำลาย ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้แล้วเดินไปนั่งประจำที่

“อ้อ…ฉันลืมบอกไป คืนนี้มีงานนะ อย่าลืมแต่งตัวสวยๆ ด้วยล่ะ” ผู้จัดการสาวตอนปลายบอกพลางยิ้มให้

“หา! แต่คุณไม่ได้บอกฉันล่วงหน้านี่คะ แล้วแบบนี้ฉันจะเตรียมตัวทันได้ยังไง” เธอทำหน้าเหลอหลา แน่นอนว่าทุกอย่างดูจะเหนือความคาดหมายไปหมด และเธอก็ควบคุมอะไรไม่ได้เลย

“ฉันยังไม่ได้บอกเธอเหรอว่าโรงแรมเรามีห้าง และเธอมีเวลาไปช็อปเพื่อหาเสื้อผ้าสวยๆ สามชั่วโมงก่อนงานคืนนี้จะเริ่ม ขอให้วันนี้เป็นวันดีๆ ของเธอนะ ฉันไปละ” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทักท้วง คนพูดก็ก้าวฉับๆ ออกไป

“โอ๊ย! เมื่อเช้าก้าวเท้าไหนออกจากบ้านวะเนี่ย ออกมาทำงานหาเงินแทนที่จะได้เงิน กลับมีเรื่องให้ต้องเสียเงินซะงั้น” ทั้งที่อุตส่าห์ยืมชุดนี้มาใส่เพราะไม่อยากเสียเงิน สุดท้ายเงินก็ยังต้องปลิวออกจากกระเป๋าอยู่ดี

“เฮ้อ!” จนแล้วจนรอดก็ทำได้แค่ถอนหายใจ แล้วทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทันทีที่วางนิ้วลงบนคีย์บอร์ดและเริ่มกดมันเป็นทำนองเพลง เธอก็เหมือนอยู่ในโลกของตัวเอง โลกที่มีแต่เสียงเพลงที่เป็นความสุขเดียวของเธอ

เพลงแล้วเพลงเล่าถูกถ่ายทอดออกมาโดยนักเปียโนสาว และดูเหมือนเสียงเพลงเพราะๆ จะดึงดูดให้บรรดาแขกเหรื่อเดินมาตามเสียงเพลง ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าของโรงแรม

“ท่านประธานครับ ใกล้จะได้เวลาประชุมแล้วนะครับ” เลขาหนุ่มพูดเสียงดังขึ้นอีก

“อ้อ! โทษที…ไปสิ” คนที่เผลอทำเรื่องน่าอายหันมาทำหน้าเหลอหลา ก่อนจะแก้เก้อด้วยการรีบเดินนำออกไป แต่ก็ยังไม่วายหันมาสานต่อเรื่องน่าอายนั่นอีกที

“เช็กตารางงานของนักเปียโนให้ผมที” เลขาพยักหน้ารับด้วยความงุนงง ก็ก่อนหน้าพ่อคุณยังบอกว่างานล้นมือ ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้ แล้วทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้

“เรื่องอะไรจะต้องยอมเสียตังค์ ในเมื่อของฟรีก็ทำให้ฉันสวยได้เหมือนกัน” เธอกลับมาที่โรงแรมด้วยชุดกระโปรงสีครีมยาวกรอมเท้า ความงกทำให้เธอไม่ยอมไปหาเสื้อผ้าชุดใหม่ตามที่ผู้จัดการสั่ง แต่กลับเลือกที่จะบึ่งไปหาพี่สาวอย่างศิศิราแทน ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีศักดิ์เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้อง แต่ทุกครั้งที่มีปัญหา เธอมักจะนึกถึงพี่สาวคนนี้แทนที่จะเป็นพี่สาวแท้ๆ อย่างเมษา

ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง นอกจากจะได้ชุดสวยๆ มาใส่ฟรีๆ เธอยังได้หน้าสวยเฉี่ยว กับผมที่ม้วนเป็นลอนและเอากิ๊บเก๋ๆ ติดมาเป็นของแถมด้วย จากลุคสวยใสเมื่อตอนกลางวัน จึงกลายเป็นสาวสะพรั่งที่ดูดีตั้งแต่หัวจดเท้า

งานเลี้ยงสังสรรค์ที่กำลังดำเนินอยู่เคล้าคลอไปด้วยเสียงเพลงเพราะๆ ของนักเปียโนคนสวย ผ่านมากว่าชั่วโมงที่เธอนั่งบรรเลงอยู่อย่างนั้น แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ชั่วโมงแรกของการทำงาน จึงไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกทั้งเหนื่อยและเมื่อยล้าไปหมด แต่อย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือยิ้มเท่านั้น และยิ้มของเธอก็กำลังสะกดให้ใครบางคนที่แอบมาส่องเผลอยืนมองนิ่งอยู่อย่างนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ