อึ้งไปสักครู่หนึ่ง ประธานาธิบดีจึงเอ่ยปากพูดอีกครั้งว่า “ส่งคนไปจับตาดูต่อไป ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รีบมารายงานด่วนด้วย!”
“อีกอย่าง รีบติดต่อกับหลินหยุนต่อไป!”
“เมื่อไหร่ที่เขาสิ้นสุดการเก็บตัวแล้ว!”
“ก็รีบบอกเรื่องนี้ให้เขาฟังโดยด่วนเลย!”
ท่านหงก็รับคำสั่งแล้วจากไป
ส่วนตระกูลหวางในขณะนี้ ก็กำลังเปิดประชุมของตระกูลอย่างเร่งด่วนเช่นกัน
ผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของตระกูลหวางตอนนี้ แม้แต่บางคนที่ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ต่างก็รีบกลับมาเข้าร่วมประชุมด้วย
หวางโส่วหลี่พูดว่า “วันนี้เชิญทุกคนกลับมาร่วมประชุมของตระกูล เรื่องที่จะประชุมนั้น ทุกคนต่างก็รู้กันแล้ว!”
“สำนักฉีเทียนจู่ๆก็ได้แจ้งเกิดขึ้นมา!”
“หลังจากที่ได้สังหารเจียงร่อโจ๋เทพแห่งสงคราม แล้วก็ยังทำลายหน่วยรบเมคารุ่นที่สองที่น่าสะพรึงกลัวของอเมริกาอีกด้วย!”
“ไม่เพียงแต่เท่านี้ ก็ยังสังหารยอดฝีมือแดนเทพของโลกบู๊อีกจำนวนมากด้วย!”
“ดูจากท่าทีการแสดงออกที่ก้าวร้าวของเจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนแล้ว!”
“พลังฝึกฝนของทั้งสองคนนั้น เกรงว่าแม้แต่หลินหยุน ก็ยังไม่มีทางที่จะสู้รบชนะได้เลย!”
“ตอนนี้ ก็ยังมีตระกูลจำนวนไม่น้อยต่างก็เลือกไปสวามิภักดิ์ต่อสำนักฉีเทียนแล้ว!”
“นี่ก็เป็นโอกาสครั้งหนึ่งของตระกูลหวางเรา!”
“ขอเพียงให้ตระกูลหวางเราสามารถเกาะติดที่พึ่งพิงที่แข็งแกร่งอย่างสำนักฉีเทียนเช่นนี้ไว้ได้ละก็ เช่นนั้นแล้วไม่ว่าหลินหยุนจะเป็นยังไงก็ตาม ตระกูลหวางเราก็จะต้องสามารถฟื้นฟูความรุ่งเรืองขึ้นมาได้อีกครั้งอย่างแน่นอน!”
“ดังนั้นพวกเราก็ได้จัดประชุมเล็กๆขึ้นก่อนหน้านั้นแล้ว ได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์แล้วว่าจะเลือกไปสวามิภักดิ์ต่อสำนักฉีเทียนแล้ว!”
“ตอนนี้ ขอให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาบ้าง!”
พอสิ้นเสียงของหวางโส่วหลี่แล้ว ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งรีบเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เจ้าบ้านครับ ผมเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้!”
“เพียงแต่ว่าตอนนี้มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง!”
“สำนักฉีเทียนนั้นตอนนี้เหิมเกริมยโสโอหังมาก!”
“แล้วจะยอมรับการสวามิภักดิ์ของพวกเราตระกูลหวาง อย่างที่พวกเราหวังไว้เหรอ?”
หวางเจ๋อที่อยู่ข้างๆหวางโส่วหลี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาชายโส่วเย่ ประเด็นนี้สามารถวางใจได้เลย!”
“เจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนนั้น เป็นผู้บำเพ็ญเซียน งั้นก็ย่อมต้องการแหล่งเงินทุนจำนวนมากอย่างแน่นอน!”
“พวกเขาไม่สามารถที่จะออกไปหาด้วยตัวเองได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ลูกน้องไปทำงานด้านต่างๆจำนวนมากมาย!”
“ตระกูลหวางเรามีเงื่อนไขเพียบพร้อมทุกอย่างตามที่พวกเขาต้องการแล้ว!”
“ดังนั้น คาดว่าประเด็นนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาเลย!”
เมื่อได้ยินหวางเจ๋อพูดเช่นนั้นแล้ว ทุกคนต่างก็พยักหน้า
ชายชราคนหนึ่งเอ่ยปากพูดว่า “เรื่องนี้ สำหรับพวกเราตระกูลหวางแล้ว มีแต่ผลดีไม่มีผลเสียเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“แต่ฉันเป็นห่วงว่า ได้ข่าวว่าสำนักฉีเทียนได้รับลักพาตัวหวางซูเฟินและฉินหลันไปแล้ว!”
“เมื่อไหร่ที่หลินหยุนออกจากการเก็บตัวแล้ว ก็จะต้องมีเกิดการสู้รบกันขึ้นอย่างแน่นอน!”
“ถ้าหากตระกูลหวางเราเลือกข้างตอนนี้แล้ว ถึงเวลานั้นถ้าหากหลินหยุนรบชนะ.....”
หวางเจ๋อทำเสียงฮื่อใส่ พูดอย่างไม่แยแสว่า “คุณปู่รองครับ หลินหยุนเจ้าเดียรัจฉานนั่นคงทำให้ท่านตกใจกลัวจนสติแตกไปแล้วใช่ไหม?”
“เจ้าสำนักทั้งสองของสำนักฉีเทียนนั้น ก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนเหมือนกัน!”
“อีกอย่างดูจากยอดฝีมือแดนเทพหลายคนที่ไปหาเรื่องแล้ว ยังมีหน่วยรบเมคารุ่นที่สอง ของอเมริกาด้วย!”
“ก็มีแต่จะแข็งแกร่งกว่าเจ้าเดียรัจฉานนั่นเสียอีก!”
“ไม่มีทางที่จะด้อยกว่าเลย!”
“ปู่รองวางใจได้เลย!”
“ถ้าหากพวกเราตอนนี้ไม่ไปสวามิภักดิ์ละก็ ช้าอีกหน่อย คนอื่นเขาก็คงไม่ต้องการพวกเราอีกแล้ว!”
ทุกคนก็ครุ่นคิดอีกครู่หนึ่งแล้วต่างก็พยักหน้าอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็ตาม สิ่งที่ผู้คนตระหนักเห็นความสำคัญก็คือ การช่วยเหลือตอนที่ตกทุกข์ได้ยากย่อมต้องดีกว่าคำสรรเสริญเยินยอในขณะที่รุ่งเรืองเสมอ!
ตอนนี้คนที่คิดอยากจะซุกปีกสำนักฉีเทียนก็ย่อมต้องมีจำนวนมากมายเป็นธรรมดา
หากช้าไปก้าวเดียวละก็ รอให้กำลังคนของคนอื่นเต็มไม้เต็มมือแล้วละก็ คนอื่นจะไปสนใจตระกูลหวางเป็นใครมาจากไหนอีกเหรอ?
เมื่อเห็นทุกคนต่างก็พยักหน้า หวาโส่วหลี่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ตกลง ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน งั้นก็ตัดสินตามนี้แล้วกัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...