หลินหยุนเดินตามหลังคาร์นอตวิลเลียม เข้าไปในปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดหลังนั้น
ภายในปราสาทโบราณนั้น แสงไฟมืดมัว ภายในห้องโถงปราสาทโบราณไม่มีดวงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีแต่แสงสว่างอันน้อยนิดจากไข่มุกดำไม่กี่เม็ดที่สาดส่องอยู่บนยอดปราสาทโบราณเท่านั้น
ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปละก็ จะไม่สามารถที่จะมองเห็นในสภาวะเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน
แต่ว่า แสงชนิดนี้สำหรับเผ่าโลหิตแล้วกลับเป็นการเหมาะสมพอดี
“ในความทรงจำของฉัน ห้องหนังสือของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าก็อยู่ชั้นบนนี้”
คาร์นอตวิลเลียมก็ก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดไม้ไป พูดพลางมองดูทางขึ้นบันไดที่มืดมิดนั้น
ด้วยพลังความสามารถของหลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมแล้ว แสงสว่างไม่ได้มีผลอะไรต่อพวกเขาเลย ต่อให้เป็นที่มืดมิดจนไม่สามารถมองเห็นแม้แต่นิ้วมือ ก็ยังไม่มีผลต่อการมองเห็นของพวกเขาทั้งสองคน
ทั้งสองคนเดินขึ้นไปชั้นบนตามบันไดไม้นั้น
ชั้นบนนั้นมีห้องอยู่หลายห้อง คาร์นอตวิลเลียมชี้ไปยังห้องที่อยู่ด้านเหนือ หันหลังไปมองหลินหยุนแล้วพูดว่า “นี่ก็คือห้องหนังสือของแกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่า ช่วงเวลาก่อนหน้าที่ฉันจะจากไปนั้น เขายังไม่ได้ย้ายห้องเลย”
หลินหยุนเดินเข้าไป ยื่นมือไปผลักประตูไม้นั้น
แต่ว่าหลินหยุนกลับไม่สามารถผลักให้ออกได้
ด้วยพลังแรงของหลินหยุนแล้ว ต่อให้ห้องล็อกประตูไว้ เขาก็ยังสามารถผลักออกได้เช่นกัน
“เปิดไม่ออกเหรอ?” คาร์นอตวิลเลียมถามด้วยความสงสัย
หลินหยุนมองดูประตูห้อง แล้วพูดว่า “มีการวางสกัดกั้นไว้”
คาร์นอตวิลเลียมด่าทอว่า “ฉันก็ว่าแล้วเชียว แกรนด์ดยุกแดร็กคิวล่าตาแก่นั่นไม่ใช่พวกกระจอกงอกง่อยเลย!”
“พังประตูได้ไหม?” คาร์นอตวิลเลียมถาม
หลินหยุนพูดว่า “ฉันจะลองดู”
พูดจบ หลินหยุนก็หลับตาลงทั้งสองข้าง เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ตาข้างหนึ่งเปลี่ยนเป็นสีดำอีกข้างสีขาว
แสดงพลังดวงตาทำลายล้างออกมา
ตั้งแต่ที่ออกมาจากทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดแล้ว ขอบเขตการมองเห็นของพลังดวงตาทำลายล้างของหลินหยุนนั้น ก็ขยายวงกว้างไกลมากยิ่งขึ้น
เพียงแต่ว่า อภินิหารของเขาเช่นนี้ยังคงไม่มีพลังที่พิเศษอะไรเช่นเดิม
ก็เหมือนกับอภินิหารที่ระดับต่ำสุด นอกจากสามารถมองเห็นสิ่งของที่สายตาคนธรรมดาทั่วไปมองไม่เห็นแล้ว อย่างอื่นก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
ถ้าหากเป็นอภินิหารอย่างอื่นละก็ ตอนนี้ก็ควรจะสามารถวาดลวดลายที่ร้ายกาจอย่างอื่นออกมาได้อีกมากมายแล้ว
แต่ว่า พลังดวงตาทำลายล้างดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
เพียงแต่หลินหยุนสามารถมองเห็นขอบเขตที่กว้างกว่าเดิมเท่านั้นเอง
กว้างกว่าเมื่อก่อนประมาณเท่าตัวเลยทีเดียว
เมื่อก่อนสามารถมองเห็นภายในขอบเขตสิบเมตรเท่านั้น ตอนนี้มองเห็นขอบเขตประมาณยี่สิบเมตรได้แล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพลังดวงตาการทำลายล้างนั้น กลับคืนสู่พื้นฐานตามธรรมชาติไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงแต่เส้นไหมบริสุทธิ์สีดำเส้นหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่ว่า หลินหยุนกำลังมองเห็นของบางอย่างที่ไม่เหมือนกันอยู่ตรงหน้าบานประตูไม้นั้น
ในเส้นไหมสีดำนั้น มีเส้นด้ายแดงเล็กๆแทรกอยู่ด้วย ดูราวกับเป็นใยแมงมุมที่ปกคลุมรอบๆบริเวณประตูบานนั้นไว้
ตรงใจกลางของใยแมงมุมนั้น มีช่องว่างอยู่ช่องหนึ่ง
หลินหยุนยื่นนิ้วมือออกมา แล้วจิ้มลงไปตรงช่องว่างนั้น
ฟูบ!
เหมือนกับเสียงของลูกบอลแตก
หลังจากนั้น การสกัดกั้นของประตูก็สลายไป
ความจริงแล้วหลินหยุนก็สามารถใช้พลังแรงทำลายการสกัดกั้นนั้นได้ แต่ว่าถ้าทำเช่นนั้นก็จะทำให้ประตูเสียหายได้ มิหนำซ้ำอาจเกิดอันตรายกับปราสาทโบราณที่มีอายุยาวนานมาไม่รู้กี่ปีหลังนี้ต้องพังทลายลงมาด้วย
มีแต่ต้องทำเช่นนี้ จึงจะเป็นวิธีที่แก้ไขได้อย่างนุ่มนวลและง่ายดายที่สุด
หลินหยุนยื่นมือไปผลักประตูห้องออก
“เปิดได้แล้ว!” คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความดีใจ
“เข้าไปดูซิว่า ในห้องหนังสือของตาแก่แดร็กคิวล่านี้ ใครจะไปรู้ว่าแอบซ่อนอะไรไว้บ้าง ปกติวันธรรมดาเขาไม่เคยให้ใครเข้าใกล้ห้องสมุดของเขาทั้งนั้น แม้แต่แม่บ้านที่มาทำความสะอาด เขายังไม่ยอมให้เข้าไปเลย”
หลินหยุนทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในห้องหนังสือ
ภายในห้องหนังสือเรียบง่ายมาก มีเพียงแค่ชั้นวางหนังสือตั้งอยู่หนึ่งอัน เก้าอี้ไม้ โบราณหนึ่งตัว นอกนั้นก็ไม่มีสิ่งของอะไรอีกเลย
ภายในห้องนั้นไม่มีอะไรที่ดูแปลกประหลาดอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...