ฉินเหมยเห็นว่า หลินหยุนหัวแข็งดื้อรั้นเกินไปหน่อย!
แก่นแท้ของความดื้อรั้นก็คือความหยิ่งผยอง
ความหยิ่งผยองที่มาจากส่วนลึกภายในจิตใจ
แม้ว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอพบเห็นหลินหยุน
หลินหยุนจะมีลักษณะท่าทางที่สุภาพอ่อนน้อม
แต่ทั้งหมดนั้นมันเป็นเพียงแค่เปลือกนอก
ตอนนี้เธอพบกับความจริงว่า ที่จริงแล้ว หลินหยุนนั้นเป็นคนที่มีความหยิ่งผยองมาจากส่วนลึกภายในจิตใจ
แต่เธอก็สามารถที่จะเข้าใจได้
เพราะว่าเขาอายุยังน้อย
อีกทั้งยังมีพลังความสามารถที่สามารถต่อสู้เอาชนะยอดฝีมือระดับขั้นยาทองได้!
ซึ่งถือเป็นบุคคลผู้มีพรสวรรรค์อัจฉริยะที่ล้ำค่าและหาได้ยากเลยทีเดียว
บุคคลอัจฉริยะล้วนแล้วแต่มีความหยิ่งผยอง
ล้วนแต่ทะเยอทะยานใฝ่สูง
แต่ถ้าหากมีความหยิ่งผยองมากเกินไป นั่นก็คงไม่ใช่แค่หยิ่งผยองเท่านั้นแล้ว มันคือความโอ้อวด
ฉินเหมยถอนหายใจ
หากคิดที่จะลองตักเตือนสักครั้งคงจะเป็นไปได้ยาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็คงทำได้เพียงแค่คิดหาวิธีด้วยตนเองแล้ว
ในเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้เรียกตนเองว่าน้าฉินแล้ว ก็จะต้องไม่ปล่อยให้เขาเกิดเรื่องขึ้นโดยเด็ดขาด
หากเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คงยากที่จะอธิบายชี้แจงให้กับ ทางอาหญิงสามนั้น
คิดถึงจุดนี้ ฉินเหมยก็มองไปที่หลินหยุนและพูดขึ้นว่า “อย่างนั้น น้าฉินก็ไม่รบกวนเธอแล้ว เสี่ยวหยุนพักผ่อนแล้วกัน! หากต้องการอะไร ก็บอกน้าฉินมาได้เลย! ”
หลินหยุนพยักหน้า “งั้นก็ต้องรบกวนน้าฉินด้วยแล้ว! ”
เมื่อส่งน้าฉินกลับไปแล้ว หลินหยุนก็กลับมายังห้องและบำเพ็ญฝึกฝนต่อไป
เขาสังเกตเห็นถึงความกังวลใจของน้าฉิน
แต่เรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะพูดด้วยปากเปล่าแล้วสามารถพูดเตือนได้สักหน่อย
หลินหยุนไม่ได้คิดถึงเรื่องราวเหล่านี้อีก สงบจิตสงบใจแล้วก็บำเพ็ญฝึกฝนต่อไป
ในโลกคุนชาง ชี่ทิพย์มีระดับความหนาแน่นมากกว่าที่ทะเลสาบเยว่หยาของเขา
ความเร็วในการบำเพ็ญฝึกฝนก็รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงทะเลสาบเยว่หยา หลินหยุนก็ค่อย ๆ ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น
“ฉันเข้ามาสู่โลกคุนชางนี้ ได้สักระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง! ”
“คงจะไม่มีเรื่องราวที่เลวร้ายอะไรเกิดขึ้นอีก”
“มีซูจื่อเหลียง ซูหนัน รวมถึงคุณปู่อยู่ ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็เพียงพอที่จะรับมือได้แล้ว! ”
ไม่ต้องพูดถึงซูจื่อเหลียงกับซูหนันแล้ว
ตามระดับขั้นการบำเพ็ญบู๊ พูดได้ว่าพวกเขาเป็นถึงยอดฝีมือแดนเทพโดยสมบูรณ์แล้ว
ส่วนคุณปู่หลินซื่อเฉิง แม้ว่าจะเริ่มต้นค่อนข้างช้า แต่พรสวรรค์ในการบำเพ็ญฝึกฝนนั้นแม้แต่
หลินหยุนเองก็ยังตกตะลึง
หลินหยุนที่เป็นถึงกษัตริย์เซียน ผจญภัยไปทุกแห่งทุกแห่งมานับไม่ถ้วน ผู้ที่มีพรสวรรค์อัจฉริยะแบบไหนที่ไม่เคยพบเห็น?
ต่อให้เป็นแบบนี้แล้ว เขาก็ยังคงตื่นตะลึงกับคุณปู่หลินซื่อเฉิงอยู่เช่นเคย
เชื่อมั่นว่าหากเวลาผ่านไปอีกสักหน่อย คงจะเหนือกว่าซูจื่อเหลียงกับซูหนันได้ไม่ยาก
มีพวกเขาทั้งสามคนอยู่ เขาเองก็สามารถวางใจได้แล้ว
“โลกคุนชางนี้ ชี่ทิพย์หนาแน่นอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะมีเทือกเขาทิพย์อยู่หรือไม่”
“ถ้าหากสามารถได้หินทิพย์มาจำนวนหนึ่ง อย่างนั้นจะเป็นการช่วยส่งเสริมอย่างมาก ต่อการบำเพ็ญฝึกฝนของฉันในอนาคต! ”
“นอกจากนี้ ยังจะต้องตามหาสถานที่ล้ำค่าที่อุดมด้วยพลังพิเศษ หรือว่าสถานที่กำเนิดของวิเศษอะไรประเภทนี้ด้วย”
หลินหยุนในตอนนี้ ไม่ขาดแคลนวิธีการบำเพ็ญฝึกฝน
แต่เขากลับขาดแคลนทรัพยากรที่ใช้ในการบำเพ็ญฝึกฝน
ซึ่งรวมไปถึงเครื่องรางและของวิเศษที่ถนัดมือ
ในตอนนี้เขามีเพียงดาบเฮ่าเทียนและกระจกเฮ่าเทียน
ของล้ำค่าสองชิ้นนี้ มีพลังอานุภาพมหาศาลก็จริง แต่ถ้าจะพูดว่าถนัดมือไหม ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจกเฮ่าเทียน ก็ยังคงถือว่าไม่สมบูรณ์อย่างชัดเจน
ซึ่งเมื่อใช้งานขึ้น ในขณะที่ขั้นแดนของเขายังไม่ถึง ก็จะทำให้เขาสูญเสียพละกำลังไปอย่างมาก
“วันนี้ออกไป เดินเล่นในเมืองมี่หยุนมาหนึ่งรอบ”
“แต่ก็ไม่พบสิ่งล้ำค่าอะไรอะไรเลย! ”
“ดูเหมือนว่า เมืองมี่หยุนนี้ค่อนข้างจะธรรมดา! ”
“โดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ไหนจะมีสิ่งที่ล้ำค่ามากกว่าพวกสิ่งเหล่านี้! ”
ช่วงเช้าในตอนที่เขากับฉินชิงถงและเมิ่นหยู่เดินเล่นอยู่ในตลาดนั้น หลินหยุนเองก็ได้มองดูสิ่งของบางอย่าง
แต่สิ่งของที่เข้าตาเขานั้น กลับไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว
แน่นอนว่า ต่อให้มี เขาก็ไม่มีกำลังพอที่จะซื้อ
เงินที่ใช้กันในโลกคุนชางนี้ คือเหรียญประเภทหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...