ขณะที่หลินหยุนรีบมาถึงสำนักฉีเทียน
ในอีกด้านหนึ่ง โม่เฉินซึ่งหลบหนีจากเขาคุนชางก็รีบมาที่ทะเลสาบเยว่หยาโดยไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บบนตัว
เขารู้จากปากของยิ่งตงไหลว่า หลินหยุนออกจากการเก็บตัวแล้วและกำลังรีบไปที่สำนักฉีเทียน โม่เฉินจึงจากไปอย่างรวดเร็วและมุ่งหน้าไปยังสำนักฉีเทียนเช่นกัน
เขาเดาว่ามู่หงและเจียงยี่ของสำนักฉีเทียน จะต้องมีความสัมพันธ์อย่างมากกับการคลายตัวของค่ายกลสี่พิทักษ์
นั่นเพราะหลังจากค่ายกลเสื่อมลง ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเกิดรอยแยกบางส่วนขึ้นมา
คนสองคนนี้ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเจอรอยแยกนั้นและเดินออกมาจากที่นั่น!
คนสองคนได้สร้างปัญหาใหญ่หลวงแก่โลกมนุษย์ หากประตูเซียนเปิดขึ้นมาจริงๆ ผลที่ตามมาก็ยากจะคาดคิด
เมื่อเขารีบมาถึงเชิงเขาสำนักฉีเทียนโดยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ตรงมาจากเมืองหลวง
เฮลิคอปเตอร์ลงจอดไม่ไกลนัก และท่านหงก็เดินไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นโม่เฉิน เขาก็ตกตะลึงและถามว่า “คุณโม่เฉิน คุณมาที่นี่ทำไม?”
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเคยบอกเขาเกี่ยวกับโม่เฉินมาก่อน
ดังนั้นผู้เฒ่าหงจึงคิดมาตลอดว่าโม่เฉินกำลังปกป้องค่ายกลบนภูเขาคุนชาง
ตอนนี้เมื่อเห็นโม่เฉิน เขาจึงแปลกใจอย่างมาก!
“ที่แท้เป็นท่านหง!” โม่เฉินรีบพูดขึ้น “เกิดเรื่องขึ้นที่เขาคุนชาง มีผู้แข็งแกร่งลึกลับปรากฏตัวขึ้นและพยายามจะทำลายค่ายกลสี่พิทักษ์ หลังจากที่ผมหลบหนีไปที่ทะเลสาบเยว่หยา ก็ได้ยินว่าคุณหลินออกจากการเก็บตัวแล้วและมาที่นี่ ผมก็เลยตามมาทันที!"
“อะไรนะ?” ท่านหงตะลึงไป “มีผู้ลึกลับบุกรุกงั้นหรือ? อย่างนี้ ผนึกค่ายกลกำลังจะพังในไม่ช้านี้งั้นหรือ?”
“อย่ากังวล ท่านหง ยังไม่ถึงขั้นนั้น!” โม่เฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ “แม้ว่าพลังของคนผู้นั้นจะสูงยิ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายผนึกค่ายกล! แต่ก็ไม่อาจทนอยู่ได้นานแล้ว ผมมาที่นี่เพื่อแจ้งให้ท่านหลินหยุนทราบโดยเร็วที่สุด!”
ท่านหงพยักหน้าและมองขึ้นไปบนยอดเขา เขาเองก็ฟังรายงานของยิ่งตงไหล และพูดคุยกับประธานาธิบดีแล้ว เขาจึงตัดสินใจมาด้วยตนเอง
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
เขาไม่ใช่ผู้ฝึกตน ในเวลานี้เห็นแค่เพียงว่าหลินหยุนและอีกสองคนกำลังอยู่ในสถานะเผชิญหน้ากัน
โม่เฉินเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า "ผมเองก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด!"
“อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าท่านหลินหยุนจะต่อสู้กับอีกฝ่ายไปแล้ว!”
“สองคนนั้น หากผมเดาไม่ผิดล่ะก็ น่าจะมาจากประตูเซียน!”
“เกรงว่าต่อจากนี้ไป จะมีการสู้รบอันรุนแรงเกิดขึ้น!”
แม้แต่เขาในตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายใดจะชนะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากพลังอันน่าทึ่งของทั้งสองฝ่ายในเมื่อตอนที่เขามาถึง พลังวิชาของหลินหยุนได้เพิ่มขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
ตอนนี้เห็นแค่เพียงหลินหยุนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางอากาศ รังสีสังหารแผ่กระจายไปโดยรอบ
แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกใจสั่น
นี่ผ่านไปนานแค่ไหนกันเชียว หลินหยุนได้มาถึงจุดที่ไกลเกินเขาจะเอื้อมถึงแล้ว
ต้องรู้ก่อนว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขานยังสามารถลงมือหยุดยั้งหลินหยุนจากการเหยียบย่ำตระกูลหวางได้!
ในเวลานั้น เขามีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับหลินหยุน!
แต่มาคิดดูในตอนนี้ ดูเหมือนว่าในเวลานั้น หลินหยุนจะยังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาออกมาทั้งหมด!
ที่ด้านบนของภูเขาเก้ามังกร มู่หงและเจียงยี่หัวเราะเสียงดังลั่น
เจียงยี่เอื้อมมือไปหาหลินหยุน และตะโกนด้วยเสียงที่ลึกล้ำ:
"หลินชางฉอง ยาทองและไม่ใช่ยาทองนั้น ต่างกันราวฟ้ากับดิน!”
“หากยังมีสมองอยู่ก็จงมอบเคล็ดวิชาสืบทอดมาให้ฉันซะ จากนั้นก็คุกเข่าขอความเมตตาต่อหน้าพวกฉันซะ!”
“เห็นแก่แม่และผู้หญิงของนายที่คอยปรนนิบัติฉันสองคน ฉันจะรับลูกชายครึ่งหนึ่งอย่างนายเอาไว้!”
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ!"
มู่หงเองก็พยักหน้าเยาะเย้ยและกล่าวว่า "ไม่ผิด! ถ้านายไม่มอบเคล็ดวิชาสืบทอดออกมา อย่างนั้นพวกเราสองคนก็จะพานายกลับสู่ประตูเซียนเพื่อแสดงวิชาเสาะขวัญ แบบนั้นพวกเราก็ยังสามารถได้รับทุกอย่างที่เราต้องการ!"
เมื่อเห็นว่าหลินหยุนยังไม่ยอมพูด เจียงยี่ก็โกรธจัดและพูดว่า "ไม่รู้จักความหวังดี! ในเมื่อนายอยากรนหาที่ตาย อย่างนั้นฉันก็จะทำให้นายสมปรารถนาเอง! ให้นายได้เห็นว่าความแตกต่างระหว่างไม่ใช่ยาทองและยาทองที่แท้จริงนั้นมันห่างกันขนาดไหน!"
"น้ำสวรรค์ตกไม่ขาด!"
ในชั่วพริบตา น้ำจากสวรรค์ก็ไหลลงมาอีกครั้งและห่อหุ้มหลินหยุนไว้ในทันที
พลังกดดันและบีบคั้นจนหายใจไม่ออกอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในทันที
หลินหยุนประหลาดใจที่เห็นว่ามังกรน้ำตัวนั้นได้ล้อมตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็เปิดปากกว้างเพื่อกัดตนเองเข้าไป
หลินหยุนถูกมังกรน้ำกลืนกินลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มังกรน้ำยังดูดซับพลังทั้งหมดของน้ำจากสวรรค์ และกลายร่างเป็นร่างมังกรที่ใหญ่ขึ้น
"โฮก!"
เสียงร้องของมังกรดังขึ้นสะเทือนฟ้าดิน!
ราวกับว่าขอแค่มังกรน้ำอยากจะทำ มันก็จะสามารถทำลายโลกได้ในทันที!
ท่ามกลางอากาศ เจียงยี่ระเบิดเสียงหัวเราะ "หลินชางฉอง ตอนนี้นายน่าจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของแดนยาทองแล้วสินะ!"
มู่หงที่อยู่ข้างๆเองก็ยิ้มเและพูดว่า “น้องเจียง คาถามังกรน้ำของนายพัฒนาขึ้นมากเลยนี่! เกรงว่าตอนนี้ฉันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายแล้ว!”
พวกเขาทั้งคู่ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักใหญ่ในประตูเซียน
มู่หง มาจากสำนักฉีซาน!
ส่วนเจียงยี่นั้นมาจากสำนักเทียนหยุน!
ในประตูเซียนมีเก้าสำนักสิบแปดสำนักเต๋า และมีหลายตระกูล ในนั้นมีเก้าสำนักเป็นผู้นำและครอบครองด้านใดด้านหนึ่ง!
สำนักฉีซานและสำนักเทียนหยุนก็คือสองสำนักใหญ่ในนั้น!
ทั้งคู่ล้วนได้ความเย่อหยิ่งมาจากสำนักของตน!
เช่นพวกเขาที่ยังอายุเยาว์ขนาดนี้ ยังไม่ถึงร้อยปีก็สามารถเข้าสู่แดนยาทองได้ ทั่วทั้งในประตูเซียนมีอยู่ไม่มากนัก!
เจียงยี่ยิ้มและโบกมือของเขา "พี่มู่ คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว คาถาภูติป่าของเทียนหยุนของคุณช่างพิสดารและคาดเดาไม่ได้ ผมเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยลองพลังความร้ายกาจของพี่มู่สักหน่อย!"
ท่ามกลางอากาศ มังกรม้วนเมฆาคล้อย
มังกรน้ำตัวนั้นก็จะร่ายมนตร์มังกรดังก้องฟ้าอยู่เป็นพักๆ วัน จนทำให้นักบู๊ยอดฝีมือที่อยู่ตรงเชิงเขาถึงกับตัวสั่นสะท้าน!
ชายชราแดนเทพคนหนึ่งราวกับหวาดกลัวจนขวัญหนีไปแล้ว
สองขาของเขาอ่อนยวบ จากนั้นเขาก็ทรุดลงไปกับพื้นโดยตรง
“เทพเซียน!”
“เป็นวิชาอาคมเทพเซียนและวิชาต้าเต๋าอย่างแท้จริง!”
“หลินชางฉองที่เป็นดุจดั่งเทพสังหารเมื่ออยู่ในเงื้อมมือของเทพเซียนทั้งสองคน ก็ถึงกับไม่มีแม้พลังที่จะสู้กลับ!”
"นี่คือความน่ากลัวของเทพเซียน!"
ในอีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของท่านหงก็ไร้เลือดเช่นกัน เขาเดินโซเซถอยหลังไปไม่กี่ก้าว
โชคดีที่โม่เฉินประคองเขาไว้จึงไม่ได้ล้มไปกับพื้น
หลังหายใจเข้าลึก ท่านหงก็ถามอย่างไม่มีสติว่า “หลินหยุนเขา... ตายแล้วเหรอ?"
ใบหน้าของโม่เฉินซีดเผือดและส่ายหัว "ผมไม่รู้ หากว่าไปแล้ว พวกเขาไม่น่าจะฆ่าหลินหยุนถึงจะถูก แต่ตอนนี้ ผมเองก็ไม่รู้แน่ชัด!"
บนยอดเขาว่างเปล่า
เจียงยี่พูดอย่างภาคภูมิใจอีกครั้ง “น้องมู่ ภายใต้พันธนาการของมังกรน้ำนี้ พลังทิพย์ของหลินชางฉองจะหมดลงในไม่ช้า ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะสามารถฆ่าเขาได้!”
มู่หงพยักหน้า "ไม่ผิด! บุคคลผู้นี้มีเคล็ดวิชาสืบทอดที่ไม่ธรรมดาอย่างมาก! และอาจจะยิ่งเหนือกว่าเคล็ดวิชาสืบทอดสูงสุดที่สำนักของเราทั้งสองมีอยู่ ดังนั้นเราจะต้องเอามันมาให้ได้!"
ขณะที่เสียงของคนทั้งสองยังไม่จบลง
จู่ๆในเวลานี้เอง กลางอากาศก็ระเบิดออกอีกครั้งจนสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งแผ่นดิน!
ทันใดนั้นเอง มังกรน้ำซึ่งว่ายวนอยู่ตลอดเวลากลับแตกออกเป็นเสี่ยงๆและกลายเป็นหยดน้ำทั่วท้องฟ้า
ร่างของเจียงยี่ที่แต่เดิมกำลังได้ใจสะเทือนไปทันที จากนั้นเขาก็กระอักเลือดก้อนใหญ่ออกมาอย่างแรง
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้คนทั้งสองตกใจจนหน้าซีดและมองขึ้นไปในอากาศพร้อมกัน
และเห็นว่าร่างของหลินหยุนปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อเห็นหลินหยุน เจียงยี่ก็เบิกตากว้างทันที เขาตื่นตกใจจนไร้สติ และเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่า “นาย...นายทำลายพันธนาการมังกรน้ำของฉันได้ยังไง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...