จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1157

สรุปบท บทที่ 1157 ยายั้งอายุ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1157 ยายั้งอายุ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1157 ยายั้งอายุ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ชายชราพยักหน้าอย่างยากลำบาก จากนั้นก็มองไปยังหยุนถิง

“หยุนถิง นายยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

หยุนถิงโค้งตัวทำความเคารพชายชราแล้วพูดว่า “ท่านพ่อครับ ผมเป็นเจ้าบ้าน หยุนหลาน ยัยคนนี้ย่อมไม่สามารถทำแทนผมได้!”

“ดังนั้น ลูกขอยอมรับผิดทุกอย่างครับ!”

ชายชราพยักหน้าอีกครั้ง “งั้นก็ดี นายก็ไปนั่งสำนึกผิดที่ข้างเตาไฟประจำตระกูลหยุนเราเป็นเวลาสิบปีก็แล้วกัน!”

เมื่อได้ยินชายชราพูดเช่นนั้น หยุนหลานก็ร้อนใจทันที

“ท่านปู่!”

ชายชราโบกมือ “เสี่ยวหลาน นี่คือความผิดที่พ่อแกควรจะรับผิดชอบ ไม่ต้องพูดอีกแล้ว!”

หยุนหลานได้ยินแล้ว น้ำตาก็ไหลนองเต็มหน้า

ตัวเองผิดไปแล้วจริงหรือ?

หลินหยุน คุณตายแล้วจริงเหรอ?

หรือว่าคุณจะไม่กลับมาอีกแล้วเหรอ?

ในเวลานี้เอง ก็มีลำแสงสีเขียวสว่างจ้าขึ้นมา

มีเงาร่างคนหนึ่ง จู่ๆก็ปรากฏขึ้นที่ห้องโถงใหญ่

เมื่อเห็นคนที่มานั้น ทุกคนต่างก็ตกใจหน้าถอดสี รีบถอยหลังออกไป

แต่เมื่อหยุนหลานหันหลังกลับไปมอง ก็ดีใจจนน้ำตาไหล

“หลินหยุน!”

“คุณกลับมาจริงๆแล้ว!”

“ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องกลับมาอย่างแน่นอนเลย!”

สิ่งที่กังวลอยู่ในใจก็หายไปจนหมดสิ้น

หยุนหลานน้ำตาคลอเบ้า

หยุนถิงก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

“น้องหลินหยุน คุณ…คุณไม่เป็นไรจริงๆด้วย! ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว!”

หลินหยุนพยักหน้า กวาดสายตามองไปยังผู้คนทั้งหลาย

เมื่อเห็นหยุนถิงคุกเข่าลงกับพื้น ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”

หยุนถิงรีบพูดว่า “น้องหลินหยุน คืออย่างนี้ นี่คือพ่อของฉัน! ที่เหลืออีกหลายคนพวกนี้ คือพี่น้องของคนแซ่หยุน”

หลินหยุนก็เดาสถานการณ์ออกแล้ว จึงมองไปยังหยุนถิงแล้วพูดว่า “ลุกขึ้นเถอะ! สหายของฉัน ไม่ต้องคุกเข่าให้ใครอีกแล้วนะ!”

ในใจหยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งมาก แต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาจริงๆ

คำพูดของหลินหยุนทำให้คนตระกูลหยุนหลายคนที่ยืนอยู่ข้างๆต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

ชายวัยกลางคนที่ลุกขึ้นมาพูดก่อนหน้านั้น ก็พูดเยาะเย้ยว่า “หลินหยุนใช่ไหม? พูดจาสามหาวจริงๆ!”

“ที่นี่เป็นบ้านตระกูลหยุนเรา!”

“เรื่องของตระกูลหยุน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนนอกอย่างคุณเลย!”

“ขอเชิญคุณรีบออกจากที่นี่ซะ!”

พวกเขาต่างก็รู้แล้วว่า หลังจากที่ออกมาจากหอไป่เต้าแล้วหลินหยุนก็เดินจากไปลำพังเพียงคนเดียว

ไม่รู้ว่าไปไหนแล้ว

พวกเขาก็รู้ว่า ฉื้อซานผู้อาวุโสสามแห่งสำนักสุริยัน แล้วยังมีคนที่ดูเหมือนเป็นคนของวิหารผนึกวิญญาณ ต่างก็ไม่ยอมปล่อยหลินหยุนไปอย่างแน่นอน

พวกเขาก็ได้รับข่าวสารที่แม่นยำว่า

ทั้งสามคนก็ได้ต่อสู้กันอยู่นอกเมือง

หลินหยุนต้องตายแน่นอนแล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่า หลินหยุนถึงกับกลับมาแล้ว!

หรือจะบอกว่าฉื้อซานและยอดฝีมือของวิหารผนึกวิญญาณต่างก็ไม่สามารถทำอะไรหลินหยุนได้เลยหรือ?

นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหลินหยุนกลับมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร

แต่พวกเขากลับรู้เพียงแค่นิดเดียว

จะต้องห้ามไปเกี่ยวข้องกับหลินหยุนเป็นอันขาด!

ไม่เช่นนั้นแล้ว ก็จะไม่มีผลดีอะไรอย่างแน่นอน!

อีกอย่างเมื่อเห็นหลินหยุนพูดจาโอหังเช่นนี้ พวกเขาย่อมไม่เกรงใจเป็นธรรมดา

สายตาหลินหยุนส่องประกายวับ แล้วมองไปยังชายวัยกลางคนที่พูดจาอยู่นั้น

“เสียงดัง!”

ขยับแขนขึ้น ชายวัยกลางคนก็ร้องครวญครางเสียงดัง จากนั้นก็กระเด็นลอยออกไปแล้วชนกับเสาภายในห้องโถงใหญ่อย่างแรง!

“ถ้ายังพูดอย่างนี้อีก ตาย!”

เสียงของหลินหยุนเยือกเย็น เปล่งประกายรังสีพิฆาตออกมา ทำให้ทุกคนต่างก็ตกใจหน้าถอดสี ตื่นกลัวจนอ้าปากค้างไปตามๆกัน

สายตาที่มองไปยังหลินหยุน ก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา

หลินหยุนก็มองไปยังหยุนหลานและหยุนถิงสองคนพ่อลูก แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “ก่อนหน้านี้พวกคุณสองพ่อลูกได้ช่วยเหลือฉันไว้ ฉันเคยพูดว่าจะตอบแทนคืนให้สิบเท่า ตอนนี้ พวกคุณไปเตรียมวัสดุมา ฉันจะลงมือกลั่นยาระดับดำจำนวนสิบเม็ดให้พวกคุณ”

“หา!”

หยุนหลานทำตาเขม็ง ร้องเสียงหลงออกมา

ในใจของคนตระกูลหยุนที่เหลือทุกคนต่างก็แตกตื่นราวกับคลื่นพายุโหมกระหน่ำ!

นี่หลินหยุน ที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรือ?

สังหารฉื้อซานแล้ว….

นี่เป็นไปได้ยังไง?

อู๋หุนแห่งวิหารผนึกวิญญาณ นั้นเป็นถึงทูตผนึกวิญญาณลำดับที่สี่ของวิหารอีสานไม่ใช่เหรอ?

ยังไม่กล้าลงมือแล้วหนีไปเหรอ?

เช่นนั้นแล้วความน่าสะพรึงกลัวของหลินหยุนถึงขั้นไหนกันแน่?

พวกเขาต่างก็ไม่กล้ามองหน้าหลินหยุนโดยตรงด้วยซ้ำไป

ผ่านไปไม่นาน หยุนถิงก็กลับมาจากไปซื้อวัสดุทิพย์แล้ว

หลินหยุนเก็บวัสดุทิพย์นั้นไว้ หันหลังกลับแล้วเดินออกจากห้องโถงไป

ด้วยพลังความสามารถของเขาตอนนี้แล้ว ถ้าจะกลั่นยาระดับดำในปริมาณจำนวนมากนั้นก็ยังค่อนข้างเหนื่อยเช่นกัน

แต่ว่ามียาชนิดหนึ่งกลับไม่ค่อยมีปัญหามากนัก

นั้นก็คือยายั้งอายุ

ยาชนิดนี้ ถึงแม้ในสายตาเขาไม่มีประโยชน์อะไรก็ตาม

แต่เขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่า ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็มีราคาที่สูงลิบลิ่วทั้งนั้น

อีกทั้งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย

วัสดุทิพย์ทั้งหมดก็ถูกนำมาวางเรียบร้อยแล้ว หลินหยุนก็เริ่มลงมือกลั่นยา

ในไม่ช้า

กลิ่นหอมอบอวลของยาก็โชยออกมา

หลังจากผ่านเคล็ดลับการปรุงยาแล้ว

ยาจำนวนสิบกว่าเม็ดก็ถูกเขาดึงขึ้นมา

เมื่อเห็นสีสันของยาแล้ว หลินหยุนก็พยักหน้าด้วยความพอใจ

แล้วแยกยาสิบเม็ดมาเก็บไว้ในขวดหยกชิ้นหนึ่ง ที่เหลืออีกหลายเม็ดก็เก็บใส่ขวดหยกอีกใบหนึ่ง แล้วนำไปเก็บไว้ในแหวนเก็บของ

ยาไม่กี่เม็ดนี้รอให้ออกจากโลกคุนชาง กลับไปยังโลกมนุษย์แล้ว ก็จะส่งมอบให้กับแม่แก่และพี่ฉินหลัน ยังมีอีหลิงยัยเด็กคนนั้น

เชื่อว่าพวกเธอจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์