จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1088

ข่าวสงครามของหลินหยุนกับโลกบู๊โบราณแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า

ในเวลานั้น เกือบทุกคนในโลกบู๊โบราณล้วนตายไปหมดแล้ว

เหลือเพียงหญิงชุดดำคนนั้น

เห็นได้ชัดว่า ข่าวนี้เป็นเธอที่จงใจปล่อยออกมา

หลินหยุนรู้ถึงความตั้งใจของเธอ

บังคับให้โลกบู๊โบราณต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับตน

หลังจากที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป ก็ได้สร้างความโกลาหลในหมู่ประชาชนจีนในทันที

ทุกคนในโลกบู๊และโลกบู๊โบราณต่างตกตะลึง

คนเพียงคนเดียวสังหารพลังกว่าครึ่งหนึ่งของโลกบู๊โบราณ!

หลินชางฉองช่างน่ากลัวยิ่งนัก!

โลกบู๊โบราณซึ่งถูกเก็บเป็นความลับโดยนักบู๊มากมายมาโดยตลอด จู่ๆ ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่ลึกลับอะไรมากขนาดนั้นแล้ว

จนถึงขั้นมีนักบู๊หลายคนที่เชื่อว่าโลกบู๊โบราณไม่เคยเจอโลกภายนอกมานานมากแล้ว ไม่แน่ก็อาจไม่มีน้ำยาอะไรตั้งนานแล้ว

และแม้กระทั่งถึงขั้นเริ่มดูถูกโลกบู๊โบราณ

เมื่อเผชิญกับความคิดเห็นเชิงลบของสาธารณชน ต่อให้โลกบู๊โบราณไม่คิดจะยื่นมือออกมา แต่เพื่อชื่อเสียงของตนก็ยังจำเป็นต้องต่อสู้กับหลินหยุน

แต่ หลินหยุนไหนเลยจะเกรงกลัว!

ปฏิกิริยาของโลกบู๊โบราณรวดเร็วอย่างยิ่ง ข่าวสารถูกส่งออกไปทันทีในบ่ายวันนั้น

ประมุขเขาคุนชางของสี่ค่ายใหญ่นัดหมายต่อสู้กับอันดับหนึ่งในแดนเทพหลินชางฉอง!

เวลานัดหมายคืออีกหนึ่งวันต่อมาและสถานที่คือเขาคุนชาง

ทันใดนั้น ทั้งโลกบู๊โบราณและโลกบู๊ก็เดือดพล่าน

ประมุขเขาคุนชางคือผู้ที่ทรงพลังและลึกลับที่สุดคนหนึ่งในโลกบู๊โบราณ

ว่ากันว่าไม่มีใครเคยเห็นประมุขเขาคุนชางลงมือ มีเพียงเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว ที่เคยได้ยินมาว่าลูกศิษย์คนหนึ่งของเขาเข้าสู่แดนเทพในชั่วข้ามคืนและฆ่าหัวขโมยฉาวโฉ่ในโลกบู๊โบราณ

ถ้ามันเป็นแค่หัวขโมยคนหนึ่ง ฆ่าแล้วก็ฆ่าไป แต่ว่าหัวขโมยผู้นั้นกลับแข็งแกร่งอย่างมากมากและเป็นผู้ที่ทั้งสี่ค่ายใหญ่ไม่เคยจับตัวได้มาเป็นเวลากว่า 30 ปี

อย่างไรก็ตาม ได้ยินมาว่าลูกศิษย์คนนั้นภายหลังธาตุไฟเข้าแทรกสู่มาร ช่างน่าเสียดายอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางชื่อเสียงของประมุขเขาคุนชาง การที่เขาสามารถสั่งสอนศิษย์ได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น แล้วพลังของอาจารย์จะต้องมีมากขนาดไหนนี่พอจะนึกภาพได้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประมุขเขาคุนชางนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมากจนไม่ด้อยไปกว่าหลินหยุน อีกทั้งสถานที่สู้รบยังอยู่ที่เขาคุนชาง นั่นคือบ้านของประมุขเขาคุนชาง ซึ่งสำหรับหลินหยุนแล้วถือว่าไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง

นักบู๊จำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็พูดคุยกันหลังมื้ออาหารว่าหลินหยุนจะตกปากรับคำหรือไม่

นั่นเพราะการนัดหมายไปที่รังของอีกฝ่ายแบบนี้ หากถูกซุ่มโจมตีขึ้นมาจะทำอย่างไร?

ต่อให้เป็นคนมีสมองน้อยนิดก็ยังไม่สามารถรับคำได้

แต่หลังจากได้รับข่าว หลินหยุนกลับยิ้มจาง ๆ และตอบลูกศิษย์ของประมุขเขาคุนชางที่มาส่งคำท้าว่า "พรุ่งนี้ตรงเวลา"

พอข่าวนี้แพร่ออกไป ทุกคนก็พากันป่วนอีกครั้ง

“หลินชางฉองผู้นี้เป็นคนโง่หรือเปล่า! การต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้ยังรับคำเข้าไปได้!”

“เขาไม่ได้โง่ แต่เป็นเพราะเขากำลังผยองตน เขารู้สึกว่าตัวเองซุ่มโจมตีโลกบู๊โบราณให้แหลกไปได้แล้วครั้งหนึ่ง ไหนเลยจะมีโลกบู๊โบราณอยู่ในสายตาอีก”

"พูดแบบนี้ ครั้งนี้หลินชางฉองเข้าสู่อันตรายแล้ว"

“ยังต้องคิดอีกหรือไงกัน? ไปหาถึงรังของผู้อื่นเพื่อนัดต่อสู้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะก็กลับมาไม่ได้ทั้งนั้น”

ทุกคนเห็นด้วยกับมุมมองนี้ ไปที่รังของคนอื่นเพื่อทำการท้ารบ ถ้าแพ้ก็ย่อมตายที่นั่น หากชนะอีกฝ่ายก็ย่อมพุ่งเข้ามาโจมตี ไม่ยอมให้ได้มีชีวิตกลับไปอีก

อย่างไรก็ตามการรับคำท้ารบจากประมุขเขาคุนชางของหลินหยุน สำหรับผู้อื่นแล้ว บอกว่านี่คือการตัดสินใจที่เย่อหยิ่งและไร้สมอง

ต่อให้ต้องการต่อสู้ อย่างน้อยก็สามารถขอให้ประมุขเขาคุนชางย้ายสถานที่ได้

หลินหยุนมองไปที่คุณปู่ด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าจิตเต๋าของคุณปู่ได้มาถึงขอบเขต “อู๋เว่ย" แล้ว

นี่คือขอบเขตจิตเต๋าของผู้บำเพ็ญเซียนและถือว่าอยู่ในขอบเขตค่อนข้างสูงแล้ว

“ดูเหมือนว่าคุณปู่จะเหมาะกับเส้นทางสายนี้จริงๆ”

หลินหยุนโล่งใจเล็กน้อย เขาดีใจที่ได้นำหลินซื่อเฉิงสู่เส้นทางบำเพ็ญเซียน

ขณะนี้ ในห้องโถงเขาคุนชาง

ประมุขเขาคุนชางในชุดดำกำลังมองดูผู้หญิงที่ใส่ชุดดำเช่นเดียวกับตนและถามอย่างเย็นชาว่า "ทำไมคุณถึงได้มือไม้โหดเหี้ยมเช่นนี้? เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ตายเพราะระฆังดับวิญญาณของคุณ แต่คุณกลับโยนความผิดไปให้หลินชางฉอง แถมยังจงใจปล่อยข่ายออกไปเพื่อบังคับให้พวกเราต่อสู้กับหลินชางฉอง!”

หญิงชุดดำยิ้มและเอ่ย "ฉันไม่เห็นด้วยกับท่านประมุข ต่อให้ฉันไม่ได้ช่วยใส่ไฟ แล้วสงครามระหว่างโลกบู๊โบราณกับหลินชางฉองจะไม่เกิดขึ้นแล้วหรือไง?"

“ฉันก็แค่เลื่อนเวลามันขึ้นมาเท่านั้นเอง”

“ยิ่งไปกว่านั้นฉันก็ได้ให้ประโยชน์มากมายแก่พวกคุณ นี่มากเกินพอที่จะจัดการกับหลินชางฉอง ใครจะไปรู้ว่าพวกคุณมันช่างไร้ประโยชน์ แบบนี้จะมาโทษฉันไม่ได้”

ผู้อาวุโสของเขาคุนชางที่ยืนอยู่ทั้งสองข้างตะโกนอย่างโกรธเคือง "นางปีศาจ เป็นเธอที่หลอกพวกเราว่าความแข็งแกร่งของหลินชางฉองอย่างมากที่สุดก็แค่แดนเทพขั้นสูงสุด”

“แต่แม้กระทั่งค่ายกลปากว้าหุนหยวนก็ไม่สามารถจัดการกับเขาได้ นี่จะเป็นแดนเทพขั้นสูงสุดได้หรือไงกัน? เกรงว่าพลังของเขาได้ไปถึงขั้นเพียงพอที่จะเข้าสู่ขอบเขตประตูเซียนแล้ว!”

หญิงชุดดำค่อยๆเอ่ยช้าๆ “แดนเทพปรากฏ บู๊โบราณเผยตัว ยาทองเสร็จสิ้น ประตูเซียนเปิดออก"

“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าสิ่งที่เรียกว่าประตูเซียนนั้นคืออะไร?”

ผู้อาวุโสคนนั้นแค่นเสียงอย่างเย็นชาและจ้องไปที่ผู้หญิงชุดดำอย่างโกรธเคืองและไม่พูดอะไรอีก

หญิงชุดดำไม่ได้โกรธและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจเถอะ ความแข็งแกร่งของเขาไม่มีทางไปถึงแดนยาทองฉันรับรอง”

“ขอแค่ครั้งนี้พวกเราเตรียมการให้ดี ฉันรับรองว่าเขาจะไปไม่มีวันกลับแน่!”

ประมุขเขาคุนชางพยักหน้า “เอาเถอะฉันจะเชื่อใจคุณสักครั้ง”

หากหลินหยุนอยู่ตรงนี้ เขาจะต้องแปลกใจอย่างมากแน่ ประมุขเขาคุนชางผู้นี้มีใบหน้าเหมือนหวางจิงหลงทุกประการ