บทที่ 113 สมาคมประลองยุทธ
หลินหยุนมองแผ่นหลังหานกั๋วเฉียงที่เดินจากไป ด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก
“ในสายตาของคุณ อำนาจ และความมั่งคั่งอาจเป็นการแสวงหาชั่วชีวิต แต่ว่า จากมุมมองของมนุษย์ธรรมดาอย่างคุณ จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน”
“แม้ว่าคุณจะมีทรัพย์สินเงินทองมหาศาล และมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ถ้าร้อยปีผ่านไป ในที่สุดก็จะกลับคืนสู่พื้นดิน
“และสำหรับฉัน แม้จะผ่านไปหนึ่งพันปี หนึ่งหมื่นปี แม้ว่าโลกจะถูกทำลาย ฉันก็ยังอยู่ที่เดิม!”
“คนธรรมดาจะมารู้ทิศทางการต่อสู้ของวีรบุรุษได้ไง?”
หานกั๋วเฉียงเดินกลับไป อีหลิงรีบเดินมาหา และถามว่าได้ทำให้หลินหยุนลำบากใจไหม
แน่นอนหานกั๋วเฉียงไม่ยอมรับอยู่แล้ว และพาอีหลิงจากไป
หลินหยุนก็ไม่ได้เปิดเผย เฝ้ามองพวกเขาจากไปอย่างเงียบ
กลับมาที่วิลล่าตึกว่างเยว่ หลินหยุนยืนอยู่บนดาดฟ้า มองไปที่ทะเลสาบเยว่หยาที่ส่องแสงเปล่งประกาย หลินหยุนลูบแหวนหยกสีขาวที่นิ้วหัวแม่มือ
นี่คือสิ่งของของสำนักต้าเต๋าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นไปได้มากที่เย่เยว่เก็บไว้ แต่น่าเสียดายแหวนเก็บของนี้ช่างว่างเปล่า ไม่ทิ้งข้อมูลใดๆไว้
ถ้าหากเย่เยว่เกิดใหม่ แล้วเธอจะอยู่ที่ไหน?
แต่ว่ายังมีจุดที่น่าสงสัยอีกประการหนึ่ง สามารถกลั่นแหวนเก็บของได้นั้น อย่างน้อยต้องมีฐานการบำเพ็ญแดนยาทอง แม้ว่าเย่เยว่จะเกิดใหม่ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ในเวลาอันรวดเร็วจะสามารถบำเพ็ญถึงขั้นแดนยาทอง เว้นแต่ฐานการบำเพ็ญของเธอไม่เคยหายไป
ทันใดนั้นหลินหยุนก็รู้สึกถึงความเร่งรีบ และดูเหมือนว่าจะต้องเร่งการบำเพ็ญฝึกฝนให้เร็วขึ้น
ชี่ทิพย์บนโลกนั้นเบาบาง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาวัสดุ เพื่อสร้างค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์
เพียงหลินหยุนคนเดียว คงไม่สามารถค้นพบได้อย่างแน่นอน แต่ว่า อำนาจบนโลกมนุษย์สามารถใช้ประโยชน์ได้
หลินหยุนโทรหาเส้เทียนหัว และบอกให้เขาค้นหาหินห้าธาตุและวาดลักษณะของหินห้าธาตุออกมา
มิเช่นนั้น คนเหล่านี้ไม่รู้จักลักษณะของหินห้าธาตุ
หลินหยุนแจ้งเส้เทียนหัวแล้ว เช่นนั้นเส้เทียนหัวก็คงจะแจ้งฉีว่างหมิงกับฟางเยว่ รวมทั้งฉินโจวสถานที่ซึ่งถูกหลินหยุนรวบไว้
เพียงแต่ว่า พลังอำนาจของทั้งสี่เมืองนี้ยังไม่เพียงพอ ทางที่ดีควรเป็นหลิงหนานทั้งหมด หรือแม้แต่ค้นหาทั่วประเทศ เพื่อจะมีความหวังยิ่งขึ้น
ขณะที่หลินหยุนกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีค้นหาหินห้าธาตุ ทันใดนั้นเจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลแห่งหลินโจวก็โทรมา
“คุณหลิน ฉันมีธุระต้องการขอความช่วยเหลือจากคุณ และหวังว่าจะได้พบและคุยกับคุณ!” เจี่ยงสงพูดด้วยความเคารพ
หลินหยุนก็กำลังนึกถึงเจี่ยงสงพอดี ถ้านับอิทธิพลของเขาด้วยแล้ว จะมีห้าเมืองในหลิงหนานที่จะช่วยเขาค้นหาหินห้าธาตุ
“โอเค”
เจี่ยงสงส่งคนไปรับหลินหยุน และพบกันที่Upper island café
ในห้องส่วนตัวที่หรูหรา หลินหยุนและเจี่ยงสงนั่งหันหน้าเข้าหากัน
เจี่ยงสงรินชาให้หลินหยุนด้วยตัวเอง เป็นถึงผู้มีอิทธิพลแห่งหลินโจว อยู่ต่อหน้าหลินหยุน มีท่าทีเคารพอย่างยิ่ง
“คุณหลิน เชิญดื่ม!! เจี่ยงสงยื่นมือออกมา แสดงท่าทางเชิญดื่ม
หลินหยุนหยิบแก้วชา จิบไปทีหนึ่ง มองไปที่เจี่ยงสง และถามว่า “มีธุระอะไร พูดมาสิ!”
เจี่ยงสงรินชาให้ตัวเอง และพูดว่า “คุณหลิน เป็นเช่นนี้”
“คุณก็รู้นี่ ว่าตอนนี้สังคมอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่เหมือนแต่ก่อน วันๆเอาแต่แย่งชิงพื้นที่การปกครอง อย่างไรก็ตาม ที่ที่มีผู้คนก็จะมีวงการ และก็มีข้อพิพาท
“เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเหล่านี้ และหลีกเลี่ยงผลกระทบในทางลบต่อความมั่นคงของสังคม ดังนั้นอำนาจเถื่อนทางทิศใต้ทั้งสี่เมืองที่ใกล้เคียงกัน ได้จัดตั้งกฎที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมา”
กฎนี้เรียกพวกเราขนานนามว่าสมาคมประลองยุทธ”
หลินหยุนมองเจี่ยงสง และไม่พูดอะไร เพื่อให้เจี่ยงสงพูดต่อไปเรื่อยๆ
เจี่ยงสงพูดต่อไปว่า “ในสมาคมประลองยุทธครั้งนี้ แต่ละฝ่ายเลือกยอดฝีมือเพียงไม่กี่คน และร่วมต่อสู้กัน เพื่อแก้ไขข้อพิพาทของผลประโยชน์ต่างๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...