คานประตูสองข้างที่หลินหยุนได้ฟันหักลงมาในครั้งก่อนนั้น ตอนนี้ได้ซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังดูโอ่อ่ายิ่งใหญ่กว่าคานประตูก่อนหน้านี้เสียอีก
ยามเฝ้าประตูเหมือนว่ายังไม่ได้เปลี่ยนคน เมื่อเห็นหลินหยุน เขาตกใจถึงกับหน้าซีด แล้วก็รีบ
โทรศัพท์ คงน่าจะรายงานไปยังผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวาง
หลินหยุนไม่ได้สนใจ มือข้างหนึ่งไขว้หลัง มืออีกข้างหนึ่งยื่นออกมา
เชว้งงง!
เสียงกระบี่ดังขึ้น
ดาบเฮ่าเทียนเปล่งประกายแสงสีแดง แล้วตกลงมาอยู่ในมือของหลินหยุน
จากนั้น เขาก็กวัดแกว่งกระบี่
โดยที่ไม่มีกระบวนท่าอะไร ท่วงท่าของกระบี่ก็เรียบง่าย คล้ายกับคนทั่วไปกวัดแกว่งกระบี่
ฉับ!
คานประตูหน้าคฤหาสน์ของตระกูลหวางพังทลายลงอีกครั้ง ฝุ่นละอองตลบอบอวลไปทั่ว
ในห้องโถงตระกูลหวาง หวางจิงหลงที่ได้กลับมาถึงก่อนแล้วนั้น กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งเจ้าบ้าน
ด้านล่าง ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวาง นั่งรวมตัวกันอยู่อย่างพร้อมเพรียง
ได้ยินเสียงดังครึกโครมที่มาจากด้านนอก สายตาของหวางจิงหลงและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันจับจ้อง
ไปที่ร่างของชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างของตำแหน่งที่นั่งหลัก
ชายวัยกลางคนผู้นั้น ที่อยู่ในชุดสีเขียว กำลังนั่งหลับตาอยู่
รูปลักษณ์ของเขานั้นธรรมดาอย่างมาก มองดูแล้วก็เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป แทบจะไม่มี
ความพิเศษอะไรเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่า อายุที่แท้จริงของเขานั้น ยังจะมากกว่าหวางจิงหลงเสียอีก
หลังจากได้ยินเสียงดังครึกโครมนั้น เขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
หวางเซิ่งเฉียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ และในมือกำลังเล่นมีดปอกผลไม้อยู่นั้น ได้มองไปที่ชายวัย
กลางคนผู้นี้
“อาจารย์อา เขามาแล้ว” หวางเซิ่งเฉียนพูดขึ้นเบา ๆ
จั่วยีเจี้ยนพูดขึ้นว่า: “รู้แล้ว”
“ฉันจะไปพบกับเขาหน่อย”
“จั่วยีเจี้ยนระมัดระวังตัวด้วย! ” หวางจิงหลงพูดขึ้นพร้อมกับยกมือแสดงความเคารพ
หวางจิงหลงไม่ทันจะพูดจบ บนที่นั่งก็ไม่มีเงาร่างของจั่วยีเจี้ยนแล้ว
บริเวณประตูใหญ่ของตระกูลหวาง ฝุ่นละอองได้เลือนหายไปหมดแล้ว เงาร่างของหลินหยุน
ยืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่อย่างสงบนิ่ง
ทันใดนั้น หลินหยุนก็รู้สึกรับรู้ได้ จึงเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ด้านบนนั้น จั่วยีเจี้ยนในชุดสีเขียว เอามือสองข้างไขว้หลัง แล้วมองมาที่หลินหยุนอย่างเงียบสงบ
“ปรมาจารย์หลิน? ” จั่วยีเจี้ยนค่อย ๆ เอ่ยปากพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา
ดวงตาของหลินหยุน เกิดเจตนาสังหารขึ้นโดยพลัน แม้ว่าจะห่างกันนับหลายร้อยเมตร แต่จั่วยีเจี้ยนก็ยังคงสามารถรับรู้สัมผัสได้
“ได้ยินว่าแต่ไหนแต่ไรมาปรมาจารย์หลินคือผู้ที่หนักแน่นไม่ตื่นตระหนกต่อสภาพการณ์ใด ๆ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ดูโมโหมากขนาดนี้ด้วย? ” จั่วยีเจี้ยนยิ้มเยาะและพูดขึ้น
“ดูเหมือนว่าคำร่ำลือนั้นจะผิดพลาด! ”
หลินหยุนเหาะลอยตัวขึ้นมา ยืนอยู่ตรงข้ามของจั่วยีเจี้ยนที่ระยะห่างประมาณสิบเมตร สีหน้าท่าทางเฉยชา: “นายฆ่าเพื่อนของฉัน”
จั่วยีเจี้ยนหัวเราะเหอะเหอะ: “เพื่อน? ”
“คนอย่างพวกเรานี้ จะมีเพื่อนได้อย่างไรกัน? ก็แค่ลูกน้องคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมจะต้องจริงจัง
ขนาดนี้ด้วย”
สีหน้าท่าทางของเขา แสดงออกมาถึงความสงบนิ่ง มองข้ามเรื่องความเป็นความตาย
หลินหยุนพูดขึ้นทันทีว่า: “นายบำเพ็ญฝึกฝนวิชาสะบั้นรัก”
จั่วยีเจี้ยนสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังหลินหยุนนั้น เผยให้เห็นถึงความ
ตระหนกตกใจ
“ปรมาจารย์หลินสมกับคำร่ำลือจจริง ๆ! ”
“มีแต่ตัดขาดจากความรักได้ ถึงจะสามารถเข้าใจเรื่องของความเป็นความตาย มีแต่เข้าใจอย่าง
ทะลุปรุโปร่ง ถึงจะควบคุมกำหนดทุกสิ่งอย่างได้”
“สมญานามของฉันคือความเป็นและความตายในชั่วขณะ ชื่อของฉันคือจั่วยีเจี้ยน”
หลินหยุนยิ้มเยาะ: “กฎเกณฑ์ของความเป็นและความตาย คือการดำรงอยู่ของสรรพสิ่งในจักรวาล
ภายใต้กฎต้าเต๋า ต่อให้ในช่วงสูงสุดของฉัน ก็ยังไม่กล้าที่จะกำหนดควบคุม ลำพังแค่นาย ยังกล้าที่จะพูดถึงการควบคุมกำหนดความเป็นและความตายด้วย”
จั่วยีเจี้ยนไม่ได้โกรธเคือง โดยพูดขึ้นอย่างเฉยเมยว่า: “นายสามารถทดสอบดูได้”
คราวนี้ หลินหยุนผิดแปลกไปจากเดิม โดยที่เป็นฝ่ายบุกโจมตีก่อน
“ท่าสยบเขา! ”
เริ่มต้นลงมือ ก็ใช้กระบวนท่าสิบแปดท่าต้าเต๋าแล้ว
อีกทั้ง ยังใช้พละกำลังถึงสิบส่วนเลย
พลังหมัดรวดเร็วดั่งเจียว มีอานุภาพอันทรงพลัง พุ่งจู่โจมในทันที
จั่วยีเจี้ยนยิ้มเยาะ: “แค่นี้ก็ยังอดทนอดกลั้นไม่อยู่แล้ว เตรียมรับความพ่ายแพ้ได้เลย”
พูดจบ มือสองข้างของเขาได้วาดเป็นครึ่งวงกลมที่เบื้องหน้า เพื่อรอเผชิญหน้าพลังหมัดนั้น
ของหลินหยุน
เปรี๊ยะ!
พลังหมดของหลินหยุนนั้น คิดไม่ถึงว่าเหมือนกับชกเข้าใส่ฝ้าย
จั่วยีเจี้ยนสีหน้าขาวซีดขึ้นเล็กน้อย
“พลังหมัดรุนแรงอย่างมาก”
“แต่ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”
ตอบกลับมาด้วยพลังหมัดที่สองของหลินหยุน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...