จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1054

สรุปบท บทที่ 1054 เทพธิดาที่เขียนไว้ในบันทึกบรรพบุรุษโลหิต: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 1054 เทพธิดาที่เขียนไว้ในบันทึกบรรพบุรุษโลหิต – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 1054 เทพธิดาที่เขียนไว้ในบันทึกบรรพบุรุษโลหิต ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลินหยุนก็เปิดอ่านสมุดเล่มเล็กโบราณนั้น

ที่ทำให้ไม่เข้าใจก็คือ ตัวหนังสือบนสมุดเล่มเล็กนั้น ถึงกับใช้ภาษาจีนในการจดบันทึกไว้

อีกอย่าง นี่ไม่ใช่ตัวอักษรแบบตัวย่อที่ใช้กันในปัจจุบัน แต่กลับเป็นตัวอักษรแบบตัวเต็มที่ใช้เมื่อก่อนหน้านี้นานแล้ว

หลินหยุนมองดูคาร์นอตวิลเลียมแล้วถามว่า “บรรพบุรุษเผ่าโลหิตเป็นชาวจีนเหรอ?”

คาร์นอตวิลเลียมส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? บรรพบุรุษเผ่าโลหิตเป็นคนที่สูงส่งที่สุดของพวกเราเผ่าโลหิต เป็นสายเลือดบรรพบุรุษที่แท้จริงที่สุดของเผ่าโลหิต เป็นไปได้ยังไงจะเป็นชาวจีน?”

หลินหยุนมองดูสมุดเล่มเล็กแล้วถามว่า “งั้นทำไมบันทึกบรรพบุรุษโลหิตต้องเขียนด้วยภาษาจีนล่ะ?”

คาร์นอตวิลเลียมกลับไม่รู้สึกแปลกใจอะไร อีกทั้งยังถามหลินหยุนกลับว่า “นี่จะมีปัญหาอะไรเหรอ?”

“ไม่มีอะไรที่บรรพบุรุษเผาโลหิตทำไม่ได้ การรู้จักภาษาจีนของพวกคุณเป็นเรื่องธรรมดามากเลย!”

หลินหยุนพูดว่า “ต่อให้เขารู้จักภาษาจีนก็จริง แต่ว่าเรื่องการจดบันทึกด้วยมือแบบนี้โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่ก็จะมักใช้ภาษาที่ตัวเองถนัดในการเขียนบันทึกทั้งนั้น ก็เหมือนคุณที่รู้ภาษาจีนเหมือนกัน แต่ว่าถ้าให้คุณจดบันทึกเรื่องราวลึกลับบางอย่าง คุณจะใช้ภาษาจีนเขียนไหมล่ะ?”

คาร์นอตวิลเลียมคิดดูแล้วก็ส่ายหน้า “งั้นก็คงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน”

“นอกจากว่าภาษาจีนจะเป็นภาษาที่ฉันถนัดมากที่สุด หรือไม่ ฉันอาจจะจดบันทึกไว้ เพื่อทิ้งไว้ให้ใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะที่ฉันต้องการให้ดูเท่านั้น”

คาร์นอตวิลเลียมมองไปยังหลินหยุน แล้วถามว่า “คุณกำลังสงสัยว่า บรรพบุรุษเผ่าโลหิตใช้ภาษาจีนจดบันทึก เป็นการจงใจงั้นเหรอ?”

หลินหยุนพยักหน้า “มีความเป็นไปได้มาก”

คาร์นอตวิลเลียมไม่ชอบการเดาไปเดามาเช่นนี้ จึงพูดอย่างอดรนทนไม่ไหวว่า “รีบอ่านดูข้างในว่าบันทึกอะไรไว้บ้าง อาจไม่แน่ข้างในบันทึกบรรพบุรุษโลหิตได้เขียนอธิบายอะไรไว้ก็ได้”

“อึม” หลินหยุนพยักหน้า แล้วเริ่มอ่านดูสมุดบันทึกนั้น

ประโยคแรกเขียนไว้ว่า “เธอคือผู้หญิงที่สวยที่สุดในใต้หล้านี้เท่าที่ฉันเคยเห็นมา”

หลังจากนั้น ก็ล้วนแต่เป็นคำบรรยายที่ชื่นชมความงามด้วยถ้อยคำที่คมคาย

ทั้งหน้ากระดาษล้วนแต่ชมเชยความงามของผู้หญิงคนนั้นทั้งนั้น

หญิงสาวที่พูดถึงคนนั้นก็คือเทพธิดาตัวจริงแล้ว ในโลกนี้ไม่มีทางที่จะมีผู้หญิงที่งามเพียบพร้อมสมบูรณ์ได้เช่นนั้นอย่างแน่นอน

เมื่ออ่านเนื้อหาจบแล้ว คาร์นอตวิลเลียมก็มึนงงไปสักพักหนึ่ง “เกิดอะไรขึ้น?”

หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย “บรรพบุรุษเผ่าโลหิตคุณที่แท้ก็เป็นพวกโรคคลั่งรัก”

“อ่านต่อไปอีกเลยว่ายังเขียนอะไรอีก” คาร์นอตวิลเลียมพูดเร่งเร้า

หน้าที่สองเขียนไว้ว่า “เธอมาจากประเทศจีน เธอคือดวงจันทร์ที่สวยที่สุดในยามค่ำคืน”

จู่ๆหลินหยุนก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้น

ดวงจันทร์ที่สวยที่สุดในยามค่ำคืน มาจากประเทศจีน

คนที่บรรพบุรุษเผ่าโลหิตพูดถึงคือเย่เยว่เหรอ?

เนื้อหาต่อไปก็เขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับเขาเทพจันทราและเมืองปีศาจ

อ่านถึงตรงนี้แล้ว คาร์นอตวิลเลียมก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็จำข้อมูลสองอย่างนี้ได้ ดังนั้นฉันจึงไปประเทศจีนไง”

“ด้านหลังดูเหมือนจะเป็นภาพวาดหลายรูปอยู่ ตอนนั้นฉันก็ดูไม่เข้าใจ อ่านจบแล้วก็ลืมไปเลย”

หลินหยุนก็พลิกหน้าต่อไป ด้านหลังวาดรูปภาพไว้สิบสองรูป วาดได้ค่อนข้างครุมเครือไม่ชัดเจนนัก แต่ว่าก็ยังคงดูออกว่า ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็นสถานที่สิบสองแห่ง

หนึ่งในรูปภาพที่วาดนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่ง บนเกาะก็ยังมีรูปปั้นรูปหนึ่งอยู่ด้วย

มุมขวาล่างสุดในหน้าสุดท้ายนั้น ยังมีตัวหนังสือเล็กๆเขียนไว้ว่า “ฉันเสียใจแล้ว”

ทั้งสี่คำนี้ หลินหยุนอ่านแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ฉันเสียใจแล้ว

หมายความว่าอะไร?

บรรพบุรุษเผ่าโลหิตสำนึกเสียใจแล้ว? เสียใจอะไรล่ะ?

ในเมื่อเขาเขียนบันทึกไว้ในสมุดบันทึกว่าฉันเสียใจแล้ว เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นลึกซึ้งมากพอที่จะทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

อีกอย่างถ้าหากเชื่อมโยมกับเนื้อหาก่อนหน้านั้นแล้วละก็ เรื่องราวที่ทำให้บรรพบุรุษเผ่าโลหิตสำนึกเสียใจ น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้

สมมุติว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือเทพจันทรา เช่นนั้นแล้วเธอก็จะเป็นเทพธิดาแห่งชีวิตในตำนานเทพนิยายของโลกตะวันตกด้วยหรือไม่?

แล้วเธอกับบรรพบุรุษเผ่าโลหิตมีความสัมพันธ์อะไรกัน?

ตราประทับในตัวของชนเผ่าโลหิต จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่?

ข้อสงสัยแต่ละข้อนั้น แม้แต่หลินหยุนก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้เลย

คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างเสียดายว่า “แค่นี่เองไม่มีอีกแล้วเหรอ? นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องราวของเทพธิดาแห่งชีวิตเลย แล้วพวกเราจะไปหาของที่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งไว้ให้ได้จากที่ไหนกันล่ะ?”

หมัดอันทรงพลังเท่ากับภูเขาไท่ซาน ก็พุ่งถล่มลงไปยังทั้งสองคนนั้น

ทั้งสองคนนั้นไม่รีบไม่ร้อน แต่ละคนก็วาดวงกลมวงหนึ่งอยู่ตรงหน้าอกของตัวเอง

วงกลมที่ทั้งสองคนวาดออกมานั้นต่างก็ไม่เหมือนกัน วงหนึ่งสีแดงอีกวงหนึ่งสีขาว

สีแดงคือไฟ สีขาวคือน้ำแข็ง

หนึ่งร้อนหนึ่งหนาว สุดขั้วทั้งสองอย่าง

หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว

วงกลมสีแดงหนึ่งขาวหนึ่งทั้งสองวงนั้น ถึงกับหลอมรวมเข้าด้วยกัน

จากนั้นทั้งสองคนก็ผลักไปข้างหน้าอย่างแรง

โป้ง !

ทั้งน้ำแข็งและไฟที่หลอมรวมเข้าด้วยกันนั้น ก็เหมือนกับมังกรยักษ์สองสีตัวหนึ่ง ระเบิดกลิ่นอายที่รุนแรงมากขึ้นสิบเท่าตัว แล้วพุ่งไปหาหลินหยุน

โป้ง!

หลินหยุนชกหมัดขึ้นไปด้านบน มังกรยักษ์สองสีนั้นก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น แต่ว่าการโจมตีของหลินหยุนก็ถูกขัดขวางไว้ได้

ต้องเข้าใจว่า ตอนนี้คนที่สามารถต้านทานการโจมตีของหลินหยุนไว้ได้ เกรงว่าก็มีแต่ยอดฝีมือแดนเทพสูงสุดเท่านั้นที่สามารถทำได้

นั่นก็หมายความว่า พลังความสามารถของคนทั้งสองรวมกันแล้ว ถึงกับอยู่ในระดับแดนเทพสูงสุดทีเดียว

คาร์นอตวิลเลียมก็เข้าใจประเด็นนี้ดี พูดขึ้นอย่างตกใจทันทีว่า “ถึงกับแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว! พวกแกเป็นใครกันแน่?”

ทั้งสองคนยังคงไม่ตอบอะไร แต่เงาร่างแวบหายไปจากที่เดิมทันที

วินาทีต่อมา เงาร่างของทั้งสองคนก็มาถึงตรงหน้าหลินหยุนแล้ว

ทั้งสองคนก็ชกหมัดออกมาพร้อมกันเช่นเดิม กำปั้นของคนหนึ่งมีประกายแสงสีแดงห่อหุ้มอยู่ ส่วนหมัดของอีกคนหนึ่ง ก็ห่อหุ้มด้วยลำแสงสีขาว

คาร์นอตวิลเลียมอยู่ๆก็ตะโกนพูดด้วยความตกใจว่า “ฉันนึกออกแล้ว พวกแกคือคู่สังหารไฟหนาว”

“แต่ว่า คู่สังหารไฟหนาวหายสาบสูญไปเมื่อยี่สิบปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“ทำไมจึงมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์