หนึ่งเยว่ที่เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักหยุนเยว่ในตอนนั้น สมัยนั้นเคยเกิดเรื่องหนึ่งขึ้น ทำให้เธอจากสำนักหยุนเยว่ไป
หลังจากออกจากสำนักหยุนเยว่แล้ว เธอยังได้นำความลับที่พูดกับปากต่อปากของสำนักไปด้วย
นี่ก็คือเหตุผลที่สองเยว่เข้ามาอยู่ที่ยอดเขาที่หนึ่ง
เดิมที่พวกเธอกำลังหาโอกาสที่จะนำความลับเหล่านั้นจากหนึ่งเยว่กลับมา แต่หนึ่งเยว่ตายไปนานแล้ว เธอคลอดลูกสาวคนหนึ่งเสร็จก็เสียชีวิตไปเลย
คำพูดของสามเยว่นั้นไม่ค่อยชัดเจน เธอไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจน
เห็นได้อย่างชัดเจน เรื่องนั้นสำหรับสำนักหยุนเยว่แล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ
อย่างไรก็ตาม หลินหยุนก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย
เมื่อเห็นท่าทีผิดหวังของหลินหยุน สามเยว่ก็รีบพูดขึ้นมาทันที "เจ้าพระคุณ ถึงแม้หนึ่งเยว่จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ความลับพวกนั้นอาจจะไม่ได้ตายไปพร้อมกับเธอก็ได้!"
ดวงตาของหลินหยุนเป็นประกายและพูด "อ้อ? ความหมายของคุณคือ?"
สามเยว่พูดว่า "ก่อนที่หนึ่งเยว่จะมรณภาพ อันที่จริงเธอน่ากำลังเขียนความลับพวกนั้นออกมา เพราะเธออยากจะส่งมันกลับมาที่สำนักหยุนเยว่ แต่สุดท้ายแล้วเธออาจจะเขียนไม่เสร็จ! บางที เธออาจจะบอกลูกสาวตัวเองก็ได้!"
เมื่อหลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็รู้สึกสงสัยและพูดทันที "ในเมื่อพวกคุณจะรู้เรื่องพวกนี้แล้ว ทำไมถึงไม่เคยไปหาละ?"
สามเยว่กับคนอื่นๆแสดงสีหน้าเขินอายทันที
"เจ้าพระคุณ มันยากที่จะอธิบายเรื่องเหล่านี้ กล่าวโดยย่อก็คือ ตอนนั้นหนึ่งเยว่จากไป พวกเราก็ทำเรื่องผิดต่อเธอด้วยเช่นกัน!"
"อย่างไรก็ตาม พวกเรากับลูกสาวของเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ ถ้าเจ้าพระคุณอยากจะรู้เรื่องนี้จริงๆ คุณก็สามารถไปถามเธอได้!"
"ถึงแม้ไม่กล้ารับประกันว่าเธอจะรู้เรื่องทุกอย่าง แต่มันก็น่าจะลองดู!"
"อีกอย่าง เจ้าพระคุณไปหาเธอ อย่าใช้กำลังบังคับเธอเด็ดขาด!"
"พวกเราแนะนำเจ้าพระคุณไปหาเธอ พวกเราเชื่อว่าเธอต้องยอมบอกเจ้าพระคุณอย่างแน่นอน!"
หลินหยุนพยักหน้า
"ได้! พวกเธอเตรียมข้อมูลของเธอให้ฉัน ฉันจะลองไปดู!"
ในเมื่อมีเบาะแสอย่างอื่นอยู่ หลินหยุนก็ไม่อยากที่พลาดมันไป
เขาอยู่สำนักหยุนเยว่สามวัน
หลินหยุนเดินไปทั่วสำนักหยุนเยว่แล้ว
เขาแน่ใจมากๆ นี่คือสำนักที่นางฟ้าเย่เยว่ก่อตั้งขึ้น
นอกจากค่ายกลปกป้องสำนักแล้ว ด้านในสำนัก มีร่องรอยที่นางฟ้าเย่เยว่ทิ้งเอาไว้ทุกที่
เรื่องนี้ทำให้หลินหยุนถอนหายใจนานมาก
วันที่สาม หลินหยุนเดินทางออกจากสำนักหยุนเยว่
สามเยว่และประมุขขุนเขาคนอื่นๆก็มาส่งเขาด้วย
สามเยว่พูดอีกครั้ง "เจ้าพระคุณ ฉันได้แจ้งฉินเหมยไปแล้ว เธอก็น่าจะเข้าใจความหมายของพวกเราดี ต้องขออภัยเจ้าพระคุณด้วย ครั้งนี้พวกเราได้แจ้งไปว่าคุณเป็นแค่หลานจากโลกมนุษย์ของฉัน หวังว่าเจ้าพระคุณจะไม่ถือสาเรื่องนี้!"
หลินหยุนพยักหน้าและพูดเบาๆ "ไม่เป็นไร ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ฉันก็ขอตัวก่อน!"
เมื่อพูดจบ หลินหยุนบินขึ้นท้องฟ้าทันที เขาออกจากสำนักหยุนเยว่และตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ห่างจากสำนักหยุนเยว่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือหลายพันกิโลเมตร
เมืองมี่หยุน
นี่คือเมืองขนาดกลาง
ปกครองดินแดนในรัศมีหลายร้อยกิโลเมตร
ตระกูลฉินเคยเป็นตระกูลอันดับต้นๆของเมืองมี่หยุน เมื่อร้อยกว่าปีก่อน หลังจากผู้นำตระกูลคนเก่ามรณภาพแล้ว ตระกูลนี้ค่อยๆตกต่ำและกลายเป็นตระกูลอันดับรองๆไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม บรรพบุรุษของพวกเขาก็เหลือของดีไว้มากมาย ทำให้ตระกูลฉินกลายเป็นตระกูลอันดับรองๆที่แข็งแกร่งมากๆเหมือนกัน
ในวันนี้ ประตูทางทิศใต้ของเมืองมี่หยุน
มีรถเมฆเฉดสีคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู มันโดดเด่นมากๆ ทำให้มันเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนที่เดินไปมา
ด้านหน้าของรถเมฆเฉดสี มีผู้หญิงวัยกลางคนและผู้หญิงวัยรุ่นสองคนยืนอยู่
ผู้หญิงวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบห้ากว่าๆ เธอสูงมากๆ รูปร่างเซ็กซี่มากๆด้วย ใบหน้าของเธอดูอ่อนโยนและใจกว้าง เธอดูดีและสง่างามมากๆ สายตาของเธอมีความประหม่าเล็กน้อยและมองไปที่ถนนตลอด
ข้างๆของเธอ คือผู้หญิงวัยรุ่นที่มีอายุเกือบๆยี่สิบปี
ผู้หญิงวัยรุ่นคนนี้เหมือนกับผู้หญิงวัยกลางคนมากๆ เธอรูปร่างเซ็กซี่และสวยมากๆ บนตัวเธอนั้นเผยให้เห็นความอ่อนเยาว์และร่าเริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...