จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1050

สรุปบท บทที่ 1050 ต่อสู้คนเดียว: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1050 ต่อสู้คนเดียว จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1050 ต่อสู้คนเดียว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“พระเจ้า! นึกไม่ถึงว่าเข้าจะฆ่าคาร์ลตายแล้ว! ” มีคนอุทานขึ้นอย่างตกใจ

“ดยุกดรูว์ไม่มีทางจะปล่อยนายไปแน่! ”

พวกคนของเผ่าโลหิตมองไปยังคาร์นอตวิลเลียม ด้วยความหวาดกลัวและโกรธแค้นอย่างมาก

แต่ว่า กลับไม่มีใครกล้าที่จะใช้คำพูดดูถูกเหยียดหยามคาร์นอตวิลเลียม

โลกใบนี้ก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีความสามารถ แม้แต่อึสุนัขก็ยังเทียบไม่ได้ เพราะอย่างน้อยอึสุนัขก็ไม่มี

ใครไปเหยียบย่ำ

สำหรับการลงมือฆ่าคนเผ่าเดียวกันของคาร์นอตวิลเลียมนั้น หลินหยุนกลับไม่มีความตื่นตกใจ

อันใด

มนุษย์ต่างสายเลือด ในเผ่าโลหิต มีกำหนดกฎเกณฑ์ระดับชนชั้นอย่างเข้มงวด

ชนชั้นล่างกระทำผิดต่อชนชั้นบน นั่นมีโทษถึงตาย

โดยคาร์นอตวิลเลียมในฐานะที่เป็นเจ้าชายเผ่าโลหิต แต่กลับถูกมาร์ควิสรวมถึงลูกของมาร์ควิส

ที่มีสายเลือดความสูงศักดิ์ที่ห่างชั้นกับเขาอย่างมากนั้นดูถูกเหยียดหยาม ถ้าหากว่าเขาไร้พลัง

ความสามารถ เกรงว่าคงจะถูกพวกคนเหล่านี้ฆ่าตายไปตั้งนานแล้ว

คาร์นอตวิลเลียมยืนอยู่กับที่อย่างสงบ พร้อมกับปิดตาสองข้างลง

ร่างกายของเขา แผ่กระจายพลังอำนาจออกมา ซึ่งเป็นพลังอำนาจของความมั่นใจในตนเอง

เมื่อเขาลืมตาขึ้นนั้น แทบจะเทียบเท่าได้ว่าเขาเกิดใหม่ขึ้นอีกครั้ง

สีหน้าท่าทางของคาร์นอตวิลเลียมนั้น สง่างามสูงศักดิ์ยิ่งกว่าในอดีตแล้ว

เวลานี้ เขาสมกับเป็นราชาอย่างแท้จริง

คาร์นอตวิลเลียมกวาดสายตามองไปที่ทุกคนอย่างไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก และพูดขึ้นอย่าง

เย็นชาว่า: “ดยุกแดร็กคิวล่าอยู่ที่ไหน? ”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยพลังอำนาจ ทำให้พวกคนเผ่าโลหิตระดับล่างหวาดกลัวกันไปหมด

การกดขี่ทางสายเลือดนั้น เด็ดขาดยิ่งกว่าการกดขี่ทางพลังความสามารถเสียอีก

“ดยุกแดร็กคิวล่าไม่อยู่” มีคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา

“ไม่อยู่? ” คาร์นอตวิลเลียมขมวดคิ้ว

จากนั้น เขาก็มองไปที่ปราสาทหลังที่ใหญ่ที่สุดนั้น และก็ตะโกนพูดว่า: “แดร็กคิวล่า ฉันกลับมาแล้ว นายไม่ออกมาต้อนรับหน่อยเหรอ? ”

เสียงของเขาดังกังวานไปไกล และแฝงไปด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ราวกับว่าเป็นการท้าทายยั่วยุ

ในปราสาทมีเสียงตอบกลับขึ้นทันที

“ดยุกไม่อยู่ ให้ฉันออกมาต้อนรับนายแทนแล้วกัน! ”

เสียงที่แก่ชราดังขึ้น

จากนั้น ผู้อาวุโสที่มีผมสีเงินทั้งศีรษะ ในชุดคลุมสีแดงก็พลันปรากฏขึ้นกลางอากาศด้านหน้าของ

คาร์นอตวิลเลียม

เหมือนกับเดินออกมาจากกลางอากาศอย่างกะทันหัน

“ดยุกดรูว์! ”

พวกคนเผ่าโลหิตร้องเรียกขึ้นด้วยความดีใจ

สายตาของคาร์นอตวิลเลียม แสดงออกถึงความโกรธแค้นอย่างหนัก พร้อมกับความหวาดกลัว

เล็กน้อย

นั่นคงเป็นเงามืดในวัยเด็ก

คาร์นอตวิลเลียมพูดขึ้นเบา ๆ ว่า: “ดยุกดรูว์ ฉันจำได้ว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันยังไม่ได้ออกจาก

เผ่าไปนั้น นายเกือบจะลงมือฆ่าฉันแล้ว”

ดยุกดรูว์ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา ใบหน้าที่แก่ชราเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม: “ฉันเสียใจอย่างมาก ที่ในตอนนั้นไม่ลงมือฆ่านาย”

“ไม่อย่างนั้น วันนี้คาร์ลคงจะไม่ตาย! ”

คาร์นอตวิลเลียมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “ไม่เคารพต่อเจ้าชาย นายสมควรตาย! ”

“ฮ่าฮ่า พลังความสามารถของนายนั้นเพิ่มขึ้นไม่น้อยก็จริง แต่ว่า เมื่อเทียบกับฉันแล้ว นายยัง

ห่างไกลอยู่อีกมาก” ดรูว์หัวเราะเยาะเย้ย

คาร์นอตวิลเลียมยิ้มอย่างประหลาด: “จริงอยู่ที่ว่า ฉันยังต่อสู้เอาชนะนายไม่ได้ แต่ มีคนที่สามารถ

เอาชนะได้”

สายตาของดรูว์ มองไปยังหลินหยุนที่ยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ของปราสาท โดยชี้ไปที่หลินหยุนและ

ถามขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า: “ที่นายพูดก็คือเขาคนนั้นใช่ไหม? ”

“นักบู๊ชาวจีน นายคิดว่าจะต่อสู้เอาชนะฉันได้อย่างนั้นเหรอ? ”

“เหอะเหอะ ช่างน่าขันจริง ๆ! ”

หลินหยุนพูดขึ้นว่า: “ฉันอยากจะลองดูสักตั้ง”

สายตาของดยุกดรูว์มีแสงอันตรายปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง และพูดว่า: “หนุ่มน้อย นายอาจจะตายได้”

สิ่งที่ตอบเขากลับไปนั้น คือหมัดของหลินหยุน

หมัดนี้ ช้าอย่างมาก เหมือนกับคนแก่ กำลังรำไทเก็ก

แต่ว่า สีหน้าของดยุกดรูว์ กลับเปลี่ยนไปในทันที

ในฐานะผู้อาวุโสที่เก่งกาจและช่ำชองในการต่อสู้ ดยุกดรูว์เคยได้ต่อสู้กับนักบู๊ชาวจีนมากมาย ในจำนวนนี้รวมถึงนักบู๊แดนเทพเหล่านั้นด้วย

แต่ว่า ดยุกดรูว์รู้สึกว่า พวกนักบู๊ที่เขาได้เคยต่อสู้ด้วยนั้น เมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้านี้แล้ว ช่างแตกต่างกันมากยิ่งนัก

พลังหมัดนั้นของหลินหยุน เริ่มต้นจากหน้าประตูใหญ่ของปราสาท แต่ว่า ตำแหน่งที่เกิดแรง

ปะทะนั้น กลับปรากฏอยู่ตรงหน้าของดรูว์

แต่ว่า เสียงของหลินหยุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เขาใช้มือข้างหนึ่งปล่อยพลังท่าแยกน้ำโจมตีไปยังดรูว์ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งทำท่วงท่า แสดงท่าห้าม

สิ่งวายชนม์

ดรูว์รู้สึกว่า ร่างกายของเขาขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว

ส่วนการโจมตีของหลินหยุนก็ประชิดใกล้เข้าแล้ว

ตูม!

ท่าแยกน้ำ ทำลายทุกสิ่งที่ขวางกั้น พุ่งตรงเข้าใส่คู่ต่อสู้

พลังหมัดนั้น พุ่งชกเข้าไปที่หน้าอกของดรูว์ จนหัวใจของดรูว์นั้นสะเทือนแหลกละเอียด

“หากฟุ้งซ่านขณะต่อสู้ ก็ต้องตายสถานเดียว” หลินหยุนมองไปที่เขา และพูดขึ้น

ดรูว์รู้สึกว่าหัวใจแหลกละเอียด พร้อมกับอ้าปากกระอักเลือดออกมา

เขามองไปที่หลินหยุนด้วยความหวาดกลัว: “เป็นไปได้อย่างไร! คิดไม่ถึงว่านายจะสามารถ

โจมตีด้วยสองกระบวนท่าในเวลาเดียวกันได้ นายทำมันได้อย่างไร! ”

“นี่มันขัดกับกฎเกณฑ์ธรรมชาติทั่วไป! ”

หลินหยุนไม่ได้สนใจ โดยได้ชี้นิ้วเป็นกระบี่ขึ้น แล้วก็ฟาดฟันไปที่ศีรษะของดรูว์

พวกคนของเผ่าโลหิตพากันเงียบกริบ

ถ้าหากพูดว่าคาร์นอตวิลเลียมทำให้พวกเขาตกตะลึงแล้ว ถ้าอย่างนั้นหลินหยุนก็คงจะทำให้

พวกเขาสะพรึงกลัว

ดยุกดรูว์ นั่นเป็นถึงยอดฝีมืออันดับต้น ๆ ของตระกูลแดร็กคิวล่า

หลินหยุนไม่อยากที่จะสิ้นเปลืองเวลาต่ออีก จึงมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม และถามขึ้นว่า: “บันทึกบรรพบุรุษโลหิตอยู่ที่ไหน? ”

คาร์นอตวิลเลียมพูดขึ้นว่า: “อยู่ในห้องของดยุกแดร็กคิวล่า”

“ไปนำมันด้วยกันกับฉัน” หลินหยุนพูดขึ้น

คาร์นอตวิลเลียมส่ายศีรษะ: “เกรงว่าจะยังไม่ได้ แม้ว่าดยุกแดร็กคิวล่าอาจจะไม่อยู่ในปราสาท แต่ยอดฝีมือของตระกูลแดร็กคิวล่า ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงดรูว์แค่คนเดียว”

“ฉันเคยพูดเอาไว้ว่า ถ้าหากนับรวมยอดฝีมือของตระกูลแดร็กคิวล่าเข้าไปด้วย สิ่งที่เรียกว่า

ประกาศมืดอะไรนั้น ก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลกขบขัน”

หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย: “ในตะวันตก ผู้มีอิทธิพลอำนาจอย่างพวกนายนี้ยังมีอีกเท่าไร? ”

คาร์นอตวิลเลียมครุ่นคิด และพูดว่า: “ถ้าหากนับแค่เผ่าโลหิตของพวกเรา ตระกูลที่เหมือนกับ

พวกเราแบบนี้ มีอยู่ทั้งหมดเจ็ดตระกูล”

“แต่ว่า ตระกูลแดร็กคิวล่าของพวกเรา น่าจะเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในจำนวนเจ็ดตระกูล

เหล่านี้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์