หลินหยุนยืนอยู่ในอากาศ ผมยาวของเขาลอยล่องทั้งๆที่ไร้กระแสลมพัด
ท่าทางของเขาราวกับไม่ได้รับอันตรายใดๆเลยสักนิด
นี่คือเรื่องน่าเหลือเชื่อที่สุดสำหรับเจียงยี่!
พันธนาการมังกรน้ำของเขาถือเป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดในคาถามังกรน้ำแล้ว
มีผลในการสยบศัตรูได้อย่างเหนือชั้นไร้ใครเทียบ!
แต่สิ่งที่ยากและมีค่าที่สุดก็คือถึงแม้จะเป็นกระบวนท่าตั้งรับ แต่มันก็แฝงแนวรุกที่แข็งแกร่งเอาไว้ด้วย!
เมื่อถูกมังกรน้ำกลืนเข้าไปในร่างกาย มันจะกินพลังทิพย์ของคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
และใช้เวลาเพียงไม่นาน พลังทิพย์ก็จะถูกกลืนกินจนหมด และไม่มีพลังให้ต่อสู้อีก!
ดังนั้น กระบวนท่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นเคล็ดวิชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจียงยี่
ตอนที่เขาอยู่ในประตูเซียน เขาไม่รู้ว่าใช่กระบวนท่านี้ฆ่าคนไปแล้วตั้งมากมายเท่าไหร่!
มู่หงก็ตกใจเหมือนกัน!
ในฐานะเพื่อนสนิทของเจียงยี่ เขาย่อมรู้ดีกว่าใครถึงพลังอันแข็งแกร่งของกระบวนท่านี้!
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมบางครั้งเจียงยี่ที่ดูออกจะบ้าอำนาจอยู่บ้าง แต่เขากลับไม่เก็บมาคิดอะไรมาก
นั่นเพราะว่าเขากลัวกระบวนท่านี้ของเจียงยี่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลินหยุนที่ไม่ได้เข้าสู่แม้แต่ขั้นยาทอง กลับทำลายกระบวนท่าไม้ตายของเจียงยี่ไปแล้ว!
นี่ทำให้มู่หงไร้หนทางจะเข้าใจได้อย่างยิ่ง
"หลินชางฉอง มีฝีมืออยู่บ้างนี่!"
เจียงยี่ลืมตากว้างและพูดอีกครั้ง “นายไม่ได้เป็นแม้แต่ขั้นยาทอง! เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายพันธนาการมังกรน้ำของฉัน! นี่เกิดอะไรขึ้น?”
จนกระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังยากที่จะเชื่อ!
หลินหยุนยืนอยู่อากาศและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "อาศัยขยะที่พวกนายรวมขึ้นมา ยังกล้าเรียกว่ายาทอง! ไม่รู้ว่าใครให้ความกล้านี้กับนาย!"
ร่างกายของหลินหยุนวาบผ่านไปจากนั้นในมือของเขาก็ถือดาบเฮ่าเทียนอยู่
“แม้ฉันจะไม่ได้เข้าสู่แดนยาทอง แต่ว่า หากฉันต้องการ ฉันก็สามารถเข้าสู่แดนยาทองได้”
“ฆ่าพวกนาย พลังในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว!”
“ข้ามีหนึ่งกระบี่ที่ทลายนภาได้!”
เมื่อเสียงจบลง ร่างของเขาก็หายไปในทันใด
ในเวลาเดียวกันก็เกิดเป็นลมเคลื่อนเมฆคล้อยไปมาระหว่างฟ้าดิน เมฆดำอันกว้างใหญ่ได้รวมตัวกันปกคลุมแผ่นดินจนน่าตื่นตะลึงหวาดกลัว
จากนั้น เงาร่างมนุษย์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ
เงาจำแลงนั้นมีดาบขนาดใหญ่อยู่ในมือ ราวกับว่าสามารถทำลายโลกได้ทุกเมื่อ
ทันใดนั้น เงาจำแลงก็เปิดฉากขึ้น ดาบขนาดใหญ่ในมือของเขาแทงออกไปในทันทีอย่างไม่รีรอ
เจียงยี่และมู่หงรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวที่ผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณของพวกเขา!
พวกเขาแทบจะไม่อยากเชื่อในพลังอันแกร่งกล้าและไร้เทียมทานนี้
แต่ในเวลานี้ ไม่มีเวลาให้พวกเขาได้คิดอีกต่อไป
เจียงยี่ที่ถูกพลังสะท้อนกลับหลังจากมังกรน้ำของเขาแตกสลาย พลังทิพย์ในร่างของเขายังคงพลุ่งพล่านไม่หยุด
มู่หงทำได้แค่เคลื่อนตัวก้าวถอยออกมาอย่างรวดเร็ว!
จากนั้นก็ตะโกนเสียงเคร่งว่า “หุ่นจำลองปรากฏ!”
สิ้นเสียงลง เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนก็งอกขึ้นจากพื้นดิน จากนั้นก็พัวพันเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว และแทบจะในชั่วพริบตา พวกมันกลายเป็นหุ่นจำลองขนาดมหึมา!
หุ่นจำลองนี้สูงเป็นพันเมตร
มือหนึ่งถือค้อนขนาดใหญ่ อีกมือหนึ่งถือโล่ขนาดใหญ่เหนือใครเทียบ
เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ที่น่าตื่นตะลึงของหลินหยุน หุ่นจำลองก็ยกโล่ขึ้นทันทีและป้องกันมู่หงและเจียงยี่เอาไว้
แต่ชี่กระบี่ของดาบทะลุสวรรค์นั้นไร้ที่สิ้นสุด ด้วยพลังอันน่าเกรงขามของทลายนภา พริบตามันก็ทำลายหุ่นจำลองสูงพันเมตรไปในทันที
ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่มู่หงและเจียงยี่ก็กระเด็นออกไปอีกครั้ง
เลือดของทั้งสองกระอักออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที
เจียงยี่ตะโกนอย่างรวดเร็ว "น้องมู่ หนี!"
พูดจบ ร่างของเขาก็กลายเป็นลำแสงและตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
มู่หงเองก็ตะลึงงันไปและรีบวาบหายหลบลงไปที่พื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...