จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1120

มองดูหญิงสาวทั้งสองที่หนีไปอย่างรวดเร็ว ซูจื่อเหลียงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “นายท่านครับ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องพูดอะไรกับพวกเขามากมายเลย? บุกเข้าไปสังหารก็จบเรื่อง บุกเข้าไปเห็นคนก็ฆ่าได้เลย!”

อย่างน้อยหลินซื่อเฉิงก็เป็นผู้มีประสบการณ์ชีวิตมากคนหนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ไม่ได้!”

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา!”

“ตามหลักการที่ว่าควรมีมารยาทก่อนแล้วใช้กำลังทีหลัง พวกเราใช้มารยาทเข้าหาก่อน แล้วค่อยใช้กำลังตามทีหลัง!”

“ถ้าทั้งสองคนของสำนักฉีเทียนนี้ยินยอมที่จะส่งมอบหวางซูเฟินและฉินหลันคืนมาก็แล้วกันไป แต่ถ้าไม่ยอมส่งคืนมาละก็ พวกเราค่อยลงมือก็ยังไม่สาย!”

สีหน้าของซูจื่อเหลียงบึ้งตึงมาก กัดฟันแล้วพยักหน้า

สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขาพูดตำหนิตัวเองด้วยเสียงเข้มว่า “ต้องโทษฉัน! ถ้าหากฉันไม่ติดตามอาจารย์กลับไปที่ทะเลสาบเยว่หยา แล้วคอยเฝ้าอยู่ที่ชางฉองกร๊ป! งั้นผู้อำนวยการหวังและคุณฉิน ก็คงไม่ต้องถูกเจ้าเดียรัจฉานสำนักฉีเทียนนั้นจับตัวไปแล้ว!”

หลินซื่อเฉิงพูดว่า “นี่จะโทษคุณไม่ได้หรอก!”

“ใครก็คิดไม่ถึงว่า ถึงกับมีคนสองคนจู่ๆก็โผล่ออกมาแบบนี้ได้!”

“เกรงว่าที่มาที่ไปของสองคนนี้ คงไม่ธรรมดาเลยทีเดียว!”

นี่ก็เป็นสาเหตุที่เขาต้องใช้มารยาทก่อนแล้วค่อยใช้กำลังตามไปทีหลัง

ในไม่ช้า ก็มีเงาร่างประกายแสงสีเขียวปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคนอย่างเงียบๆ

เมื่อเห็นชายชุดเขียวปรากฏตัวขึ้นมา หลินซื่อเฉิงถึงกับหนังตากระตุกขึ้นมาทันที

เขาถึงกับไม่ได้รับรู้การมาถึงของฝ่ายตรงข้ามเลย

ซูจื่อเหลียงและซูหนันที่อยู่ข้างๆ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

พวกเขาทั้งสองคนก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

นี่แสดงให้เห็นว่า พลังฝึกฝนของอีกฝ่ายหนึ่งสูงส่งมากเพียงใด

แม้แต่สัมผัสความรู้สึกแค่นิดเดียว พวกเขาทั้งสามคนถึงกับไม่สามารถรับรู้ถึงพลังฝึกฝนของอีกฝ่ายหนึ่งได้เลย

ทั้งสามคนต่างมองหน้ากันและกัน ในใจต่างก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

เพราะว่าเป็นผู้บำเพ็ญเซียนเหมือนกัน ถ้าหากไม่สามารถรับรู้ถึงพลังฝึกฝนของอีกฝ่ายหนึ่งละก็ นั่นแสดงให้เห็นว่า ฝ่ายตรงข้ามจะต้องแข็งแกร่งกว่าคุณอย่างมากเลยทีเดียว!

ซูจื่อเหลียงและซูหนัน มองไปยังชายชุดเขียว มิหนำซ้ำยังมีความรู้สึกราวกับภูผาที่ล้ำลึกจนยากที่หยั่งถึง เช่นเดียวกับที่เคยเผชิญหน้ากับหลินหยุนเลยอีกด้วย

แต่ว่า ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่งเพียงใด วันนี้ก็จะต้องพาตัวหวางซูเฟินและฉินหลันทั้งสองสาวกลับไปให้ได้!

หลินซื่อเฉิงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าท่านคือเจ้าสำนักของสำนักฉีเทียนท่านไหนเหรอ?”

เจียงยี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พูดเกรงใจไปแล้ว ฉันคือเจียงยี่!”

ในขณะที่หลินซื่อเฉิงและซูจื่อเหลียง ซูหนันกำลังมองสำรวจเขาอยู่นั้น เจียงยี่ก็กำลังมองสำรวจพวกเขาอยู่เช่นกัน

กลิ่นอายในตัวของทั้งสามคน เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนกับนักบู๊ที่บำเพ็ญเพียรในโลกบู๊เลย

แต่กลับเหมือนกับเขา ทั้งสามถึงกับเป็นผู้บำเพ็ญเซียนเช่นเดียวกับเขา

อีกทั้งพลังฝึกฝนของทั้งสามคนนี้ก็ยังสูงส่งอีกด้วย โดยเฉพาะชายชราที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ถึงกับอยู่ในแดนที่จวนจะถึงแดนรวมยาแล้ว

เจียงยี่ขมวดคิ้ว พูดอย่างน่าสนใจขึ้นว่า “คิดไม่ถึงจริงๆเลย พวกคุณถึงกับเป็นผู้บำเพ็ญเซียนอีกด้วย! อีกทั้งพลังฝึกฝนก็ไม่เลวเลย ได้ข่าวว่าพวกคุณหาฉันเพื่อจะมาขอคนคืนเหรอ?”

“ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสพวกคุณสักครั้งหนึ่ง!”

“พวกคุณทั้งสามสามารถที่จะอยู่ที่นี่ได้ แล้วคารวะฉันเป็นอาจารย์!”

“ฉันจะถ่ายทอดวิชาอาคมของเทพเซียนที่แท้จริงให้กับพวกคุณ!”

“ทำให้พวกคุณมีโอกาสที่จะอยู่ยงคงกระพันได้อย่างแท้จริง!”

ยังไม่ทันรอให้หลินซื่อเฉิงเอ่ยปากพูดเลย ซูจื่อเหลียงก็พูดขึ้นด้วยความโกรธว่า “ไม่ต้องพูดเพ้อเจ้อ! รีบส่งมอบคนที่พวกเราต้องการออกมาโดยด่วน! ไม่เช่นนั้นแล้ววันนี้จะฆ่าล้างสำนักฉีเทียนบ้าบออะไรของแกให้หมดเลย!”

เจียงยี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าก็บึ้งตึงขึ้นมาทันที แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นจริงเลย!”

“ในเมื่อพวกแกคิดรนหาที่ตาย งั้นฉันก็จะให้พบคุณสมหวังแล้วกัน!”

ซูจื่อเหลียงก็ตะคอกด้วยความโกรธว่า “งั้นก็ต้องดูว่าใครกำลังรนหาที่ตายกันแน่!”

เมื่อสิ้นเสียงลง ร่างของซูจื่อเหลียงก็หลบหายวับไป รวบรวมพลังฝึกฝนทั้งหมด แล้วชกหมัดไปยังเจียงยี่ไปหนึ่งที

เจียงยี่หัวเราะเยาะ แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “ฝีมือกระจอก!”

พอพูดจบ ก็ชี้นิ้วออกไป พลังที่น่าจะสะพรึงกลัวก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขาทันที

ซูจื่อเหลียงตกใจหน้าถอดสี คิดอยากจะหลบหนีออกไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์