การเลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวหลินหยุน ก็เหมือนกับแขนทั้งสองข้างของตาชั่ง
ถ้าชนะแล้ว!
ตระกูลหยุนก็จะกลับมาผงาดขึ้นใหม่อีกครั้ง!
ถ้าแพ้แล้ว!
มีความเป็นไปได้มากที่ตระกูลหยุนจะล่มสลายกลายเป็นเถ้าถ่านไปเลย!
แต่ว่าเขายังคงตัดสินใจที่จะเดิมพันสักครั้งหนึ่ง!
แทนที่จะรอความตายอย่างช้าๆ แล้วหันมาสู้ให้ถึงที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ!
หลินหยุนยื่นมือไปรับชี่ทิพย์ไว้ แล้วมองไปไป่เหอที่อยู่บนเวที “จะประมูลต่อได้หรือยังล่ะ?”
ไป่เหอยิ้มเล็กน้อย “ได้แน่นอนเลยค่ะ!”
พูดพลางเธอก็มองไปยังฉู่เทียนและฉื้อซานแล้วพูดว่า “ทั้งสองท่าน ยังจะเสนอราคาประมูลอีกหรือไม่คะ?”
ฉู่เทียนสีหน้าแลดูน่าเกลียดยิ่งนัก
ในตัวของเขา ก็มีน้ำชี่ทิพย์เพียงสองหมื่นหยดเท่านั้นเอง!
ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เสนอราคาประมูลใหม่อีก ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
ฉื้อซานมองไปยังหลินหยุน แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ไอ้หนู ของบางอย่างไม่ใช่คนอย่างแกจะสามารถเอาไปได้!”
“ในบางครั้ง ของวิเศษมันสำคัญมากก็จริง!”
“แต่ชีวิตตัวเองกลับสำคัญยิ่งกว่า!”
หลินหยุนทำเสียงฮื่อใส่ “มดตัวน้อยอย่างแก ก็ยังกล้าจะมาคุยโวต่อหน้าฉันเหรอ?”
“แม้แต่ค่ายกลของวิลล่าจินก็ยังไม่สามารถทำลายได้เลย!”
“ไสหัวไป!”
ฉื้อซานโกรธจัด สีหน้าบึ้งตึงมาก กัดฟันแล้วพูดเยาะเย้ยว่า “เจ้าหนู แกคิดว่าฉันทำลายค่ายกลของวิลล่าจินนั้นไม่ได้งั้นเหรอ?”
“จะบอกแกให้ ฉันเพียงแต่รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต่างหาก!”
“ฮื่อ ตอนนี้หินคริสทัลฟ้านี้ให้แกเอาไปก็แล้วกัน”
“ฉันจะให้แกรู้ว่า อะไรเรียกว่ามีชีวิตเอาของวิเศษไปได้ แต่กลับไม่มีชีวิตที่จะเอาไปใช้!”
พูดพลางก็หันไปมองฉู่เทียนแล้วพูดว่า “ศิษย์น้อย พวกเราไปเถอะ!”
ทั้งสองคนก็ก้าวเดินออกไปจากที่จัดงานประมูล
ฉินชิงถงก็รีบเดินตามหลังไป
เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าหลินหยุนแล้วหยุดลง มองไปยังหลินหยุนด้วยความเกลียดชัง “หลินหยุน คุณจะต้องชดใช้ในความยโสโอหังของคุณอย่างสาสม!”
หลินหยุนพูดเยาะเย้ยว่า “ฉินชิงถง วิสัยทัศน์ของคุณ กำหนดให้คุณเป็นได้แค่กบในกะลาเท่านั้นเอง!”
“ในสายตาของคุณแล้ว ฉันอาจจะยโสก็จริง!”
“แต่ว่าคุณจะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า คุณกำลังพูดอยู่กับใครอยู่!”
“ฉันไม่อยากจะถือสาคุณเพราะว่าเห็นแก่แม่ของคุณเท่านั้นเอง!”
“แต่ว่า อย่าได้คืบจะเอาศอก!”
พอพูดจบ ก็ไม่หันไปมองฉินชิงถงอีก หันหลังแล้วเดินไปบนเวทีงานประมูล
ส่งมอบหยดน้ำชี่ทิพย์ไปให้ แล้วเอาหินสังเวยจิตเก็บไว้ในถุงผ้า
จากนั้นก็พาหยุนหลานและหยุนถิงสองคนพ่อลูก เดินออกจากหอไป่เต้าไปท่ามกลางสายตาที่สนใจของทุกคน
เมื่อเดินออกมาถึงข้างนอก สายตาของหลินหยุนส่องประกายวาววับ แล้วหยุดเดินทันที
กระแสกลิ่นอายรุนแรงสองสายก็ล็อกตัวเขาเอาไว้
หยุนหลานก็รีบพูดว่า “เป็นอะไรเหรอ?”
หลินหยุนส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ! ฉันยังมีธุระจะต้องไปจัดการก่อน!”
พอพูดจบ เงาร่างก็เหาะลอยขึ้นกลางอากาศ มุ่งหน้าไปยังข้างนอกเมือง
ในไม่ช้า ลำแสงสีเขียวทั้งสองก็ไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว
หลินหยุนส่งเสียงฮื่อแล้วหยุดตัวลง
ลำแสงสีเขียวทั้งสองก็แยกย้ายมาปรากฏอยู่ตรงหน้าซ้ายขวาทันที
ทั้งสองคนนี้ก็คือฉื้อซาน และยังมีชายวัยกลางคนไว้หนวดคนนั้น
ฉื้อซานกวาดสายตามองไปยังชายวัยกลางคน แล้วพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันนึกว่าเป็นใคร ที่แท้ก็เป็นเจ้าตัวแสบจากวิหารผนึกวิญญาณนี่เอง มิน่าล่ะถึงได้ทำตัวลับๆล่อๆ!”
ชายวัยกลางคนพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ฉื้อซาน แกกำลังรนหาที่ตาย! รอให้ฉันจัดการเจ้าเด็กนี้ก่อน แล้วจะมาจัดการกับแกทีหลัง!”
ฉื้อซานพูดเยาะเย้ยว่า “อู๋หุน เจ้าเด็กนี่แย่งหินคริสทัลฟ้าของฉันไป! ถ้าแกฆ่าเขาแล้ว งั้น หินคริสทัลฟ้านี้ก็จะกลายเป็นของแกแล้วสิใช่ไหมล่ะ?”
“แกนี่ช่างดีดลูกคิดได้ดังดีจัง!”
ในเวลานี้เอง ก็มีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาประมาณสิบกว่าสายพุ่งเข้ามาจากเมืองมี่หยุน
แต่ว่ากลับไม่ได้เข้ามาใกล้
หยุดอยู่ที่ที่ห่างไกลออกไป
กลุ่มคนพวกนี้ บางคนก็เป็นเจ้าบ้านของแต่ละตระกูลใหญ่
บางคนก็เป็นยอดฝีมือที่พาคนรุ่นหลังของตระกูลมาสมัครเข้าร่วมประเมิน เนื่องจากการ ประเมินผลงานของสำนักสุริยันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ก็ได้เห็นหลินหยุนทั้งสามคนที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ กำลังจะเกิดการสู้รบกันขึ้น
ฉื้อซานและอู๋หุนที่กำลังถกเถียงกันว่าใครจะเป็นคนลงมือฆ่าหลินหยุนก่อน ทุกคนต่างก็พูดไม่ออก
“คราวนี้มีละครดีๆให้ดูอีกแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...