คุณจั่ว เป็นแดนเทพขั้นสูงสุดที่สุดที่หวางเซิ่งเฉียนพามาจากโลกบู๊โบราณสี่ผู้ตั้งมั่นรักษาแห่งเขาคุนหลุน
คุณจั่วชื่อจั่วยีเจี้ยน คุณจั่วอยู่ในโลกบู๊โบราณ มีชื่อเรียกที่ชัดเจน
สั่งเป็นสั่งตายในชั่วขณะ จั่วยีเจี้ยน
การบำเพ็ญของจั่วยีเจี้ยน อยู่ในโลกบู๊โบราณ ถือเป็นความผิดปกติ
จั่วยีเจี้ยนเกิดในเขาคุนหลุน พ่อแม่เป็นผู้อาวุโสในเขาคุนหลุน
ตั้งแต่เล็กจั่วยีเจี้ยนได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างดีจากพ่อแม่ โดยร่างกายได้แช่ด้วยวัสดุยาที่หายากชนิดต่างๆ
ภายใต้เงื่อนไขที่มีพรสวรรค์ จั่วยีเจี้ยนไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง อายุสิบสองก็ก้าวเข้าสู่พรสวรรค์ กลายเป็นอัจฉริยะชั้นหนึ่ง
ถึงกระนั้น ยังได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ของเจ้าสำนักแห่งเขาคุนหลุน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเสียดายคือ ตอนจั่วยีเจี้ยนอายุได้สิบหกปี การบำเพ็ญก็หยุดชะงัก
การหยุดชะงักครั้งนี้ เป็นเวลายี่สิบปีเต็ม
แม้ว่าจากพรสวรรค์ถึงปรมาจารย์ นี่คือทางแยก และนักบู๊จำนวนมากทั้งชีวิตก็ไม่สามารถข้ามอุปสรรคนี้ไปได้
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ดังกล่าวปรากฏอยู่ในตัวจั่วยีเจี้ยนซึ่งเป็นอัจฉริยะ ก็ต้องมีผู้วิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น จั่วยีเจี้ยนจากอัจฉริยะที่น่าเคารพ ตกเป็นเป้าหมายให้ผู้คนเยาะเย้ย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจคือ หลังจากที่จั่วยีเจี้ยนหยุดชะงักการบำเพ็ญมาเป็นเวลายี่สิบปี
ในชั่วข้ามคืน จากพรสวรรค์เข้าสู่ปรมาจารย์ และจากปรมาจารย์เล็ก เข้าสู่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด
คราวนี้ ทำให้ผู้คนในโลกบู๊โบราณต่างตกตะลึง
แค่นี้ยังไม่พอ ในปีถัดมา ระดับการบำเพ็ญของจั่วยีเจี้ยนก็ดีขึ้นอีกครั้ง และเข้าสู่แดนเทพ
กลายเป็นนักบู๊แดนเทพที่อายุน้อยที่สุดโลกบู๊โบราณ
นักบู๊แดนเทพอายุสามสิบหกปี ในโลกบู๊โบราณ ไม่เคยมีมาก่อน และในอนาคตก็ไม่มีแน่นอน
ในยุคนั้น ในโลกบู๊โบราณจั่วยีเจี้ยนกลายเป็นแบบอย่างการต่อสู้สำหรับคนหนุ่มสาว
อาจกล่าวได้ว่า จั่วยีเจี้ยนอยู่ในโลกบู๊โบราณ เป็นบุคคลในตำนาน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในโลกบู๊โบราณอาจไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่ชื่อเสียงของเขานั้น ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแน่นอน
ครั้งนี้เขาคุนหลุนได้ส่งจั่วยีเจี้ยนมา จะเห็นได้ว่า เขาคุนหลุนเริ่มให้ความสนใจกับหลินหยุน
มีจั่วยีเจี้ยนอยู่ หวางจิงหลงก็รู้สึกสบายใจ
นอกจากนี้ แม้แต่จั่วยีเจี้ยนก็ไม่สามารถกดดันหลินหยุน ถ้างั้นเขาคุนหลุนก็จะเคลื่อนไหวด้วยพลังทั้งหมดอย่างแน่นอน
หวางโส่วหลี่พูด “ท่านพ่อ มีคุณจั่ว ไอ้หนุ่มคนนั้นคงไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย แต่ว่า เราควรเปลี่ยนจากการถูกกระทำให้เป็นผู้กระทำเอง”
หวางจิงหงพยักหน้า “ฉันก็เคยคิดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน”
“ไอ้หนุ่มคนนั้นเริ่มการสังหารหมู่ในรัสเซีย ซึ่งเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศอย่างรุนแรง ฉันได้ทักทายตระกูลใหญ่ทั้งสามตระกูลแล้ว และพรุ่งนี้ฉันจะไปหาประธานาธิบดีที่คฤหาสน์สภาประเทศเพื่อขอคำแนะนำ”
ในขณะนี้ หลินหยุนกำลังยืนอยู่นอกประตูบ้านตระกูลเสิ่นในกว่างหนัน
ระหว่างทาง ไม่รู้ว่า ดาบเฮ่าเทียนได้ดื่มเลือดคนไปมากแค่ไหน
กว่างหนัน เป็นจุดสุดท้ายสำหรับหลินหยุนเพื่อกำจัดคนทรยศเหล่านั้น
“ไอ้หนุ่มนี้มาจากไหน ตรงนี้คือบ้านตระกูลเสิ่นไม่รู้เหรอ? อย่ามายืนตรงนี้!” เมื่อรปภ.ของตระกูลเสิ่นเห็นหลินหยุน ก็เดินมาตำหนิ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากะพริบตา เมื่อมองไปที่หลินหยุน ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น
“เฮ้ย แปลกมาก ไอ้หนุ่มคนนี้วิ่งเร็วมาก!”
ในออฟฟิศ เสิ่นเหยียนยังคงดูข่าวอยู่ตลอดเวลา ตราบใดที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับบุคคลนั้น เขาจะไม่ยอมปล่อยคำพูดใดๆผ่านไป
“ท่านเสิ่น กำลังดูอะไรอยู่เหรอ” จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในออฟฟิศของเสิ่นเหยียน
ดูเหมือนหลินหยุนจะพุ่งออกมาจากอากาศ และยืนอยู่ตรงหน้าเสิ่นเหยียน
เสิ่นเหยียนใจสั่นและหวาดผวา แต่ว่า ในเวลาอันรวดเร็วก็สงบลง
ในวันนี้ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
เสิ่นเหยียนยืนขึ้น และมองไปที่หลินหยุน
หลังจากนั้นไม่นาน เสิ่นเหยียนก็พูดขึ้น
คำแรกที่เขาพูดคือ “ฉันมีโอกาสรอดชีวิตไหม?”
“ไม่มี” นี่คือคำตอบของหลินหยุน เรียบง่ายจนเหมือนเพื่อนเก่าสองคนกำลังสนทนากัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...