หากไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้ ก่อนหน้านี้เขาเองก็คงไม่เสนอตัวที่จะออกไปจากตระกูลฉินแล้ว
แต่ว่าเวลานี้ลักษณะท่าทีของพวกคนเหล่านี้กลับทำให้เขารู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในจำนวนนี้ยังมีถึงฉินชิงถงรวมอยู่ด้วย
ไม่ว่าจะอย่างไร ที่ตึกจุ้ยซิงนั้นตนเองทำไปก็เพื่อช่วยเหลือเธอ
หลินหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ ซึ่งพวกคนที่อยู่ด้านหน้าเห็นเขาไม่พูดไม่จา เด็กหนุ่มค่อนข้างอ้วน
ผู้นั้นก็ได้พูดขึ้นด้วยความโมโหอีกครั้งว่า “หลินหยุน นายเป็นใบ้ไปแล้วเหรอ? ”
“พวกเราไม่สนใจว่านายจะเป็นใบ้หรือหูหนวก ออกไปจากตระกูลฉินตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ทันที! ”
หลินหยุนเบนสายตา มองไปที่ฉินชิงถง และพูดขึ้นว่า “เธอเป็นคนพาเขามาเหรอ? ”
ฉินชิงถงยิ้มเยาะ และพูดขึ้นว่า “แล้วอย่างไรล่ะ? หรือว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง? ”
“นายก็คือคนที่หยิ่งยโสโอหัง และหลงระเริง! ”
“หากไม่ใช่เพราะนาย ตระกูลฉินของพวกเราจะตกอยู่ในสภาพที่อันตรายอย่างนี้ได้อย่างไร? ”
“อย่าคิดว่าก่อนหน้านี้ที่นายทำไปก็เพราะพยายามช่วยเหลือฉันเอาไว้! ”
“เพราะว่านั่นไม่ใช่การช่วยเหลือ แต่กลับเป็นการสร้างปัญญาเพิ่มขึ้นไปอีก! ”
“ต่อให้พวกเราไปล่วงเกินท่านจิน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับล่วงเกินในขั้นที่รุนแรง! ”
“ถ้าหากนายไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น พวกเราหลายตระกูลร่วมมือกัน ส่งมอบของขวัญให้กับท่านจิน ก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้แล้ว! ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว! ”
หลินหยุนเคลื่อนสายตาหันมองไปทางฉินชิงถง และพูดขึ้นว่า “ถ้าพูดแบบนี้ เธอไม่ได้คิดว่าฉันช่วยเหลือเธอ แต่กลับเป็นการให้ร้ายเธอ ให้ร้ายตระกูลฉินของพวกเธอ อย่างนั้นใช่ไหม? ”
ฉินชิงถงพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ถูกต้อง! ”
หลินหยุนหัวเราะเบา ๆ
ส่ายศีรษะเล็กน้อย โดยที่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะไปถกเถียงอะไร
ผู้หญิงแบบนี้ เขาไม่อยากที่แม้แต่จะพูดด้วยสักคำด้วยซ้ำ
ส่ายมือไปมา แล้วก็กวาดสายตามองไปที่พวกคนรุ่นหลังของตระกูลฉิน และพูดขึ้นว่า “พอได้แล้วไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้ให้ขัดหูขัดตาอีก พวกนายไปกันได้แล้ว! ”
เด็กหนุ่มรูปร่างอ้วนคนนั้นก็พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “หลินหยุน นายดูให้ดีนะว่า นี่คือตระกูลฉิน
ไม่ใช่บ้านของนายเองสักหน่อย! คนที่สมควรไปก็คือนาย! นายยังจะหน้าด้านไปถึงไหนอีก! ”
“เหอะเหอะ ถ้าหากเขารู้จักถึงความหน้าด้านแล้วล่ะก็ ตอนนี้จะยังคงอยู่ต่อหน้าพวกเราอีกเหรอ? ”
“ถูกต้อง ถ้าเขายังมีความอับอายก็คงจะออกไปจากตระกูลฉินของพวกเราตั้งนานแล้ว! ”
หลินหยุนหันขวับและเบนสายตากลับมาทันที พร้อมกับแกว่งแขนออกไป
แรงที่มองไม่เห็นได้พัดผ่านฉินชิงถงและฉินเฟิงที่อยู่ด้านหน้า พุ่งตรงเข้าใส่ที่เด็กหนุ่มรูปร่างอ้วนคนนั้น
“ฟุบ! ”
เด็กหนุ่มรูปร่างอ้วนกระเด็นลอยไปไกล กระแทกเข้ากับประตู ร้องเจ็บปวดเสียงดัง และกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นอย่างทรมาน
“โอ๊ยแม่ง เจ็บ เจ็บปวดเหลือเกิน! ”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้ฉินชิงถงกับฉินเฟิงตกใจตกใจอย่างมากจนสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปในทันที
ฉินชิงถงจ้องไปที่หลินหยุนและพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “หลินหยุน นายช่างกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว! นายกล้าที่จะลงมือทำร้ายคนของตระกูลฉิน? ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ฉันลงมือแล้ว คุณจะทำอย่างไรล่ะ? ”
“นาย......”
ฉินชิงถงโมโหอย่างที่สุด แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย
ทำเป็นเล่นไป ระดับการบำเพ็ญของหลินหยุนนั้นสามารถเอาชนะยอดฝีมือแดนยาทองได้เลย
ฉินเฟิงที่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรนั้น ในที่สุดก็ได้พูดขึ้นแล้ว
เขามองไปที่หลินหยุน และพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “หลินหยุน ฉันคือฉินเฟิง เป็นพี่ชายของฉินชิงถง! ”
หลินหยุนละสายตามาจากตัวของฉินชิงถง แล้วเบนสายตาไปที่ฉินเฟิง
ฉินเฟิงพูดต่อว่า “ฉันเชื่อว่าที่นายลงมือที่ตึกจุ้ยซิงนั้น ก็เพื่อช่วยเหลือฉินชิงถง! ”
ได้ยินฉินเฟิงพูดแบบนี้แล้ว ฉินชิงถงก็รีบพูดขึ้นโดยพลันว่า “พี่ฉินเฟิง......”
ฉินเฟิงส่ายมือทันที โดยที่ไม่ต้องการให้เธอพูดต่อไปอีก
จากนั้นก็พูดกับหลินหยุนต่อว่า “แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การกระทำของนายก่อนหน้านี้นั้นได้นำมาซึ่งปัญหาความเดือดร้อนให้กับตระกูลฉินอย่างมากที่สุด! ”
“ตอนนี้ ท่านจินได้นำเรื่องดังกล่าวแจ้งไปยังวิหารผนึกวิญญาณผู้อยู่เบื้องหลังของเขาแล้ว! ”
“เมื่อคนของวิหารผนึกวิญญาณมาถึง คงจะต้องลงมืออีกครั้งอย่างแน่นอน! ”
“แม้ว่าเป้าหมายสำคัญอันดับแรกคือนาย! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...