จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 102

สรุปบท บทที่ 101 พลังที่แท้จริงของฉินหนันเทียน: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 101 พลังที่แท้จริงของฉินหนันเทียน จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 101 พลังที่แท้จริงของฉินหนันเทียน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 101 พลังที่แท้จริงของฉินหนันเทียน

ฉินหนันเทียนตกตะลึงอึ้งค้างไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงแหงนหน้าขึ้นฟ้า หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง "นี่แกถึงกับคิดจะฆ่าฉัน ต่อหน้าคนตระกูลฉินจำนวนมากมายอย่างนี้น่ะเรอะ!?"

หลินหยุนตอบกลับด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า“ ไม่ได้จะฆ่าแก จะฆ่าล้างตระกูลฉินของแกต่างหาก!”

“นับตั้งแต่ที่แกคิดจะแตะต้องคนในตระกูลของฉัน ตระกูลฉินก็เตรียมตัวถึงคราวพินาศย่อยยับได้เลย”

รอยยิ้มเยาะเย้ยเงยหน้าขึ้นฟ้าของฉินหนันเทียน พลันหายวับไปในทันที "แกรู้แล้วอย่างนั้นเรอะ ? แกพูดอย่างนี้ก็หมายความว่าพวกฉินซานก็ ... "

"ถูกต้อง" หลินหยุนตอบกลับทันที

ฉินหนันเทียนพูดด้วยท่าทางโกรธแค้นเดือดดาลว่า "ไอ้เด็กเหลือขอ! หนี้เลือดที่แกติดค้างตระกูลฉินของเรา ชั้นจะคิดมันทบเข้าไปเป็นเท่าตัว!"

หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "นี่เป็นเพราะแกรนหาที่เองต่างหากล่ะ"

ฉินหนันเทียนแผดเสียงตะโกนร้องดังกึกก้อง "ไอ้เด็กเหลือขอ! วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!"

จู่ๆ ท่านสามตระกูลฉินก็ลุกขึ้นอย่างกะทันหัน พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดคล้ำทะมึนว่า "ท่านเจ้าบ้าน ไอ้เด็กนี่มันเย่อหยิ่งอวดดีเป็นบ้า ให้ผมได้เจอกับมันสักตั้งเถอะครับ”

"ได้! น้องสามระวังตัวด้วยล่ะ!" ฉินหนันเทียนพูดเตือนสติ

"โอ้!" ท่านสามตระกูลฉินพยักหน้ารับคำ

ท่านสามตระกูลฉินหันไปมองหลินหยุน ไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลงใด ๆ ก็เหวี่ยงหมัดต่อยออกไปตรงๆทั้งอย่างนั้น

"ไอ้เด็กเหลือขอ! คนที่กล้าขู่ว่าจะทำลายตระกูลฉินเราให้พินาศ ในร้อยปีก็เพิ่งจะมีแกนี่ล่ะเป็นคนแรก!"

“ วันนี้ ฉันจะป่นกระดูกของแกให้ละเอียดเป็นผุยผง!”

“หมัดเปิดภูผา!”

ท่านสามตระกูลฉิน ก็เป็นผู้มีพลังโดยกำเนิดเช่นกัน เพียงแต่อยู่ในระดับใกล้เคียงกำเนิดพรสวรรค์ไร้ขอบเขตสูงสุด หมัดที่เหวี่ยงออกไปหมัดนั้น ก่อให้เกิดกระแสลมสายหนึ่งพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง

คนตระกูลฉินต่างรู้สึกตื่นเต้นยินดี "พลังของท่านสามพัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว ถ้าการต่อสู้ครั้งนี้จบลง เขาคงจะสามารถบรรลุถึงขั้นพรสวรรค์สูงสุดได้อย่างแน่นอน!"

ฉินหนันเทียนพยักหน้าเห็นด้วย "เจ้าสามไม่เลวเลยจริงๆ รอให้ฉันก้าวเข้าสู่ขั้นสูงสุดได้แล้ว ก็อาจพิจารณาเรื่องการส่งต่อตำแหน่งเจ้าบ้านให้เขาก็เป็นได้!"

แต่ทว่า หมัดอันทรงพลังของท่านสามตระกูลฉินหมัดนั้น เพิ่งจะมาถึงตรงหน้าของหลินหยุน ก็มีอันโดนหลินหยุนใช้มือเดียวซัดจนลอยละลิ่ว ปลิวกระเด็นออกไปเช่นเดียวกับพวกฉินอันก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว

ร่างของท่านสามตระกูลฉิน กระเด็นไปชนเข้ากับเสาพลับพลาตรง ๆ จึงค่อยหยุดลงได้ในที่สุด

เขากระอักเลือดออกมาจนกบปาก ฝืนยกมือขึ้นชี้ไปที่หลินหยุน หัวเอียงวูบ แล้วขาดใจตายลงตรงนั้นทันที!

“ น้องสาม!” เสียงกู่ร้องคำรามของฉินหนันเทียน ดังสะท้อนไปมาสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ทันใดนั้นฉินหนันเทียนก็หันหลังขวับ จ้องมองไปที่หลินหยุนตาเขม็ง "หลินชางฉอง ฉันจะฉีกร่างแกให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!"

หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ ประโยคนี้แกพูดไปสองรอบแล้วล่ะ ฉันขี้เกียจฟังรอบที่สาม”

หนังหน้าแก่ๆของฉินหนันเทียนแดงก่ำด้วยโทสะ ตะโกนสั่งเสียงหนึ่ง "เอากระบี่มา!"

ทันใดนั้น ฉินอู๋ซวงที่อยู่บนรถเข็น ก็ดึงเอากระบี่ยาวขนาดสามฉื่อออกมาจากด้านหลังของรถ แล้วโยนมันออกไป "ท่านพ่อ รับกระบี่ชิงหง!"

ฉินหนันเทียนกำกระบี่ยาวในมือแน่น ปราณพลังแผ่กระจายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

สิ้นเสียงแผดก้องเสียงหนึ่ง ประกายแสงเย็นเยียบสายหนึ่งวาบผ่าน ฉินหนันเทียนชักกระบี่ในมือ ชี้ขึ้นฟ้าในแนวเฉียง

"ไอ้เด็กเหลือขอ กระบี่เล่มนี้สร้างขึ้นโดยมีต้นแบบจากกระบี่อันลือชื่อแห่งยุคสามก๊ก แค่ขนลอยแตะเข้าก็จะหัก วันนี้แกได้ตายภายใต้คมกระบี่เล่มนี้ นับว่าเป็นเกียรติของแกแล้ว!”

"คลื่นสามชั้นหลงเหมิง!"

ฉินหนันเทียนแผดเสียงตะโกนเสียงหนึ่ง กระบี่ยาวเล่มนั้นพลันวาดเป็นวงกลม โคจรรอบอกของเขาหนึ่งรอบ แล้วฟันเข้าใส่หลินหยุนอย่างรุนแรง

หลังจากนั้น เขาก็ทำกระบวนท่านั้นซ้ำอีกครั้ง กระบี่ยังคงเคลื่อนไหวประดุจดั่งร่ายรำอยู่ตรงหน้าอกของเขาอย่างต่อเนื่อง แล้วฟันเข้าใส่หลินหยุนอีกครั้ง

กระบวนท่าเดียวสามครั้งต่อเนื่อง แต่เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉินหนันเทียนกับหลินหยุนรักษาระยะห่างจากกันเท่าเดิมตลอด กระบี่ของเขาจึงไม่อาจทำให้หลินหยุนเกิดบาดแผลใด ๆ ได้เลยแม้แต่รอยขีดข่วน

แต่หลังจากที่ฉินหนันเทียนร่ายกระบี่เป็นครั้งที่สาม ก็เกิดแว่วเสียงบางอย่าง ซึ่งคล้ายเสียงน้ำไหลดังออกมาจากกระบี่เล่มนั้น ราวกับว่าเป็นพลังของสายน้ำอันเชี่ยวกราก จากแม่น้ำสายหนึ่ง ที่กำลังหลั่งไหลก็ไม่ปาน

ใจหลินหยุนพลันกระตุกไปเล็กน้อย "ถึงกับรู้วิธีสั่งสมพลังเสียด้วย"

ปราณพลังของฉินหนันเทียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ขณะที่จ้องมองหลินหยุน ก็ส่งยิ้มเย้ยหยันเย็นชา เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามออกไป "ไอ้เด็กเมื่อวานซืนเอ๋ย หากกระบวนท่าของฉันเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อไหร่ ก็ถึงคราวตายของแกแน่แล้ว!"

ที่ด้านหลัง ฉินอู๋ซวงก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยันเย็นชา เต็มเปี่ยมไปด้วยท่าทีเยาะเย้ยเช่นกัน "ไอ้เด็กนี่หยิ่งผยองได้น่าดูน่าชมเสียจริง ถึงขั้นทำให้ท่านพ่อใช้คลื่นสามชั้นหลงเหมิงออกมาจนได้ ตอนนี้พลังสั่งสมจนสมบูรณ์แล้ว กระบี่นี้ของท่านพ่อ มีพลังเทียบเท่าได้กับระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว! "

กระบวนท่าคลื่นสามชั้นหลงเหมิง เป็นทักษะเฉพาะของตระกูลฉิน เมื่อสร้างคลื่นพลังได้จนเสร็จสิ้น พลังของมันจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีข้อเสียคือถูกสลายได้ง่าย

เส้เทียนหัวดูหงุดหงิดไม่สบายใจอย่างยิ่ง "โธ่เอ๊ย ขอพูดหน่อยเถอะ ทำไมคุณหลินถึงได้ประมาทอย่างนี้นะ ถึงกับทำให้ฉินหนันเทียนใช้ไพ่ตายออกมาแบบนี้!”

"นี่มันจบสิ้นแน่แล้ว!"

ฉินอู๋ซวงก็แอบรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เผยสีหน้าชั่วร้ายเหี้ยมโหดออกมาอย่างปิดไม่มิด "หลินชางฉองเอ๋ยหลินชางฉอง แกนี่มันช่างหยิ่งยโสโอหังซะจริง ถึงกับคิดจะใช้หมัดเปล่าๆเข้าต้านกระบี่ชิงหงของท่านพ่อเชียวรึ!"

"ไปตายซะ!" สามคำสุดท้าย ฉินอู๋ซวงพูดออกมาโดยกดเสียงต่ำอย่างนึกลำพองใจ

"ฮ่าๆๆ ไอ้เด็กเหลือขอ แกตาย ... " ขณะที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ ฉินหนันเทียนก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นด้วยความย่ามใจเต็มที่

เดิมทียังคิดอยู่ว่าหลินหยุนจะต้องหลบกระบี่นี้เป็นแน่ แต่กลับไม่คาดคิดว่าหลินหยุนจะฝืนเข้าต้านตรงๆ! อีกทั้งยังใช้หมัดเปล่าๆสองข้างเข้าต้านอีกด้วย ซึ่งในสายตาของฉินหนันเทียนแล้ว ช่างเป็นการกระทำที่รนหาที่ตายโดยแท้!

แต่แล้วก่อนที่เขาจะพูดจบ กลับรู้สึกว่าหมัดของหลินหยุน พลันกำเนิดคลื่นพลังมหาศาลที่ไม่มีใครเทียบได้ ปะทุขึ้นแล้วกระแทกเข้าใส่กระบี่ชิงหงของเขา

เปรี้ยง!

ฉินหนันเทียน ถูกซัดกระเด็นไปพร้อมกับกระบี่จนกระอักเลือด ปลิวไปกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนสะบักสะบอม

“ เป็นไปได้ยังไงกัน!”

สีหน้าของฉินหนันเทียน เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ไม่ต้องพูดถึงกระบวนท่า คลื่นสามชั้นหลงเหมิงแบบเต็มกำลังของเขาก็ได้ แต่พูดถึงกระบี่ชิงหงเล่มนั้นของเขา ก็ไม่ควรจะถูกต้านไว้ได้ง่าย ๆ ด้วยหมัดเปล่า ๆ ที่เป็นเนื้อหนังมนุษย์อย่างนี้

ไอ้เด็กนี่ มันทำได้ยังไง?

"ท่านพ่อ!" ฉินอู๋ซวงถูกผลลัพธ์ที่ปรากฏนี้ ทำเอาตกตะลึงอึ้งค้างไปเสี้ยวเวลาหนึ่ง จากนั้นจึงร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนกสุดขีด

ความตื่นตระหนกในใจของเขา ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉินหนันเทียนเลย แค่เลือดเนื้อเปล่า ๆ ของคนคนหนึ่ง มันสามารถต้านกระบี่ที่ทรงพลานุภาพขนาดนี้ได้ยังไงกัน?

แต่ในใจของพวกเส้เทียนหัวแต่ละคน กลับมีความสุขกันถ้วนหน้าจนเกินจะหาใดเปรียบ

"คุณหลินชนะแล้ว! คุณหลินชนะแล้ว! พวกเรามีทางรอดแล้ว!"

ฉินหนันเทียนใช้กระบี่พยุงร่างตัวเอง ยืนขึ้นอย่างทุลักทุเล เช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากด้วยใบหน้าดำคล้ำมืดทะมึน จ้องมองหลินหยุนด้วยแววตาเหมือนดั่งงูพิษที่จ้องศัตรู

"ไอ้หนู แกทำให้ฉันตกตะลึงเสียจริง!"

หลินหยุนรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาบ้างแล้วในตอนนี้ “แกก็ทำให้ฉันตกตะลึงเหมือนกันนั่นแหละ ถึงกับไม่ถูกฉันซัดจนตาย ดูเหมือนว่าแกยังมีพลังที่ซ่อนเอาไว้อยู่อีกล่ะสินะ”

"จิ๊ๆๆ ถึงยังไงก็ถูกแกมองออกแล้วนี่นะ คงไม่จำเป็นต้องซ่อนมันอีกต่อไปแล้วล่ะ" ฉินหนันเทียนเผยรอยยิ้มอันคลุมเครือออกมาจางๆ

จากนั้น จู่ๆฉินหนันเทียนก็ยืดตัวตรง ร่างกายค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศทีละน้อย พลังปราณที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อครู่ พลันระเบิดพวยพุ่งออกมาจากตัวเขา

ฉินอู๋ซวงกับพวกคนในตระกูลฉิน ต่างพูดด้วยสีหน้าตื่นตะลึงเต็มใบหน้าว่า "ลอยล่องเหนือนภา ปรมาจารย์ผู้บรรลุขั้นสูงสุด!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์