จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1090

สรุปบท บทที่ 1090 ฉันคือหลินชางฉอง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 1090 ฉันคือหลินชางฉอง จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 1090 ฉันคือหลินชางฉอง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เขาคุนชางปฏิบัติต่อนักบู๊ที่มาชมการต่อสู้แตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด

พวกหลินหยุนไปตามคำแนะนำของลูกศิษย์เขาคุนชาง และมาหยุดอยู่ที่ที่ห้องโถงรับรองที่ตั้งอยู่ในเขาคุนชาง

ในโถงต้อนรับมีผู้อาวุโสของเขาคุนชางกำลังรับหน้าที่ต้อนรับ

เมื่อเห็นว่าหลินหยุนยังเด็กขนาดนี้ เขาก็รีบเข้ามาทันที

“นายก็เป็นปรมาจารย์งั้นหรือ?” ชายชราที่สวมถังจวงสีดำ ใบหน้าแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่ง มองไปที่หลินหยุนอย่างสงสัยและเอ่ยถาม

"ใช่" หลินหยุนตอบเรียบ

ผู้อาวุโสคนนั้นเอ่ยอย่างประหลาดใจ “ปรมาจารย์ที่อายุยังน้อยเช่นนี้ ถือเป็นผู้มีพรสวรรค์อย่างยิ่งในโลกบู๊!”

“เจ้าหนุ่ม นายสนใจที่จะเข้าร่วมกับเขาคุนชางของฉันหรือไม่?”

“พวกเรามีวิชาและวิชายุทธ์ที่ทรงพลังมากกว่าโลกบู๊ของนาย อีกทั้งยังมีทรัพยากรในการบำเพ็ญมากกว่านายหลายพันเท่า”

“ถ้านายมาเข้าร่วมกับเรา ฉันรับรองว่านายจะเข้าสู่แดนเทพได้ภายในสิบปี!”

หลินหยุนตระหนักได้ทันทีว่าที่แท้เขาคุนชางกำลังคิดจะรับสมัครคน

ดูเหมือนว่า การต่อสู้ครั้งล่าสุดที่ปากหุบเขาเก้าหัว ได้ทำให้โลกบู๊โบราณบาดเจ็บเสียแล้ว

"ฉันไม่สนใจ" หลินหยุนปฏิเสธ

ผู้เฒ่าคนนั้นก็ไม่โกรธเช่นกัน เขายิ้มฮี่ฮี่และพูดว่า "เดี๋ยวนายก็จะสนใจ"

ในห้องโถงมีผู้คนมากกว่าสิบ แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ทำให้หลินหยุนดูโดดเด่นจากฝูงชนที่นี่อยู่บ้าง

ผู้เฒ่าเดินไปหาคนอื่นๆ และพูดเสียงดัง "ทุกคน พวกคุณลองดูลวดลายและถ้อยคำที่ล้อมรอบกำแพงเหล่าน้สิ"

“นี่เป็นบำเพ็ญวิชาที่เห็นได้ทั่วๆไปอยู่บ้างของโลกบู๊โบราณของเรา ยังมีวิชายุทธ์ระดับล่าง หากพวกคุนสนใจ สามารถเรียนรู้ได้ เขาคุนชางของเรามอบให้ฟรี”

นักบู๊เหล่านี้ล้วนประหลาดใจทันทีและพูดว่า “ยังมีเรื่องดีๆขนาดนี้ด้วยหรือ!”

“โลกบู๊โบราณช่างใจกว้างขนาดนี้เลยหรือ?”

“ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า พวกนี้เป็นแค่วิชาและวิชายุทธ์ที่เห็นได้ทั่วไปในโลกบู๊โบราณ ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปเลย!”

“ใช่ วิชาและวิชายุทธ์ของโลกบู๊โบราณมีมากกว่าโลกบู๊ของเราอยากยิ่ง คนในโลกบู๊อย่างเราๆแค่มีบำเพ็ญวิชาสักเล้มก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แทบจะไม่มีตัวเลือกให้เลย”

“พวกนายรีบดูเร็ว ถึงแม้ว่าพวกนี้จะเป็นแค่วิชาทั่วไปของโลกบู๊โบราณ แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าบำเพ็ญชางหยวนของฉันถึงสิบเท่า!”

“วิชายุทธ์นี้ก็แข็งแกร่งกว่าวิชายุทธ์ของสำนักที่ฉันร่ำเรียนมากว่า 20 ปีหลายสิบเท่า!”

“ทรัพยากรการบำเพ็ญของโลกบู๊โบราณนั้นช่างอู้ฟู่เกินไปจริงๆ!”

“ไม่น่าแปลกใจที่เราถูกเรียกว่าเป็นโลกบู๊จอมปลอม เมื่อเทียบกับพวกเขา พวกเรานั้นยากจนเกินไปจริงๆ!”

ผู้อาวุโสแห่งเขาคุนชางเมื่อได้คนเหล่านี้ถกเถียงกันก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "หึ พวกกบก้นบ่อ!"

จากนั้นเขาก็พูดว่า "ทุกท่าน พวกคุณเห็นสิ่งเหล่านี้แล้ว พวกเราเขาคุนชางล้วนมีของที่ไม่เผยแพร่อยู่ด้วย หากพวกตุณต้องการเรียนรู้วิชาและวิชายุทธ์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขอแค่เข้าร่วมกับเขาคุนชางและกลายเป็นศิษย์ภายนอกของเขาคุนชาง ก็จะได้รับทรัพยากรการบำเพ็ญไป”

ชายชราคนหนึ่งมีสีหน้าตื่นตกใจและพูดว่า “นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

“พวกเราสามารถเข้าร่วมกับเขาคุนชางได้งั้นหรือ?”

แม้ว่าผู้อาวุโสจะมีสายตาดูถูกเหยียดหยาม และมองไม่เห็นนักบู๊พวกนี้อยู่ในสายตา แต่ใบหน้ากลับเอ่ยพูดอย่างเรียบๆว่า “ไม่ผิด ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีในการรับสมัครลูกศิษย์ภายนอกรอบทศวรรษ อีกทั้งยังอนุญาตให้แค่ผู้ที่สูงกว่าระดับปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ พวกคุณควรคว้าโอกาสเอาไว้"

จากนั้นผู้อาวุโสก็มองไปยังทิศทางของหลินหยุน

หลินซื่อเฉิง เยาะเย้ย "คนเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อขยายอำนาจของพวกเขาจริงๆ!"

“การเคลื่อนไหวนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ”

หลินหยุนขี้เกียจจะสนใจเรื่องพวกนี้ หากเขาคุนชางต้องการหาคนมาแทนที่คนตายเพื่อจัดการกับเขาชั่วคราว นั่นเป็นไปไม่ได้

แม้ว่านักบู๊ระดับปรมาจารย์ในโลกบู๊จะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สูงแล้ว แต่สำหรับหลินหยุนในตอนนี้ ปรมาจารย์นักบู๊ไม่มีพลังอำนาจพอที่จะคุกคามเขาได้

หากคิดต้องการเอาชนะด้วยปริมาณ อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักบู๊แดนเทพ

“นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย!”

“พระเจ้า ต่อหน้าเขาฉันถึงกลับไม่มีแม้กระทั่งความคิดที่จะต่อต้าน!”

“ฉันมีความรู้สึกราวกับแรงกระตุ้นให้คุกเข่าบูชาขึ้นมา ความแข็งแกร่งของเขาเหนือกว่าผู้อาวุโสเขาคุนชางเสียอีก!”

“นั่นอยู่เหนือแดนเทพแล้วไม่ใช่หรือ?”

ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งจากโลกบู๊พวกนั้น รู้ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการแบ่งแยกระดับของแดนเทพ ผู้อาวุโสของเขาคุนชางก็เป็นเพียงแดนเทพระดับต่ำเท่านั้น และความแข็งแกร่งของ หลินซื่อเฉิง นั้นสูงกว่าเขาอย่างมากอย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสเขาคุนชางกลับรู้ดีอย่างยิ่งว่า ชายชราที่ตนไม่เห็นอยู่ในสายตาผู้นี้ เป็นถึงแดนเทพระดับสูงที่มีอยู่น้อยที่สุดคนหนึ่ง!

“หรือว่าคุณเป็นอาจารย์ของเขา?” ผู้อาวุโสเขาคุนชางถามด้วยความตกใจ เขาชักชวนลูกศิษย์ของคนอื่นต่อหน้าอาจารย์แบบนั้น ไม่น่าแปลกใจที่ลูกศิษย์ของคนอื่นจะไม่ตอบรับ

ในใจของผู้อาวุโสเขาคุนชางเกือบจะยืนยันคำตอบนี้ของตน

อย่างไรก็ตาม หลินซื่อเฉิง กลับหัวเราะเยาะและพูดว่า "นายพูดกลับกันแล้ว เขาเป็นอาจารย์ของฉันต่างหาก"

ผู้อาวุโสเขาคุนชางตะลึงงันไป จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น "ผู้อาวุโสล้อเล่นแล้ว เขาไหนเลยจะมีคุณสมบัติเป็นอาจารย์ของคุณ"

นักบู๊ไม่ได้ตัดสินอันดับด้วยอายุ แต่วัดจากความแข็งแกร่งเท่านั้น

วิชาของ หลินซื่อเฉิง ได้รับการถ่ายทอดจากหลินหยุน หลินหยุนก็คืออาจารย์ของเขา

หลินหยุนเองก็พยักหน้าเช่นกัน ถือเป็นการยอมรับ

ตอนนี้ ผู้อาวุโสเขาคุนชางได้กลายเป็นหินอย่างสมบูรณ์

อีกทั้งเหล่าปรมาจารย์ของโลกบู๊พวกนั้นก็มีสีหน้าเหลือเชื่อ

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสเขาคุนชางก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีและรีบเอ่ยออกมาว่า “คุณ หรือว่าคุณคือหลินชางฉอง?"

เขาได้ยินตำนานเกี่ยวกับหลินชางฉอง เล่าว่าหลินชางฉองมีอายุเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้น ชายหนุ่มตรงหน้าเขาเป็นถึงอาจารย์ของ แดนเทพระดับสูงคนหนึ่ง มองดูทั่วทั้งโลกบู๊ นอกจากหลินชางฉองแล้วก็เกรงว่าจะไม่มีใครอื่นอีก

หลินหยุนพยักหน้า "ฉันคือหลินชางฉอง"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์