จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1020

โคโมโดหันหน้าไปมองคนผู้นั้นอย่างเจ็บปวด และรีบตะโกนเรียกอย่างเคารพ: “ราชา ในที่สุดท่านก็มาแล้ว! ”

“ราชา ช่วยฉันด้วย! ” โคโมโดกล่าวอ้อนวอนขึ้นอย่างเจ็บปวดทรมาน

ราชาองครักษ์ลับไม่ได้สนใจเขา โดยที่สายตามองไปที่หลินหยุนอย่างสงบนิ่ง

“ออกไปจากรัสเซีย แล้วจะไว้ชีวิตของนาย! ”

น้ำเสียงของเขาเฉยชา เหมือนกับเสียงที่ดังออกมาจากเครื่องกล ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์

หลินหยุนเองก็มองไปที่เขาด้วยสีหน้าท่าทางที่เฉยเมยเช่นกัน

‘ฉวับ’ ดาบเฮ่าเทียนมีเสียงดังขึ้น และหลุดออกมาจากร่างของโคโมโด

โคโมโดร้องโอดครวญเสียงดัง และคุกเข่าลงไปที่พื้น

จากนั้น หลินหยุนถือดาบเฮ่าเทียน แล้วชี้ไปยังราชาองครักษ์ลับ: “แสดงให้ฉันดูหน่อยสิว่า นายมีคุณสมบัติอะไรถึงได้กล้าพูดแบบนี้”

เมื่อพูดจบ เงาร่างของราชาองครักษ์ลับก็หายวับไปในทันที

หลินหยุนแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

พบว่า เดิมทีท้องฟ้าที่สว่างจ้า กลับกลายเป็นมืดมิดขึ้นโดยพลัน

ม่านมืดขนาดใหญ่ บดบังแสงอาทิตย์ ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า

จากนั้น ฝ่ามือโลหิตขนาดใหญ่ ก็ตบลงมาในทันที

โคโมโดท่าทางยำเกรง และพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า: “ตรามือโลหิต! ”

“ราชา ท่านให้เกียรติไอ้หนุ่มนี้เกินไปแล้ว เริ่มต้นก็ใช้ท่าไม้ตายเลย! ”

หลินหยุนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เวลานี้เขาเหมือนกับเรือที่โดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางพายุลมฝน สามารถประสบกับอันตรายจนพลิกคว่ำได้ทุกเมื่อ

“นึกไม่ถึงว่าคือเผ่าโลหิต! ”

“หากรู้ล่วงหน้าจะได้ให้คาร์นอตวิลเลียมมาด้วยแล้ว”

“แต่ว่า พลังความสามารถของเขานั้นเหนือกว่าคาร์นอตวิลเลียมมาก ดูเหมือนว่าคงจะดำรงชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน”

“น่าเสียดายที่ วันนี้นับว่าเป็นวันสิ้นสุดชีวิตของนายแล้ว! ”

เห็นฝ่ามือโลหิตขนาดใหญ่พุ่งลงมา หลินหยุนไม่ได้ร้อนรนอะไร โดยใช้ดาบเฮ่าเทียนชี้ไปยังฝ่ามือโลหิตที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้านั้น

ภาพเหตุการณ์นี้น่าสะเทือนใจหวั่นไหวยิ่งนัก

เหมือนกับว่าท้องฟ้าถล่มลงมาแล้ว มีนักรบผู้กล้าที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง ใช้พลังความสามารถของตน หนึ่งคนกับหนึ่งกระบี่ ค้ำยันท้องฟ้าผืนนี้เอาไว้

หลินหยุนที่อยู่เบื้องหน้าของฝ่ามือโลหิตขนาดใหญ่ มีขนาดเล็กนิดเดียวราวกับมด

ดาบเฮ่าเทียนในมือของเขานั้น ก็เหมือนกับหนวดของมดที่เล็กจนแทบจะมองไม่เห็นแต่ว่า หนวดของมดที่เล็กจนแทบจะมองไม่เห็นนั้น กลับต้านทานรองรับฝ่ามือโลหิตเอาไว้ได้ ไม่ปล่อยให้กล้ำกรายเข้ามาได้อีกแม้แต่น้อย

ม่านยักษ์มืดมิดกลางอากาศมีเสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังขึ้น

ทันใดนั้น ชี่ทิพย์จากฟ้าดินก็พลิกม้วนตัว ราวกับน้ำที่กำลังเดือด พุ่งตรงเข้าไปที่ฝ่ามือโลหิตนั้นได้รับพลังใหม่เข้ามาเสริม ตรามือโลหิตก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นไปอีก

ดาบเฮ่าเทียนเหมือนกับว่าจะต้านทานเอาไว้ไม่ไหวแล้ว จึงค่อย ๆ ลดตัวลงมา

เห็นว่าฝ่ามือโลหิตยิ่งเข้าใกล้หลินหยุนมากขึ้น โดยที่อยู่ห่างจากศีรษะของหลินหยุนไม่ถึงห้าเมตรแล้ว

ถ้าหากฝ่ามือโลหิตนั้นตบลงมา คงจะราวกับทั่วทั้งนภา หล่นทับลงมาที่ตัวของหลินหยุน

นั่นคงมีน้ำหนักที่มากเป็นหมื่นเป็นพันกิโลกรัมเลยทีเดียว!

แต่ ก็ไม่เห็นว่าหลินหยุนจะลงมือทำอะไร อยู่ดี ๆ ดาบเฮ่าเทียนก็เปล่งแสงอันโชติช่วงขึ้น

ลำแสงสีแดงพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า นั่นคือพลังที่ปล่อยออกมาจากตัวของดาบเฮ่าเทียน นั่นคือชี่กระบี่ที่รวบรวมกฎเกณฑ์ต้าเต๋าเอาไว้

ตูม!

เหมือนกับว่าม่านกั้นได้ถูกทำลายลง ทั้งชั้นฟ้าชั้นดินล้วนสั่นสะเทือนเลือนลั่น

ลำแสงสีแดงนั้นทะลุทะลวงกลางฝ่ามือโลหิต โดยที่พลังอานุภาพไม่ลดลง และยังได้พุ่งทะลุไปที่ม่านฟ้าสีดำด้านหลังฝ่ามือโลหิตนั้นด้วย

“เอ่อ! ”

เสียงเจ็บปวดทรมานดังกึกก้องในชั้นฟ้าชั้นดิน ลำแสงชี่กระบี่จากดาบเฮ่าเทียนทะลุผ่านช่องอากาศสาดส่องลงมา ที่บนร่างของหลินหยุนพอดิบพอดี

หลินหยุนก็เหมือนกับดาราที่อยู่บนเวทีอันมืดมิด แล้วถูกส่องสว่างด้วยแสงจากสปอตไลท์ ซึ่งเจิดจ้าแพรวพราวอย่างมาก ดั่งองค์เทพจุติลงมาจากสวรรค์

เงาร่างของราชาองครักษ์ลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง ส่วนความมืดมิดในท้องฟ้าก็ค่อย ๆ เบาบางลง กลับมาสว่างสดใสอีกครั้งหนึ่ง

“กลับไปเถอะ นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน” หลินหยุนยิ้มเยาะ ดาบเฮ่าเทียนค่อย ๆ ลอยตัวขึ้น แล้วชี้ไปยังโคโมโดที่มีสีหน้าท่าทางตื่นตะลึง

โคโมโดยังคงอยู่ท่ามกลางความสะพรึงกลัว เขาไม่กล้าเชื่อว่า เมื่อครู่นี้นึกไม่ถึงว่าราชาองครักษ์ลับจะพ่ายแพ้ให้กับหลินหยุน

“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? ราชาของฉันคือผู้ที่มีพลังความสามารถสูงสุดมิอาจหาผู้ใดเปรียบได้ แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่จะมาพ่ายแพ้ให้กับหลินชางฉอง! ”

หลินหยุนไม่พูดไม่จา แล้วก็ได้กวัดแกว่งกระบี่พุ่งโจมตีอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์