เมื่อหวางโส่วหลี่พูดจบ พ่อบ้านหวางจื้อเฟิงก็พยักหน้าไม่หยุด และวิ่งออกไปจัดเตรียมงานด้วยความดีอกดีใจอย่างมาก
เวลานี้ หวางเจ๋อได้พูดขึ้นอีกครั้งว่า “เจ้าบ้าน งานเลี้ยงฉลองนั้นจะต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน และพวกเรายังจะต้องเลี้ยงฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย! แต่นอกจากนี้แล้ว พวกเราตระกูลหวางจะต้องเริ่มลงมือตอบโต้กลับบ้างแล้ว! ”
“ช่วงเวลานี้พวกเราตระกูลหวางได้รับความกดดันอย่างมหาศาล ตอนนี้ไอ้สารเลวหลินชางฉอง ได้ตายลงแล้ว ความโกรธแค้นที่พวกเราตระกูลหวางเก็บกดกันเอาไว้ สามารถที่จะปลดปล่อยออกไปได้บ้างแล้ว! ”
คำพูดของหวางเจ๋อทำให้คนทั้งห้องโถงเงียบสงบลงทันที ทุกคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน พร้อมกับเริ่มพากันวิพากษ์วิจารณ์
หวางโส่วหลี่พูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจว่า “หากเริ่มลงมือตอบโต้ในตอนนี้มันอาจจะเร็วเกินไปไหม?หวางเจ๋อ นายได้พิจารณาไตร่ตรองปัญหานี้โดยละเอียดแล้วหรือยัง? ช่วงที่ผ่านมาพวกเรา ตระกูลหวางได้รับความสูญเสียไปเป็นอย่างมากเลย”
หวางเจ๋อยิ้มอย่างยโสและพูดว่า “เจ้าบ้านวางใจได้เลย ตอนนี้คือช่วงโอกาสที่ดีที่สุด หลินชางฉองได้ตายไปแล้ว หวางซูเฟินกับฉินหลันถูกสหรัฐอเมริกาควบคุมตัว ซึ่งชางฉองกรุ๊ปกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ขาดผู้นำพอดี! ”
“ก่อนหน้านี้หลินชางฉองเคยได้ล่วงเกินวงศ์ตระกูลใหญ่จำนวนมาก วันนี้เมื่อเขาตายไป ชางฉองกรุ๊ปราวกับสูญสิ้นที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ พวกตระกูลใหญ่และตระกูลเล็กทั้งหลาย ที่เคยถูกล่วงเกินเหล่านั้น จะยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปได้อย่างไร? ”
“ดังนั้นตอนนี้คือช่วงโอกาสที่เหมาะสมที่สุด หากว่าพวกเราลงมือช้าไป เกรงว่าคงจะไม่เหลืออะไรให้กอบโกยแล้ว! ”
คำพูดของหวางเจ๋อ ทำให้สายตาของทุกคนเป็นประกายขึ้น
ทันใดนั้นก็มีคนแสดงความเห็นด้วย โดยลุกยืนขึ้นพูดกับหวางโส่วหลี่ว่า “เจ้าบ้าน ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของหวางเจ๋อ เขาพูดได้ถูกต้อง ชางฉองกรุ๊ปกำลังเผชิญหน้ากับการถูกแบ่งแยก อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นพวกเราตระกูลหวางไม่ควรที่จะทำเป็นเฉยเมย! ”
“ถูกต้อง! เป็นเช่นนี้จริง ๆ! ”
“พวกเราจะต้องนำทุกสิ่งทุกอย่างที่ชางฉองกรุ๊ปได้เคยทำไว้กับพวกเรานั้น ชดใช้คืนกลับไปเป็นร้อยเท่า! ”
ครู่เดียว คนส่วนใหญ่ต่างก็พากันแสดงความเห็นด้วย
หวางโส่วหลี่ครุ่นคิดแล้วก็พยักหน้าตอบรับ “ตกลง! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ไปพวกเราตระกูลหวาง หยุดการหดตัว แล้วเบนเป้าหมายไปตอบโต้ชางฉองกรุ๊ปอย่างเต็มกำลัง! ”
ในขณะเดียวกัน เนื่องจากหวางซูเฟินกับฉินหลันไม่อยู่ ชางฉองกรุ๊ปก็กำลังตกอยู่ในสภาพที่วุ่นวายเพราะขาดแคลนผู้นำ
นายท่านหลินได้ฉวยโอกาสตัดสินใจดำเนินการอย่างฉับพลัน โดยได้นำคนของตระกูลหลินมายังชางฉองกรุ๊ป กอปรกับการมีซูจื่อเหลียงและซูหนันอยู่ ก็ถือว่ารักษาสภาพการณ์ได้อย่างมั่นคงในระดับหนึ่ง
แต่เวลานี้ภายในชางฉองกรุ๊ป กลับกลายเป็นเงียบสงัด
ในห้องทำงานของประธานบริษัท มีทั้งนายท่านหลิน ซูจื่อเหลียงและซูหนัน แต่กี่คนนี้ต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่หม่นหมองอย่างมาก แทบจะดูไม่ได้เลย
เงียบสงบกันไปไม่รู้ว่านานเท่าไร ซูจื่อเหลียงก็ลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้ มือสองข้างกำหมัดแน่น กัดฟันสีหน้าจริงจังและพูดขึ้นว่า “ไม่ได้! ฉันไม่สามารถที่จะทนเห็นไอ้พวกผู้มีอิทธิพลของสหรัฐอเมริกากระหยิ่มยิ้มย่องอีกต่อไปได้แล้ว ฉันจะไปที่สหรัฐอเมริกา! ”
ขณะที่พูด ก็ได้ก้าวเท้าเดินออกไป
ซูหนันเองก็ยืนขึ้นพร้อมกับสีหน้าท่าทางที่ดุดัน “รอก่อน ฉันจะไปกับนายด้วย! ”
นายท่านหลินขมวดคิ้วอย่างหนัก แล้วก็ตวาดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ห้ามไปเด็ดขาด! ”
ซูจื่อเหลียงหันกลับมาด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่ มองไปยังนายท่านหลินและพูดขึ้นว่า “นายท่าน ท่านคือคุณปู่ของอาจารย์ ตามหลักแล้วพวกเราควรต้องฟังคำพูดของท่าน แต่ครั้งนี้ มันไม่ได้แล้วจริง ๆ! ”
“ตอนนี้อาจารย์เขา......ไม่รู่ว่าเขาจะเป็นหรือตาย ในฐานะที่ฉันเป็นลูกศิษย์ ไม่สามารถที่จะทำเป็นเฉยเมยได้อย่างเด็ดขาด! ไม่ว่าอย่างไร ก็จะต้องทำการแก้แค้นให้กับอาจารย์! ต่อให้แก้แค้น ไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยก็จะต้องช่วยเหลือนำตัวของประธานหวางและคุณฉินหลันกลับมาให้ได้! ”
ซูหนันลักษณะนิสัยเย็นชา ไม่ชอบพูดจา โดยได้พูดขึ้นสองคำว่า “ถูกต้อง! ”
นายท่านหลินสูดลมหายใจลึกและพูดขึ้นว่า “ฉันสามารถเข้าใจถึงสภาพจิตใจของพวกนาย ทั้งสองคนได้ดี แต่ต่อให้พวกนายไปในตอนนี้ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร! พลังทางเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งอย่างมาก พวกนายก็ได้เห็นกันแล้ว แม้แต่เสี่ยวหยุนเองก็ยัง......แล้วพวกนายจะสามารถทำอะไรได้? ”
ซูจื่อเหลียงโศกเศร้า เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าที่นายท่านหลินพูดนั้นคือเรื่องจริง แต่หากจะให้ทนดูอย่างนี้ต่อไป โดยที่ไม่ทำอะไรเลย มันช่างทรมานยิ่งกว่าฆ่าเขาให้ตายไปเสียอีก
หลินหยุนเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา ให้เขาเดินในเส้นทางการบำเพ็ญฝึกฝน โดยที่ไม่ใช่ การบำเพ็ญบู๊ แต่เป็นการบำเพ็ญต้าเต๋าขั้นสูงสุดที่สามารถทำให้มีอายุยืนยาวเป็นอมตะ ไม่มีหลินหยุน ก็ไม่มีเขาซูจื่อเหลียงในวันนี้
ซูหนันเองก็เช่นกัน ถึงขนาดที่ในใจของซูหนันนั้น หลินหยุนยังมีความสำคัญมากกว่าตนเองอีกเพราะว่าในตอนนั้นหลินหยุนได้เคยช่วยเหลือชีวิตของเขาเอาไว้
ไม่เพียงเท่านี้ ยังได้ถ่ายทอดวิชาการบำเพ็ญ ทำให้เขากลายเป็นซูหนันในวันนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...