สรุปตอน บทที่ 1040 ขอโทษ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
ตอน บทที่ 1040 ขอโทษ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
สายตาของทุกคนต่างพากันจดจ้องมาที่ตัวของนักวิชาการหยาง
นักวิชาการหยางเริ่มต้นเปิดพลิกดูเอกสารข้อมูลเหล่านั้น
เอกสารข้อมูลมากมาย อีกทั้งด้านบนเต็มไปด้วยอักษรภาษารัสเซีย
แต่ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างความยุ่งยากต่อนักวิชาการหยาง
ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการค้นคว้าวิจัยเครื่องยนต์ทางอากาศโดยเฉพาะ สำหรับตัวอักษรของสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย สองประเทศที่เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ที่ทันสมัยที่สุด
ในโลกในปัจจุบันนี้นั้น แน่นอนว่าเขารู้และเข้าใจมันเป็นอย่างดี
นักวิชาการหยางเริ่มต้นตรวจสอบเอกสารข้อมูลเหล่านี้ ตามประเภทที่ได้แบ่งแยกไว้
ตอนแรก ที่เพิ่งเริ่มต้นดูรายละเอียดนั้น นักวิชาการหยางมีสีหน้าท่าทางที่สงบนิ่ง
“ถูกต้อง นี่คือเอกสารข้อมูลเทคโนโลยีเครื่องยนต์ทางอากาศจริง ๆ อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่
ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ คงน่าจะผ่านการทดสอบใช้งานจริงมาแล้ว”
“แต่ว่า นี่เป็นเพียงเอกสารข้อมูลเครื่องยนต์ทางอากาศทั่วไปเท่านั้น ซึ่งถือว่าธรรมดาอย่างมาก
ในระดับสากล”
ได้ยินคำพูดของนักวิชาการหยางแล้ว จางฉางเกิงที่เดิมทีประหม่าอย่างที่สุดนั้น ก็ได้หัวเราะ
เสียงดังออกมา: “ท่านประธานาธิบดี ท่านหง รวมถึงทุกท่านที่อยู่ที่นี่ ทุกคนคงจะได้ยินกัน
อย่างชัดเจนแล้ว! ”
“เอกสารเหล่านี้ ก็คือข้อมูลเครื่องยนต์ทางอากาศทั่วไปเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เอกสารข้อมูลเครื่องยนต์
ของเครื่องบินรบรุ่นที่หกอะไรสักหน่อย”
“ท่านหง ตอนนี้เชิญท่านลงมือประหารเขาได้เลย! ” จางฉางเกิงสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความ
ดีอกดีใจ
แม้แต่ตระกูลหวางเองก็ยังพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อหลินหยุน ตอนนี้ กลับถูกจัดการลงโดยเพียง
แค่คำพูดสองสามคำของจางฉางเกิง
หงซานเหอสีหน้าหม่นหมอง มองไปที่นักวิชาการหยางและพูดอย่างจริงจังว่า: “นักวิชาการหยาง
เชิญคุณตรวจสอบดูอย่างละเอียด อย่าได้ตัดสินโดยง่ายดายแบบนี้”
นักวิชาการหยางพยักหน้า แล้วก็ตรวจสอบดูต่อไปอย่างจริงจัง
เมื่อดูถึงเอกสารชุดที่สาม นักวิชาการหยางก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที โดยเริ่มแรกก็ยังคงสงสัย ต่อมากลายเป็นตื่นเต้น และสุดท้ายก็ดีใจขึ้น
“คิดไม่ถึงว่าจะสามารถจัดเรียงตามส่วนประกอบแบบนี้ได้ ถ้าหากเอกสารข้อมูลเหล่านี้เป็น
ของจริง คงน่าจะเป็นสิทธิบัตรฉบับใหม่ล่าสุดในสากลอย่างแน่นอน และมีมูลค่าอย่างมหาศาล
เลยทีเดียว! ”
จางฉางเกิงสงบปากสงบคำลง และถามขึ้นอย่างสงสัยว่า: “นักวิชาการหยาง ที่คุณพูดนี้
หมายความว่าอย่างไร? คุณไม่ได้พูดว่านี่คือเอกสารข้อมูลเครื่องยนต์ทางอากาศทั่วไป
หรอกเหรอ? ”
นักวิชาการหยางพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ตอนแรกที่ดูนั้น รู้สึกว่าไม่มีความพิเศษอะไร ก็เพียงแค่
ข้อมูลความรู้ทั่วไปทางเทคโนโลยีเครื่องยนต์ทางอากาศเท่านั้น”
“แต่ว่า เมื่อเห็นเครื่องยนต์แบบกังหันที่ใบพัดทำมาจากวัสดุสังเคราะห์แล้ว จึงพบว่า มีความ
แตกต่างจากวัสดุที่พวกเราทำการวิจัยกันอยู่โดยทั่วไป”
“โครงสร้างของส่วนประกอบแบบนี้ สามารถเพิ่มอัตราความเร็วของเครื่องยนต์กังหันได้และ
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องยนต์กังหันจะได้รับความเสียหายจากการที่เพิ่มความเร็ว”
“อีกทั้งการออกแบบของห้องเครื่องยนต์ สามารถเพิ่มพลังงานเข้าไปได้ ซึ่งมีความทันสมัยกว่า
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ทางอากาศรุ่นที่ห้าในปัจจุบันนี้”
“เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เทคโนโลยีเครื่องยนต์ทางอากาศรุ่นที่ห้าที่พวกเรานำเข้ามาจากรัสเซียนั้น มีความล้าหลังอยู่หนึ่งยุคสมัยเลยทีเดียว”
คำพูดของนักวิชาการหยาง ได้พูดชี้แจงให้เข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว
เทคโนโลยีเหล่านี้มีความทันสมัยกว่าเทคโนโลยีเครื่องยนต์รุ่นที่ห้า หากไม่ใช่รุ่นที่หกแล้วคือ
อะไรล่ะ?
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ดีมากเลย! นับจากนี้ต่อไป อุตสาหกรรมการบินและอวกาศของพวกเรา คงจะ
พัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปอีกมากเลย” หงซานเหอดีใจอย่างที่สุด
หลายปีมานี้ ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ในใจของเขาก็คือประเทศจีนสามารถผลิตและเป็นเจ้าของ
เครื่องบินรบรุ่นที่ห้าได้ด้วยตนเอง
ถึงขนาดที่ว่า เขาตื่นจากความฝันนับครั้งไม่ถ้วน และยังทอดถอนหายใจ เกรงว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
จะไม่สามารถเห็นเครื่องบินรบรุ่นที่ห้าที่ผลิตขึ้นโดยชาวจีนด้วยตาของตนเอง
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องที่หงซานเหอเสียใจมากที่สุด
คิดไม่ถึงว่า ในช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ จะได้เห็นเครื่องบินรบรุ่นที่หกที่จีนผลิตขึ้นกับตาของตนเอง
นี่ถือว่ามีความก้าวล้ำเหนือกว่าเครื่องบินรบรุ่นที่ห้าถึงหนึ่งยุคสมัยเลยทีเดียว
“ฉัน ไม่มีความเสียใจในชั่วชีวิตนี้แล้ว! ” หงซานเหอเงยหน้าหัวเราะขึ้น ภายในเสียงหัวเราะ
ที่ภาคภูมิใจนั้นแฝงไปด้วยความโศกเศร้าวังเวง
ประเทศจีนที่ยิ่งใหญ่ เป็นเพราะว่าถูกปิดกั้นด้านเทคโนโลยีจากประเทศตะวันตก ทำให้แม้แต่
เครื่องบินรบรุ่นที่ห้าก็ยังไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้
ตอนนี้ จากการช่วยเหลือของหลินหยุน ในที่สุดก็มีความหวังที่จะผลิตเครื่องบินรบรุ่นที่หกแล้ว
จากนี้ไปจะทำให้ศักยภาพความได้เปรียบทางอากาศนั้น กลับมาเท่าเทียมกันแล้ว
ประธานาธิบดีจีนยิ้มและพูดขึ้นว่า: “นักวิชาการหยาง แน่ชัดไหมว่าเอกสารข้อมูลเหล่านี้คือ
พูดจบ ประธานาธิบดีจีนก็คำนับแสดงความเคารพต่อหลินหยุน
พลังแรงหนึ่งได้ค้ำยันตัวเขาเอาไว้
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: “ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทางการจีนได้กระทำต่อครอบครัว
ของฉันนั้น มากพอที่จะทดแทนกับสิ่งเหล่านี้ได้”
“พวกเราไม่ได้ติดค้างอะไรซึ่งกันและกัน”
“ฉันยังมีธุระที่จะต้องไปจัดการ ต้องขอตัวลาก่อน”
พูดจบ หลินหยุนก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ประธานาธิบดีจีนพูดอะไรต่ออีก หันหลังแล้วก็เดินจากไป
มองไปที่เงาร่างของหลินหยุนที่กำลังเดินจากไป หงซานเหอพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “ไอ้เด็กคนนี้ ยังคงไร้มนุษยสัมพันธ์อยู่เช่นเคย แม้แต่ประธานาธิบดีจีนเขาก็ยังไม่ให้เกียรติเลย”
ประธานาธิบดีจีนหัวเราะเหอะเหอะและพูดขึ้นว่า: “เขาไร้มนุษยสัมพันธ์ที่ไหนกัน เขาก็แค่ไม่อยาก
ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเราก็เท่านั้นเอง”
“เมื่อเขามีปฏิสัมพันธ์กับพวกเราแล้ว ต่อไปเขาจะทำอะไรก็จะถูกควบคุมไปทั้งหมด ซึ่งเขาเข้าใจ
เรื่องนี้เป็นอย่างดี”
หงซานเหอขมวดคิ้ว: “จากนี้ต่อไปเขาคิดจะทำอะไร? ”
ประธานาธิบดีจีนมองไปที่หงซานเหอ และย้อนถามกลับว่า: “นายคิดว่าอะไรล่ะ? ”
หงซานเหอเงียบกริบ โดยที่สีหน้าท่าทางเคร่งเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว
“ถ้าเขาไปหาจั่วยีเจี้ยน ก็เท่ากับว่าเป็นการประกาศสงครามกับโลกบู๊โบราณโดยสมบูรณ์”
“จั่วยีเจี้ยนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาเป็นถึงอาจารย์อาของเขาคุนหลุนหนึ่งในสี่ค่ายใหญ่แห่ง
โลกบู๊โบราณ”
ประธานาธิบดีจีนพูดว่า: “จากนี้ไป ให้เตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในสังคมด้วย! ”
“ใกล้ที่จะเปิดศึกสงครามแล้ว”
หงซานเหอพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นตระหนก: “รับทราบ ฉันจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้! ”
หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์สภาประเทศแล้ว หลินหยุนก็เดินทางไปที่ตระกูลหวาง
คำพูดของหยุนเยว่ ยังคงวนเวียนอยู่ในหู
ถ้าไม่ใช่เพราะความล่าช้าช่วงหนึ่งที่คฤหาสน์สภาประเทศนั้น เวลานี้ ความแค้นของควีนจิน
คงจะได้แก้แค้นเรียบร้อยไปแล้ว
หลินหยุนไม่ได้นั่งรถ โดยเดินคนเดียวอยู่บนท้องถนน
ราวกับสายลม พัดผ่านกลุ่มคนเหล่านั้น
ขณะที่เดินผ่านคนรอบข้างไป ไม่มีผู้ใดรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาเลย
ครู่เดียว หลินหยุนก็มายืนอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่สีแดงของคฤหาสน์ตระกูลหวางแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...