จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1087

ในหุบเขา มีลมพัดบ้าคลั่งและแฝงมาด้วยกลิ่นของเลือด

หลินหยุนเป็นราวกับเทพมาร ผมสีขาวถึงเอว สายตาหยามเหยียดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและกลืนกินหมื่นลี้ดุจดั่งพยัคฆ์

ในอ้อมอก คือหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงอย่างนิ่งโหย่วหรง

อู๋ยิวหมิงสีหน้าตื่นตะลึง เขามองไปที่เทพเจ้าสงครามในอากาศและเนื้อตัวสั่นด้วยความกลัว

“หลินชางฉองยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?”

กลุ่มนักบู๊ด้านล่าง คร่ำครวญไม่หยุด

ดาบของหลินหยุนนั้นทรงพลังเกินไป

แค่ชี่กระบี่ที่ฆ่าล้างทุกอย่างจนหมด ทำให้ทุกคนหวาดกลัวจนหัวหด

นิ่งโหย่วหรงมองไปที่ชายหนุ่มผู้รูปงามราวกับปีศาจ เธอรู้ดีอย่างยิ่งว่าตนถูกครอบครองแล้ว

ตลอดชีวิตของเธอ ในสายตาเธอจะไม่มีผู้ชายคนอื่นอยู่ได้อีก

บนยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป ดวงตาที่โผล่พ้นออกมาให้เห็นนั้นกำลังฉายแววตกตะลึงเช่นกัน

“ช่างเป็นดาบที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!”

“ดาบนี้ เกรงว่าจะแข็งแกร่งกว่าผู้แข็งแกร่งแดนยาทอง!”

พูดจบ ร่างของเธอจึงหายไปบนยอดเขา

อู๋ยิวหมิงพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับอาการบาดเจ็บ เขาเหลือบมองไปรอบๆ และถามเสียงดัง “พวกนายยังต่อสู้อีกครั้งได้หรือไม่?”

ไม่มีการตอบสนองจากผู้คน

เป็นแบบนี้แล้ว จะยังสู้อะไรได้อีก!

และต่อให้พวกเขาสู้ได้ ก็คงไม่กล้าสู้แล้ว

หลินชางฉองน่ากลัวเกินไป ดาบเมื่อครู่นี้ไม่เพียงทำลายแค่ค่ายกล แต่ยังรวมไปถึงความกล้าหาญของพวกเขาด้วย

อู๋ยิวหมิงสีหน้าหดหู่ สถานการณ์ตรงหน้าไม่อาจแก้ไขได้แล้ว แพ้แล้ว แพ้อย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้น ร่างสีดำก็พุ่งเข้ามาจากระยะไกลแล้วขว้างบางสิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

แต๊ง!

เสียงระฆังดังลั่นขึ้น

ระหว่างท้องฟ้าและผืนดินคล้ายกับไม่มีเสียงอื่นใดอีก มีเพียงเสียงของระฆังสะเทือนวิญญาณนี้เท่านั้น

ระฆังสัมฤทธิ์โบราณซึ่งมีขนาดเท่าฝ่ามือหลังจากออกมาจากฝ่ามือของหญิงสาว มันก็กลายเป็นระฆังขนาดใหญ่ราวกับภูเขาลูกย่อมๆและตกลงมาทางหลินหยุน

หญิงชุดดำประสานมือของเธอเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ใช้พลังทิพย์ตีระฆังนั้นทีละสายๆ

แต๊งแต๊งแต๊ง!

ระฆังดังขึ้นทีละครั้งๆท่ามกลางท้องฟ้าและแผ่นดิน ภายใต้แผ่นดินอันสั่นไหว นักบู๊ที่แต่เดิมได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้วตอนนี้มีเลือดออกในทวารทั้งเจ็ด และหลายคนเสียชีวิตอย่างน่าสังเวชในที่เกิดเหตุ

แม้กระทั่งผู้อาวุโสแดนเทพพวกนั้น ในเวลานี้ก็มีสีหน้าทรมาน สองมือยกขึ้นปิดหูและต้านทานพลังของระฆังนั้นด้วยกำลังทั้งหมดที่มีในร่าง

หลินหยุนที่มีผมสีขาวปลิวไสวตามสายลม เงยมองดูระฆังขนาดใหญ่ที่ตกลงมาทางตน สีหน้าจริงจัง

นิ่งโหย่วหรงถูกเสียงของระฆังทำให้สลบไปแล้ว และมีพลังทิพย์ของหลินหยุนปกป้องเอาไว้ ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่ร่างกายธรรมดาของเธอคงตายไปตั้งนานแล้ว

ระฆังยักษ์ร่วงลงอย่างรวดเร็วจนหลินหยุนไม่มีเวลาหลบหนีและถูกมันครอบเอาไว้ข้างใน

หญิงชุดดำยังคงใส่พลังทิพย์เข้าไปในระฆังอย่างต่อเนื่อง เสียงระฆังยังคงดังกังวานต่อไปในท้องฟ้าไม่หยุด จนเหลือเพียงเสียงระฆังที่ดังขึ้นทั่วทั้งหุบเขา

นอกจากนักบู๊พวกนี้แล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรล้วนถูกเสียงระฆังทำให้ตกใจจนตาย

มันเป็นราวกับเสียงแห่งความตายของชีวิต ทุกคนที่ได้ยินล้วนต้องตาย

หญิงชุดดำตีมันสิบแปดครั้งติดต่อกัน ระฆังที่ดังขึ้นสิบแปดครั้ง ยกเว้นผู้แข็งแกร่งในแดนเทพที่เหลือแทบจะตายไปหมดแล้ว

มีเพียงนักบู๊ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นจึงรอดชีวิตมาได้

หญิงชุดดำมองดูระฆังยักษ์อย่างเฉยเมยและเอ่ยเย้ยหยัน "หลินชางฉอง คราวนี้นายยากจะหนีรอดแล้ว!"

“ภายใต้ระฆังดับวิญญาณแม้ว่านายจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียนก็ทำได้แค่รอความตายเท่านั้น!”

แม้ว่าอู๋ยิวหมิงจะปิดการได้ยินของเขา แต่ว่า เสียงระฆังก็ราวกับดังมาจากจิตใจของผู้คนโดยตรง เขาทำได้เพียงแค่ใช้กำลังต้านทานการบาดเจ็บที่เกิดจากระฆังเท่านั้น

“รีบหยุดเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว!” อู๋ยิวหมิงเอ่ยดังลั่น

หญิงชุดดำเมินเฉย ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ เธอจะหยุดมือได้อย่างไร

อีกทั้งชีวิตของคนพวกนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด เธอไม่สนใจทั้งนั้น

เธอยังคงใส่พลังทิพย์เข้าไปในระฆังยักษ์ต่อ และเสียงระฆังก็ยังคงดังก้องไปทั้งฟ้าดิน

“หึ เมื่อระฆังดับวิญญาณดังขึ้นสิบแปดครั้ง เซียนหรือมารล้วนต้องสลายไป”

“ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นนักบู๊หรือผู้บำเพ็ญเซียน รอให้ทำลายพลังของนายแล้ว ฉันจะให้นายได้ลิ้มรสชาติการถูกดูถูกเหยียดหยาม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์