บูม!
ทุกครั้งที่หลินหยุนโจมตีออกไป ก็ทำให้นักบู๊ที่กำลังโจมตีเข้ามาพวกนั้นต้องกระเด็นออกไปเป็นจำนวนมาก
แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ได้ใช้ดาบเฮ่าเทียน ในการโจมตี แต่แรงต้านที่กระแทกออกไปเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ปรมาจารยนักบู๊หลายคนต้องบาดเจ็บไปไม่เบา
การโจมตีของนักบู๊ระดับปรมาจารย์พวกนั้น สำหรับหลินหยุนแล้วเกรงว่าแค่ทำให้เขารู้สึกคันๆเท่านั้นเอง
มีเพียงการโจมตีของนักบู๊ในระดับแดนเทพเท่านั้นที่ทำให้หลินหยุนตั้งรับขึ้นมาอย่างจริงจัง
นักบู๊เกือบร้อยคนโจมตีหลินหยุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่หลินหยุนยังคงยืนอยู่กับที่และไม่เคยขยับแม้แค่คืบตั้งแต่ต้นจนจบ
นิ่งโหย่วหรงได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาจากเขา มั่นคงราวกับภูเขาไท่ซาน
อู๋ยิวหมิงตื่นตกใจ พลังแบบนี้หากมองหาในโลกบู๊โบราณ เกรงว่าก็มีเพียงแต่คนเดียวเท่านั้นที่มีพลังนี้
คนผู้นั้นก็คือประมุขผู้ลึกลับของและทรงพลังที่สุดของเขาคุนชางของเขา
แม้แต่ประมุขของอีกสามค่ายใหญ่ที่เหลือก็ไม่สามารถทำได้ดั่งหลินหยุน
หลังจากการโจมตีผ่านไประลอกหนึ่ง หลินหยุนไม่ได้รับอันตรายอะไรแม้แต่น้อย อีกทั้งกลับเป็นนักบู่หลายสิยคนที่ได้รับบาดเจ็บและหลายคนก็สูญเสียประสิทธิภาพการต่อสู้โดยตรง
“ผู้อาวุโสอู๋พวกเราที่โจมตีราวกับทุบเข้าผืนทรายแบบนี้ ไม่มีทางทำอะไรเจ้าหนุ่มนั่นได้เลย ค่ายกลปากว้าหุนหยวนของเขาคุนชางของพวกคุณ เมื่อไหร่จะสำเร็จ?” เหล่าผู้อาวุโสของอีกสามค่ายใหญ่มองมาที่อู๋ยิวหมิงพร้อมกัน
ใบหน้าของอู๋ยิวหมิงเคร่งเครียด ค่ายกลปากว้าหุนหยวน เป็นไพ่ใบสุดท้ายของเขา หากแม้กระทั่งค่ายกลปากว้าหุนหยวนก็ไม่สามารถฆ่า หลินหยุนได้ อย่างนั้นการกระทำในครั้งนี้ก็จะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
อีกทั้งยังถือว่าเขาได้เผยไพ่ลับอย่างค่ายกลปากว้าหุนหยวนออกไป
“ในสถานการณ์นี้ เราได้แต่ต้องใช้ค่ายกลปากว้าหุนหยวนแล้ว หากเรายังเปิดการโจมตีหลายระลอก ผู้คนจะได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ทำให้เราเสียกำลังไปเปล่าๆ”
อู๋ยิวหมิงตัดสินใจแล้วตะโกนทันทีว่า “คนของเขาคุนชางจงกลับมาให้หมด เตรียมพร้อมรับคำสั่งในการวางค่ายกล!”
ในชั่วขณะหนึ่ง ผู้อาวุโสหลายคนและลูกศิษย์มากกว่าสิบต่างพากันถอยกลับไปหาอู๋ยิวหมิง
“วางค่ายกล!”
ค่ายกลปากว้าหุนหยวนนั้นลูกศิษย์ของเขาคุนชางล้วนคุ้นเคยกับมันดีอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าคนของสามค่ายใหญ่ที่เหลือจะไม่เข้าใจ แต่ภายใต้คำสั่งของพวกเขา ทั้งหมดก็ยืนหยัดกันอย่างรวดเร็ว
กล่าวกันว่าหุนหยวนนั้นเกิดมาจากธรรมชาติและต่อมาเกิดเป็นธาตุทั้งแปด
หุนหยวนถูกล้อมด้วยปากว้า ซึ่งทำให้ค่ายกลยิ่งทรงพลังมากขึ้น
ผู้คนถูกแบ่งออกไปยืนตามตำแหน่งของปากว้า แต่ละทิศทางนำโดยลูกศิษย์ของเขาคุนชาง ขณะที่อู๋ยิวหมิงนำผู้คนที่เหลือยืนอยู่ตรงกลางค่ายกลเพื่อสั่งการ
และทิศทางของประตูตายในค่ายกลก็อยู่ที่หลินหยุนพอดี
"จู่โจม!"
อู๋ยิวหมิงชี้ไปที่หลินหยุนและคำรามลั่น
ทันใดนั้น ผู้คนทั้งแปดทิศก็เคลื่อนตัวพร้อมกัน
ค่ายกลอาศัยพลังของกฎเกณฑ์ต้าเต๋า หน่วงนำพลังของทุกคนมารวมเข้าด้วยกัน ถึงแม้พลังของพวกเขาจะเล็กน้อยอย่างยิ่งต่อหน้าหลินหยุน แต่เมื่อพลังของคนจำนวนมากรวมตัวกันมันก็ค่อนข้างมหาศาลเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่โจมตีพร้อมกัน มีเพียงประตูตายเท่านั้นที่โจมตีหลินหยุน
คนอื่นทำเพียงแค่ส่งพลังของพวกเขาผ่านค่ายกลไปให้กับนักบู๊ในตำแหน่งประตูตาย
มีคนสิบสองคนที่ควบคุมประตูตายอยู่ ในนั้นมีผู้อาวุโสระดับแดนเทพสี่คน และอีกแปดคนเป็นปรมาจารย์นักบู๊ขั้นสูงสุด
หนึ่งในสี่ผู้อาวุโสมีความแข็งแกร่งเป็นแดนเทพระดับสูง
พลังเหล่านี้ สำหรับพลังวิชาในปัจจุบันของหลินหยุนแล้วแทบจะไม่มีอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ผ่านการสนับสนุนของค่ายกลปากว้าหุนหยวน พลังที่พวกเขาเรียกใช้นั้นไม่ใช่พลังของพวกเขาอีกต่อไป แต่เป็นพลังที่ส่งมาจากผู้คนมากมายรวมกัน
คนทั้งสิบสองคนจากประตูตาย เข้าโจมตีหลินหยุน
แต่ละคนล้วนทุ่มสุดตัวในการโจมตี
การโจมตีเหล่านั้นที่มีพลังส่งเพิ่มขึ้น จนมีพลังอำนาจถึงขั้นน่าหวาดกลัว
พลังของการโจมตีร่วมกันของคนทั้งสิบสองคนนี้ มีพลังเสียยิ่งกว่าผู้แข็งแกร่งในแดนเทพขั้นสูงสุดไปแล้ว
เกรงว่าแทบจะอยู่ไม่ไกลจากการโจมตีของผู้แข็งแกร่งในแดนยาทองแล้ว
ใบหน้าของหลินหยุนเริ่มจริงจังขึ้น การโจมตีในขณะนี้สามารถทำร้ายเขาได้
“ท่าสยบเขา!”
หมัดที่แฝงด้วยพลังทิพย์สิบส่วนพุ่งเข้าโจมตีไปยังประตูตาย
บูม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...