จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1162

สรุปบท บทที่ 1162 แกมีเจตนาอะไร: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1162 แกมีเจตนาอะไร จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1162 แกมีเจตนาอะไร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

มองดูฝานฉิงทั้งสามคนที่ไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย

หลินหยุนกลับไม่ได้พูดอะไร

คนที่โกรธจัดกลับเป็นซิงเฟย!

มองไปยังฝานฉิงทั้งสามคน ซิงเฟยตะคอกด้วยเสียงโกรธว่า “ไอ้หน้าด้านพวกแกทั้งสามคนพูดอะไร?”

“ที่แท้ก็เป็นแค่โจรดักปล้นระหว่างทางเท่านั้นเอง!”

“ฉันว่าต่อให้พวกแกเป็นโจร ก็เป็นแค่โจรกระจอกเศษสวะที่ไม่มีอนาคต และน่าขยะแขยงที่สุดเลย!”

“ถึงกับกล้าพูดจาลามปามฉันอย่างไม่รู้จักยำเกรงขนาดนี้!”

“ฉันว่าสุนัขทั้งสามตัวอย่างพวกแกกำลังรนหาที่ตายชัดๆ!”

“ตอนนี้ถ้าพวกแกยอมเชื่อฟังคำพูดของฉันอย่างฉัน!”

“จัดการฆ่าเจ้าเด็กคนที่อยู่ข้างหน้าฉัน ฉันเกิดพอใจขึ้นมาละก็ อาจไม่แน่ว่าจะไว้ชีวิตเศษขยะทั้งสามที่ต่ำต้อยอย่างพวกแกก็ได้นะ!”

“ถ้าหากไม่เชื่อฟังละก็ งั้นฉันก็จะส่งพวกแกไปลงนรกเลย!”

“ไอ้พวกนี้ไม่รู้จักความตายเป็นยังไงซะแล้ว!”

ได้ยินซิงเฟยพูดเช่นนี้แล้ว ฝานฉิงทั้งสามคนรู้สึกอึ้งไปทันที

แต่กลับทำให้ฉินเหมยที่อยู่ข้างๆตกใจจนสติแตก

“อาหญิงน้อย อาพูดซี้ซั้วอะไร?”

“ท่านพูดอย่างนี้ได้ยังไง?”

ซิงเฟยทำเชิดหน้าใส่ “ใครให้เจ้าเด็กที่มารังแกฉันล่ะ!”

“เป็นไงเหรอ ปวดใจหรือไง?”

“งั้นก็รีบให้ชู้รักของแกคนนี้ปล่อยฉันไปด่วนเลย!”

ฉินเหมยรีบมองไปทางหลินหยุน “เสี่ยวหยุน หรือเอาอย่างนี้........”

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เงาร่างหายแวบออกจากรถไป เหาะตัวขึ้นกลางอากาศ แล้วไปปรากฏอยู่ตรงหน้าของฝานฉิงทั้งสามคน

ไม่พูดพร่ำทำเพลง หลินหยุนก็ระเบิดกระแสลมปราณในตัวออกมาทันที

“ท่าสยบเขาในสิบแปดท่าต้าเต๋า!”

ทันใดนั้น พลังแรงอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถถล่มภูเขาทลายแม่น้ำก็ระเบิดออกมา

ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสีไปในทันที

รับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของกระบวนท่านี้ของหลินหยุนแล้ว ฝานฉิงทั้งสามคนหน้าถอดสีทันที รีบลอยตัวขึ้นไปด้วยความหวาดกลัว

ได้ยินแต่ปานซิงพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “พี่ใหญ่ น้องสาม เจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดาเลย พวกเราลงมือพร้อมกันเถอะ!”

“วิชาแก่นแท้เฮยสุ่ย!”

“ภูเขายักษ์!”

“ภูเขายักษ์!”

ทันใดนั้น บริเวณรอบนอกของฝานฉิงก็เกิดแสงประกายสีดำมหึมากระจายออกมา แทบจะปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

ในเวลาเดียวกัน ปานซิงและปานเลี่ยทั้งสองคนพี่น้องก็กลายร่างเป็นยักษ์สูงขนาดหลายร้อยฟุตทันที

ในมือของคนทั้งสองคนต่างก็ถือขวานยักษ์ไว้

เล็งตรงไปยังหลินหยุนทางนั้นแล้วจามลงไปอย่างแรงทันที

ขวานยักษ์กรีดทะลุกลางอากาศ ราวกับทำให้เกิดการบิดตัวเคลื่อนไหวของอากาศอย่างรุนแรง

พลังหมัดอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถถล่มภูเขาทลายแม่น้ำของหลินหยุน ก็ได้ปะทะกับพลังจากมังกรสีดำตัวหนึ่ง และพลังแรงจากขวานยักษ์ทั้งสองจนพังทลายลงทันที

“ปั้ง!”

หางของมังกรยักษ์ก็สะบัดออกอย่างแรง จนทำให้หลินหยุนกระเด็นลอยออกไป

ตีลังกาออกไปหลายร้อยเมตร จึงจะหยุดลงและยืนอยู่กลางอากาศได้อีกครั้งหนึ่ง

สายตาส่องประกายวาววับ หลินหยุนก็แอบพยักหน้าในใจ “ทั้งสามคนนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่โจรก็จริง แต่วิธีการฝึกฝนก็น่าสนใจอยู่! มิน่าล่ะถึงได้ยึดภูเขาที่อยู่ระหว่างเมืองมี่หยุนกับเทียนเฟิง แล้วตั้งตัวเป็นใหญ่ได้!”

หลินหยุนถูกซัดจนถอยออกไป ฝานฉิงทั้งสามคนก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที

ฝานฉิงตะคอกเสียงแข็งว่า “ไอ้หนู ตอนนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”

“ไอ้หนูอย่างแกสามารถรับแรงกระแทกจากพวกเราสามคนพี่น้องรวมกันไว้ได้ ก็ถือว่าน่าภาคภูมิใจแล้วนะ!”

“ถ้าหากยังไม่รู้จักเตรียมตัวอีกละก็ งั้นพวกเราทั้งสามก็คงต้องส่งแกไปขึ้นสวรรค์แล้วนะ!”

หลินหยุนทำเสียงฮื่อใส่ แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “งั้นเหรอ? งั้นฉันก็ส่งแกไปสำรวจเส้นทางที่จะไปสวรรค์ก่อนก็แล้วกัน!”

“พลิกฟ้าผ่าตะวันในสิบแปดท่าต้าเต๋า!”

พลังแรงสะท้านฟ้าที่สามารถถล่มภูเขาแม่น้ำ มากพอที่ดับดวงดาวได้ ก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง

เมื่อได้รับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังแรงที่ถล่มเข้ามาอย่างกะทันหันเช่นนี้ เดิมทีฝานฉิงทั้งสามคนที่ยังยืนเชิดหน้าอยู่เมื่อครู่นี้ ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

“นี่.......เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน?”

“ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”

“เขาฝึกวิชาที่สืบทอดมาจากไหนกันแน่?”

“พี่ใหญ่ น้องสาม หนีเร็ว!”

กระบวนท่านี้ของหลินหยุนทำให้พวกเขาไม่สามารถคิดที่จะต่อต้านได้เลย ความคิดอย่างเดียวก็คือต้องรีบหนีไปให้พ้นเท่านั้น

เธอรีบกระโดดลงมาจากรถทันที จับแขนของหลินหยุนไว้ พูดอย่างตื่นเต้นอย่างสุดซึ้งว่า “หลินหยุน แกรีบบอกฉันมาว่า แกทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”

“โอ้สวรรค์!”

“แกสู้กับฝานฉิงทั้งสามคนเพียงลำพังคนเดียว ถึงกับยังชนะอีกเหรอ?”

“ไม่เพียงแต่เท่านี้ ยังฆ่าพวกเขาตายไปสองคน แล้วถล่มเนื้อตัวของฝานฉิงจนแหลกไปอีกด้วย!”

“แกเป็นตัวสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่!”

หลินหยุนกวาดสายตามองเธอแล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “ปล่อยมือ!”

นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ ท่าทางของหลินหยุนเช่นนี้ จะต้องทำให้ซิงเฟยโกรธจัดอย่างแน่นอน!

แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้ามเลย

ได้ยินคำพูดของหลินหยุนแล้ว ก็รีบปล่อยมือตัวเองที่จับหลินหยุนไว้ทันที

สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ซิงเฟยก็รีบถามอีกครั้งหนึ่งว่า “แกบอกมาเร็วสิ! ทำไมแกถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้!”

“ฉันเห็นแกเมื่อกี้แสดงอิทธิฤทธิ์สองครั้งออกมา ถึงกับมีพลังของกฎเกณฑ์ต้าเต๋าบางอย่างด้วย!”

“วิทยายุทธ์ของแกได้รับการสืบทอดจากไหนกันแน่?”

“เบื้องหลังของแกจะต้องไม่ธรรมดาเลยใช่ไหม?”

“ในเมื่อแกมีเบื้องหลังที่มั่นคง พรสวรรค์ก็ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกคุนชางอย่างแน่นอน!”

“บางที ในอนาคตจะมีโอกาสสัมผัสถึงแดนใหญ่จิตปฐมที่เลื่องลือในตำนานได้ก็ไม่แน่!”

“แล้วทำไมแกถึงต้องมาอยู่กับหลานสาวของฉันคนนี้ด้วยล่ะ?”

“อายุของพวกแกสองคนก็แตกต่างกันมากขนาดนี้!”

“อีกอย่างตอนนี้เธอก็แก่หงำเหงือกแล้ว!”

“ทำไมแกยังจะไปอยู่กับเธออีก?”

“แม้กระทั่งเรียกเธอว่าน้าก็ยอม แกบอกมาเร็ว ว่าแกมีจุดประสงค์อะไรกันแน่!”

“อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะความรักอะไรนั่น!”

“ฉันไม่มีวันเชื่อหรอก!”

“แกอย่ามาหลอกฉันเลย ฉันฉลาดมากพอ ฉันจะบอกแกไว้เลยนะ!”

“ถ้าแกพูดโกหกละก็ฉันก็จะเปิดโปงแกให้หมดทันทีเลย!”

หลินหยุน “..........”

ฉินเหมย “..........”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์