จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1153

“เจ้าเมืองเหรอ?”

“อำนาจบารมียิ่งใหญ่จริงๆเลยนะ!”

“เป็นแค่คนใช้คนหนึ่ง ยังจะกล้ามาพูดจาสามหาวต่อหน้าฉันเหรอ?”

“ต่อให้เป็นโจงหมิงอยู่ที่นี่ แกไปลองถามเขาสิว่าเขากล้าหรือเปล่า?”

“ถ้ายังพูดมากอีก ตาย!”

เมื่อสิ้นเสียง ก็เกิดพลังแรงระเบิดออกมา แล้วไปปะทะกับลมปราณของพ่อบ้านโจงที่ปกคลุมไว้จนแตกละเอียด

ภายในห้องจองเบอร์สิบสี่นั้น ร่างของพ่อบ้านโจงถูกกระแทกอย่างแรง จากนั้นสีหน้าก็ขาวซีด แล้วกระอักเลือดออกมา

แววตาฝ้าฟางที่ขุ่นมัว ก็แสดงความหวาดกลัวออกมา

คนนี้เป็นใครกัน?

ถึงกับกล้าเรียกชื่อของเจ้าบ้านโดยตรง

อีกทั้งยังไม่เห็นเจ้าบ้านอยู่ในสายตาเลย

แต่ว่าตอนนี้เขากลับไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว

พลังฝึกฝนของอีกฝ่ายหนึ่งแข็งแกร่งกว่าตัวเขามากทีเดียว!

ทั้งสองคนนี้ต่างก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย!

ตอนนี้ ทุกคนต่างก็รู้สึกช็อกไปตามๆกัน

ภายในสถานที่จัดงานประมูล ก็ไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหมือนเมื่อครู่นี้อีกแล้ว

บนเวที

ไป่เหอก็เปิดปากพูดขึ้นว่า “ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านคะ ที่นี่คือหอไป่เต้า ทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่ต่างก็เป็นแขกผู้ทรงเกียรติของหอไป่เต้าพวกเราทั้งนั้น!”

“ไม่ว่าทุกท่านจะมีฐานะอะไรมาจากไหน ตอนนี้ขอให้ทุกท่านเห็นแก่หน้าหอไป่เต้าเราด้วยค่ะ!”

“ภายในหอไป่เต้า ไม่อนุญาตให้มีการลงมือกัน!”

“ถ้าหากเกิดเหตุการณ์เมื่อครู่นี้อีก งั้นก็ต้องเชิญทุกท่านออกไปแล้วค่ะ!”

“และขอให้ทุกท่านอย่าได้สงสัยเลยว่า หอไป่เต้าเรา จะเพียบพร้อมด้วยพลังอำนาจเช่นนี้หรือไม่เลย!”

พูดจบ สีหน้าที่เคร่งขรึมบนใบหน้าของไป่เหอ ก็กลายเป็นรอยยิ้มเล็กๆเข้ามาแทนที่อีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นก็พูดว่า “ค่ะ มาประมูลต่อไปนะคะ แขกห้องจองเบอร์สิบสองเสนอราคาหนึ่งหมื่นสี่พันหยดน้ำชี่ทิพย์! ยังมีใครให้ราคาอื่นอีกไหมคะ?”

เดิมทีทุกคนต่างก็คิดว่าหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อครู่นี้ จะไม่มีใครเสนอราคาออกมาอีกแล้ว！

ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวเยือกเย็นในห้องจองเบอร์เจ็ดนั้น ก็ไม่กล้าที่จะเสนอราคาออกมาอีกแล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่า ทุกคนทายถูกแค่ส่วนเดียวเท่านั้น แต่ยังทายไม่ถูกทั้งหมด

หญิงสาวเยือกเย็นคนนั้นไม่ได้เสนอราคาก็จริง แต่ว่า มีอีกคนที่นั่งอยู่ห้องโถงใหญ่ตรงชั้นล่างกลับเปิดปากพูดว่า

“หนึ่งหมื่นห้าพันหยดน้ำชี่ทิพย์!”

ทุกคนต่างก็ตกใจทันที แล้วรีบหันไปมองตามต้นเสียงนั้น

ก็ได้เห็นคนที่ยกมือเสนอราคาคือ.........ฉู่เทียน

เป็นเจ้าเด็กตระกูลฉู่นั่นเอง!

เขากล้าเช่นนั้นได้ยังไง?

คนที่อยู่ในห้องจองเบอร์สิบสองนั้น แม้แต่เจ้าเมืองโจงหมิงก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตาเลย

ฉู่เทียนในตอนนี้ ยังจะสวนกระแสขึ้นมา........

แต่ในไม่ช้า ทุกคนต่างก็เข้าใจแล้ว

ตอนนี้ฉู่เทียนเป็นลูกศิษย์คนโปรดของสำนักสุริยันแล้ว อีกทั้งอาจารย์ของเขาก็อยู่ในตระกูลฉู่ด้วย

เห็นได้ชัดว่า ฉู่เทียนต้องการซื้อหินคริสทัลฟ้า จะต้องเกี่ยวพันกับอาจารย์คนนั้นของเขาอย่างแน่นอน

มิหนำซ้ำยังเกี่ยวพันถึงสำนักสุริยันอีกด้วย!

เมื่อได้ยินฉู่เทียนเอ่ยปากพูดแล้ว ชายไว้หนวดที่อยู่ห้องจองเบอร์สิบสอง ก็พูดด้วยเสียงเย็นชาทันทีว่า “หินคริสทัลฟ้าชิ้นนี้ ฉันจองแล้ว!”

“ฉันจะเสนอราคาใหม่อีกครั้ง!”

“ถ้าหากยังมีคนเสนอราคาเพิ่มอีกละก็......”

“ต้องรับผิดชอบต่อผลการกระทำของตัวเองด้วย!”

ข่มขู่!

เป็นการข่มขู่กันต่อหน้าต่อตา!

ความจริงก็เหมือนกับพ่อบ้านโจงเมื่อครู่ทุกอย่าง!

เพียงแต่ว่า พลังฝึกฝนของชายไว้หนวดแข็งแกร่งกว่า

“หนึ่งหมื่นห้าพันหนึ่งหยดน้ำชี่ทิพย์!”

หนึ่งหมื่นห้าพันหนึ่ง!

เพิ่มขึ้นเพียงแค่หยดเดียว！

ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบ

และมองหน้ากันและกัน

จากนั้นสายตาทุกคู่ก็ไปตกอยู่ที่ตัวของฉู่เทียน

คนที่อยู่ข้างกายเขา ฉินชิงถงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

จึงพูดกระซิบกับฉู่เทียนว่า “พี่เทียน พวกเรา......ยังจะเสนอราคาประมูลต่ออีกไหม?”

ฉู่เทียนยิ้มอย่างไม่แยแสแล้วพูดว่า “ชิงถง ไม่ต้องเป็นห่วง! อยู่ที่นี่ ยังไม่มีใครสามารถข่มขู่ฉัน ข่มขู่สำนักสุริยันพวกเราได้หรอก!”

พูดพลาง เขาก็ยกมือขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “หนึ่งหมื่นหกพันหยดน้ำชี่ทิพย์!”