จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1046

สรุปบท บทที่ 1046 วิญญาณในจี้หยก: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1046 วิญญาณในจี้หยก จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1046 วิญญาณในจี้หยก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ในจี้หยกชิ้นนี้ มีวิญญาณที่ทรงพลังแฝงอยู่

ช่วงเวลาที่ยาวนานมานี้ วิญญาณดวงนี้ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมาก่อนเลย ทำให้หลินหยุนแทบจะ

ลืมไปว่ายังมีเขาอยู่

แต่ว่า ครั้งนี้ที่พบกับเย่จื่อเชี่ยนอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าวิญญาณดวงนี้จะเคลื่อนไหวขึ้น

หรือว่า วิญญาณดวงนี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเย่จื่อเชี่ยน

คาร์นอตวิลเลียมที่อยู่ด้านข้างแอบกระซิบถามหลินหยุนขึ้นว่า: “พวกนายรู้จักกันเหรอ? ”

หลินหยุนพูดว่า: “เพื่อนคนหนึ่ง”

สายตาของคาร์นอตวิลเลียม มองสำรวจไปที่เด็กหนุ่มสองคนนั้น

“สาวน้อย ดูเหมือนว่าเพื่อนนักเรียนสองคนของเธอนี้จะไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไร! ”

“จะให้พวกเราช่วยจัดการสั่งสอนพวกเขาสักหน่อยไหม? ”

ฟาวล์เคสตวาดใส่ว่า: “เฮ่ย นายไอ้คนสารเลว กำลังพูดอะไรอยู่น่ะ? “นึกไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ร่วมกับชาวจีนที่ขี้ขลาด ทำให้พวกเราต้องอับอายขายหน้ากันไปหมดแล้ว! ”

เย่จื่อเชี่ยนขมวดคิ้ว โดยสายตาที่มองไปยังฟาวล์เคสนั้นเหมือนกับกำลังมองไปที่คนโง่ และพูดขึ้น

อย่างเย็นชาว่า: “ถ้านายยังไม่อยากตาย ก็หุบปากของนายซะฟาวล์เคส! ”

เย่จื่อเชี่ยนรู้ถึงความน่ากลัวของหลินหยุน หากอยู่ที่จีนบางทีหลินหยุนอาจจะมีความพะว้าพะวัง

อยู่บ้าง แต่อยู่ที่นี่ เกรงว่าหลินหยุนจะไม่มีความพะว้าพะวังอะไรเลยแม้แต่น้อย

แต่ว่า ฟาวล์เคสจะไปเข้าใจถึงความหวังดีของเย่จื่อเชี่ยนได้อย่างไรกัน? โดยที่เขายังนึกว่า

เย่จื่อเชี่ยนกำลังเข้าข้างปกป้องหลินหยุนอยู่

เปรี๊ยะ!

ฟาวล์เคสตบเข้าไปที่ใบหน้าของเย่จื่อเชี่ยน

“ผู้หญิงจีนหน้าโง่ คนอย่างเธอมีสิทธิที่จะใช้อารมณ์พูดกับฉันแบบนี้ด้วยเหรอ รนหาที่ตาย! ”

เย่จื่อเชี่ยนตกใจและหวาดกลัว โดยมองไปที่ฟาวล์เคสอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมกับน้ำตา

ไหลคลอเบ้า

หลินหยุนสีหน้าเยือกเย็นลงแล้ว

ส่วนคาร์นอตวิลเลียมลงมือจัดการทันที

เพียงแค่ฝ่ามือเดียว ก็ตบจนฟาวล์เคสล้มกองไปที่พื้น

คาร์นอตวิลเลียมใช้ขาข้างหนึ่งเหยียบไปบนใบหน้าของฟาวล์เคส ยิ้มเยาะและพูดว่า: “เพื่อนของ

ปรมาจารย์หลินแกยังกล้าที่จะตบตี แกนี่มันช่างสารเลวจริง ๆ! ”

ฟาวล์เคสใช้มือค้ำยันไปบนพื้น คิดที่จะสลัดให้หลุดพ้นจากเท้าของคาร์นอตวิลเลียม แต่ว่า แรงพลังของเขาที่เป็นคนธรรมดาทั่วไปนั้น จะไปเทียบกับแรงพลังของคาร์นอตวิลเลียมได้อย่างไร

“ไอ้สารเลวที่สมควรตาย เอาเท้าอันสกปรกของแกออกไป! ”

“นายรู้ไหมว่าฉันคือใคร? ฉันชื่อว่าจอร์จ ฟาวล์เคส ฉันคือสมาชิกของตระกูลจอร์จ! ”

“ฉันขอสาบานต่อเทพแห่งสว่าง ถ้าหากนายยังไม่นำเท้าออกไปอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้ ฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้จริง ๆ! ”

สีหน้าของคาร์นอตวิลเลียมแสดงรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา: “ตระกูลจอร์จ? ”

“จอร์จ เคทไอ้คนนั้นเป็นอะไรกับนาย? ”

ฟาวล์เคสโมโหอย่างมาก: “หุบปาก นั่นคือเจ้าบ้านตระกูลจอร์จของพวกเรา! ”

คาร์นอตวิลเลียมหัวเราะมากขึ้นอีก: “ที่แท้เขาก็ได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลของพวกนายแล้ว”

“แต่ว่า ตระกูลจอร์จถ้าหากแต่ละคนเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างนาย อย่างนั้นก็คงจะไม่ไกล

จากความล่มสลายแล้ว”

ฟาวล์เคสจะคิดได้อย่างไรว่า เด็กหนุ่มที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาที่อยู่ด้านหน้าของเขานี้ อายุตามจริงแล้วยังจะมากกว่าคุณปู่ของเขาเสียอีก

ได้ยินเสียงที่วางมาดถือดีว่าเป็นผู้อาวุโสของคาร์นอตวิลเลียมแล้ว ฟาวล์เคสก็ดุด่าขึ้นด้วย

ความโมโห: “ในปารีส ยังไม่มีใครกล้าที่จะไม่ให้เกียรติตระกูลจอร์จของพวกเรา หากนายกล้าที่จะ

ไม่เคารพเจ้าบ้านตระกูลของพวกเราอีก ฉันสาบานว่า นายจะต้องตายอย่างอเนจอนาถแน่นอน! ”

คาร์นอตวิลเลียมหัวเราะ: “อย่างนั้นก็ให้จอร์จ เคทมาหาฉันสิ แล้วมาดูกันว่าถึงตอนนั้นใครกันแน่

ที่จะตายอย่างอเนจอนาถ”

เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านข้างนั้น เห็นว่าฟาวล์เคสถูกคาร์นอตวิลเลียมเหยียบอยู่บนพื้น แต่กลับไม่ได้คิด

ที่จะช่วยเหลือฟาวล์เคสเลยแต่อย่างใด

กลับกลายเป็นว่ายิ้มดีใจที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “เฮ่ย ฟาวล์เคส ชื่อเสียงตระกูล

จอร์จของพวกนายเหมือนจะไม่ได้เรื่อง! ”

“แม้แต่จอร์จ เคทก็ยังไม่อยู่ในสายตา ไอ้หนุ่ม นายใจเด็ดจริง ๆ! ”

คาร์นอตวิลเลียมไม่ได้สนใจเขา แล้วก็มองไปยังเจซันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม: “นายไม่โทรศัพท์ไปหา

คนที่บ้านบ้างเหรอ? ”

เจซันลังเลใจชั่วครู่ โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร เขาอยากที่จะดูว่าไอ้คนที่อยู่เบื้องหน้านี้ตกลงว่ามีใคร

เป็นผู้พักพิงอยู่เบื้องหลังกันแน่

ฟาวล์เคสคงจะมีสถานะที่ไม่ต่ำต้อยในตระกูลจอร์จ เพียงแค่สิบกว่านาที ก็มีรถหลายคันขับมา จอดอยู่ที่ถนนด้านข้างที่พวกเขายืนกันอยู่

พื้นที่กว้างคนน้อยก็ดีอย่างนี้เอง กำลังช่วยเหลือจึงมาถึงได้รวดเร็วขนาดนี้ ถ้าหากอยู่ใน

เมืองหลวงของจีน พวกเมืองที่เหนือกว่าเมืองระดับหนึ่งอย่าง จงไห่ นั้น หากรถไม่ติดสองชั่วโมง ก็ถือว่านายโชคดีอย่างมาก

ชายอ้วนในชุดสูทสีขาวคนหนึ่ง ที่ด้านหลังมีบอดี้การ์ดรูปร่างสูงใหญ่ติดตามอยู่สองคนนั้น ได้เดิน

ออกมาจากกลุ่มชายฉรรจ์เจ็ดแปดคนที่โอบล้อมอยู่

“ฉันดูหน่อยสิว่าเป็นใคร แม้แต่ตระกูลจอร์จก็ยังไม่ให้เกียรติไม่ไว้หน้ากันเลย” ชายอ้วนคนนั้น

พูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมอง และท่าทางที่น่าเกรงขาม

“คุณพ่อ ก็คือพวกเขา ไอ้หนุ่มคนนี้ เขาดูถูกเจ้าบ้านตระกูลของพวกเรา! ” ฟาวล์เคสพูดเสียงดังขึ้น

จอร์จ พีเทอะ ซึ่งก็คือพ่อของฟาวล์เคส สายตาของเขาได้ชายตามองไปที่หลินหยุนและเย่จื่อเชี่ยน เห็นเป็นแค่วัยรุ่นชาวจีนสองคน ใบหน้าของจอร์จ พีเทอะก็แสดงความเหยียดหยามออกมา

แต่ว่า เมื่อเขามองเห็นคาร์นอตวิลเลียมที่กำลังยืนกอดอก และยิ้มเยาะอยู่นั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป

ทันที

จอร์จ พีเทอะเริ่มต้นจากสงสัย จากนั้นก็ยืนยัน จนในที่สุดก็เกิดความตกตะลึง

ฟาวล์เคสยังตะโกนโวยวายอย่างไม่รู้จักความเป็นความตาย: “คุณพ่อ ท่านจะต้องฆ่าเขาให้ได้ เมื่อครู่นี้เขาได้ใช้รองเท้าเหยียบย่ำบนใบหน้าอันหล่อเหลาของฉัน! ”

จอร์จ พีเทอะเดินขึ้นมาข้างหน้าทันที แล้วก็ตบไปที่หน้าของฟาวล์เคส

“หุบปาก นายไอ้เด็กโง่เง่า! ”

“เปิดตาของแกให้กว้างขึ้นแล้วมองดูให้ชัดเจนว่า เขาคือใคร! ”

ฟาวล์เคสถูกตบจนถึงกับงุนงง จ้องมองไปยังจอร์จ พีเทอะอย่างแข็งทื่อ ผ่านไปชั่วครู่ถึงตั้งสติ

กลับคืนมาได้

“คุณพ่อ ท่านกำลังทำอะไร! ”

“คนที่ดูถูกเหยียดหยามเจ้าบ้านตระกูลของพวกเราก็คือเขา! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์