มองดูฝานฉิงทั้งสามคนที่ไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย
หลินหยุนกลับไม่ได้พูดอะไร
คนที่โกรธจัดกลับเป็นซิงเฟย!
มองไปยังฝานฉิงทั้งสามคน ซิงเฟยตะคอกด้วยเสียงโกรธว่า “ไอ้หน้าด้านพวกแกทั้งสามคนพูดอะไร?”
“ที่แท้ก็เป็นแค่โจรดักปล้นระหว่างทางเท่านั้นเอง!”
“ฉันว่าต่อให้พวกแกเป็นโจร ก็เป็นแค่โจรกระจอกเศษสวะที่ไม่มีอนาคต และน่าขยะแขยงที่สุดเลย!”
“ถึงกับกล้าพูดจาลามปามฉันอย่างไม่รู้จักยำเกรงขนาดนี้!”
“ฉันว่าสุนัขทั้งสามตัวอย่างพวกแกกำลังรนหาที่ตายชัดๆ!”
“ตอนนี้ถ้าพวกแกยอมเชื่อฟังคำพูดของฉันอย่างฉัน!”
“จัดการฆ่าเจ้าเด็กคนที่อยู่ข้างหน้าฉัน ฉันเกิดพอใจขึ้นมาละก็ อาจไม่แน่ว่าจะไว้ชีวิตเศษขยะทั้งสามที่ต่ำต้อยอย่างพวกแกก็ได้นะ!”
“ถ้าหากไม่เชื่อฟังละก็ งั้นฉันก็จะส่งพวกแกไปลงนรกเลย!”
“ไอ้พวกนี้ไม่รู้จักความตายเป็นยังไงซะแล้ว!”
ได้ยินซิงเฟยพูดเช่นนี้แล้ว ฝานฉิงทั้งสามคนรู้สึกอึ้งไปทันที
แต่กลับทำให้ฉินเหมยที่อยู่ข้างๆตกใจจนสติแตก
“อาหญิงน้อย อาพูดซี้ซั้วอะไร?”
“ท่านพูดอย่างนี้ได้ยังไง?”
ซิงเฟยทำเชิดหน้าใส่ “ใครให้เจ้าเด็กที่มารังแกฉันล่ะ!”
“เป็นไงเหรอ ปวดใจหรือไง?”
“งั้นก็รีบให้ชู้รักของแกคนนี้ปล่อยฉันไปด่วนเลย!”
ฉินเหมยรีบมองไปทางหลินหยุน “เสี่ยวหยุน หรือเอาอย่างนี้........”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เงาร่างหายแวบออกจากรถไป เหาะตัวขึ้นกลางอากาศ แล้วไปปรากฏอยู่ตรงหน้าของฝานฉิงทั้งสามคน
ไม่พูดพร่ำทำเพลง หลินหยุนก็ระเบิดกระแสลมปราณในตัวออกมาทันที
“ท่าสยบเขาในสิบแปดท่าต้าเต๋า!”
ทันใดนั้น พลังแรงอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถถล่มภูเขาทลายแม่น้ำก็ระเบิดออกมา
ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสีไปในทันที
รับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของกระบวนท่านี้ของหลินหยุนแล้ว ฝานฉิงทั้งสามคนหน้าถอดสีทันที รีบลอยตัวขึ้นไปด้วยความหวาดกลัว
ได้ยินแต่ปานซิงพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “พี่ใหญ่ น้องสาม เจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดาเลย พวกเราลงมือพร้อมกันเถอะ!”
“วิชาแก่นแท้เฮยสุ่ย!”
“ภูเขายักษ์!”
“ภูเขายักษ์!”
ทันใดนั้น บริเวณรอบนอกของฝานฉิงก็เกิดแสงประกายสีดำมหึมากระจายออกมา แทบจะปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
ในเวลาเดียวกัน ปานซิงและปานเลี่ยทั้งสองคนพี่น้องก็กลายร่างเป็นยักษ์สูงขนาดหลายร้อยฟุตทันที
ในมือของคนทั้งสองคนต่างก็ถือขวานยักษ์ไว้
เล็งตรงไปยังหลินหยุนทางนั้นแล้วจามลงไปอย่างแรงทันที
ขวานยักษ์กรีดทะลุกลางอากาศ ราวกับทำให้เกิดการบิดตัวเคลื่อนไหวของอากาศอย่างรุนแรง
พลังหมัดอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถถล่มภูเขาทลายแม่น้ำของหลินหยุน ก็ได้ปะทะกับพลังจากมังกรสีดำตัวหนึ่ง และพลังแรงจากขวานยักษ์ทั้งสองจนพังทลายลงทันที
“ปั้ง!”
หางของมังกรยักษ์ก็สะบัดออกอย่างแรง จนทำให้หลินหยุนกระเด็นลอยออกไป
ตีลังกาออกไปหลายร้อยเมตร จึงจะหยุดลงและยืนอยู่กลางอากาศได้อีกครั้งหนึ่ง
สายตาส่องประกายวาววับ หลินหยุนก็แอบพยักหน้าในใจ “ทั้งสามคนนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่โจรก็จริง แต่วิธีการฝึกฝนก็น่าสนใจอยู่! มิน่าล่ะถึงได้ยึดภูเขาที่อยู่ระหว่างเมืองมี่หยุนกับเทียนเฟิง แล้วตั้งตัวเป็นใหญ่ได้!”
หลินหยุนถูกซัดจนถอยออกไป ฝานฉิงทั้งสามคนก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที
ฝานฉิงตะคอกเสียงแข็งว่า “ไอ้หนู ตอนนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”
“ไอ้หนูอย่างแกสามารถรับแรงกระแทกจากพวกเราสามคนพี่น้องรวมกันไว้ได้ ก็ถือว่าน่าภาคภูมิใจแล้วนะ!”
“ถ้าหากยังไม่รู้จักเตรียมตัวอีกละก็ งั้นพวกเราทั้งสามก็คงต้องส่งแกไปขึ้นสวรรค์แล้วนะ!”
หลินหยุนทำเสียงฮื่อใส่ แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “งั้นเหรอ? งั้นฉันก็ส่งแกไปสำรวจเส้นทางที่จะไปสวรรค์ก่อนก็แล้วกัน!”
“พลิกฟ้าผ่าตะวันในสิบแปดท่าต้าเต๋า!”
พลังแรงสะท้านฟ้าที่สามารถถล่มภูเขาแม่น้ำ มากพอที่ดับดวงดาวได้ ก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
เมื่อได้รับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังแรงที่ถล่มเข้ามาอย่างกะทันหันเช่นนี้ เดิมทีฝานฉิงทั้งสามคนที่ยังยืนเชิดหน้าอยู่เมื่อครู่นี้ ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
“นี่.......เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน?”
“ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”
“เขาฝึกวิชาที่สืบทอดมาจากไหนกันแน่?”
“พี่ใหญ่ น้องสาม หนีเร็ว!”
กระบวนท่านี้ของหลินหยุนทำให้พวกเขาไม่สามารถคิดที่จะต่อต้านได้เลย ความคิดอย่างเดียวก็คือต้องรีบหนีไปให้พ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...