จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1185

สรุปบท บทที่ 1185 กลับไปเมืองสุริยันอีกครั้ง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 1185 กลับไปเมืองสุริยันอีกครั้ง – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1185 กลับไปเมืองสุริยันอีกครั้ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ขณะนี้เอง ในที่สุดฉินห้าวเทียนที่มีสีหน้าหม่นหมองมาโดยตลอดนั้นก็ได้เอ่ยปากพูดแล้ว

“หยุดทะเลาะกันได้แล้ว! ”

“สำหรับเรื่องของหลินหยุน ตั้งแต่วันนี้ไป จบลงเพียงเท่านี้! ”

“ถ้าหากมีใครพูดถึงอีก ก็อย่าได้หาว่าฉันผู้เป็นเจ้าบ้านไม่เกรงใจก็แล้วกัน! ”

“ฉันเองก็จะขอเตือนพวกนายบางคนเอาไว้ด้วย! ”

“มีบางเรื่อง อย่าได้กระทำจนเกินไป มีบางคำพูด ก็อย่าได้พูดจนเกินไป! ”

“พวกนายอาจจะไม่เข้าใจ! ”

“นั่นเป็นเพราะพวกนายไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจ! ”

“แต่ว่าเมื่อไม่เข้าใจแล้วยังจะพูดมั่วซั่วอีก ก็อย่ามากล่าวโทษว่าฉันไม่เกรงใจ! ”

“ฉินชิงถง! เธอไม่เคารพนับถือผู้ใหญ่ แม้แต่แม่บังเกิดเกล้าเธอยังกล้าที่จะพูดลบหลู่ดูหมิ่นซึ่งขัดต่อการอบรมสั่งสอนของตระกูลฉิน! ”

“ตอนนี้เธอมีอยู่สองตัวเลือก! ”

“ข้อแรก ตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลฉินทั้งหมด! จากนี้ต่อไปเธอไม่ใช่คนของตระกูลฉินอีก! ”

“ข้อสอง ไปอยู่ที่เรือนเย็นคิดทบทวนความผิดของตนเองหนึ่งปี! โดยห้ามออกมาด้านนอก! ”

ได้ยินคำพูดของฉินห้าวเทียนแล้ว ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที

ลักษณะท่าทางของแต่ละคนต่างก็เคร่งขรึมและระมัดระวังกันมากขึ้น

พวกคนของตระกูลฉินเหล่านี้ พูดตามตรงก็คือคนในตระกูลของฉินห้าวเทียน

แต่ตระกูลฉินนี้กลับไม่ใช่ฉินห้าวเทียนที่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น

ทุกสิ่งทุกอย่างของที่นี่ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากแม่ของฉินเหมยทั้งหมด!

ไม่มีแม่ของฉินเหมย ก็ไม่มีตระกูลฉินในตอนนี้!

ถึงขนาดกล่าวในอีกความหมายหนึ่งได้ว่า ตระกูลฉินในตอนนี้ คงจะเรียกว่าตระกูลซิง

ฉินห้าวเทียนเหมือนกับว่าเข้ามาในสถานะคู่ครองคนหนึ่ง

นี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมตระกูลซิงแห่งเมืองเทียนเฟิง ถึงไม่ยินยอมที่จะไปมาหาสู่กับตระกูลฉินของพวกเขา

จากมุมมองของตระกูลซิงแล้ว ถึงแม้ฉินห้าวเทียนจะไม่มีความสามารถอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ขนาดลูกสาวของพวกเราก็ยังปกป้องคุ้มครองไม่ได้ นายยังจะมีประโยชน์อะไรอีก?

ดังนั้น ฉินห้าวเทียนก็กำลังเตือนสติพวกคนรุ่นหลังเหล่านี้ในตระกูลให้รู้ว่า ควรจะประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไรให้เหมาะสม

ฉินชิงถงสีหน้าขาวซีด

ราวกับว่าพลังงานในร่างกาย ได้ถูกดูดกลืนไปจนหมดในขณะที่ฉินห้าวเทียนพูดจบลง พร้อมกับโซเซถอยหลังไปหลายก้าว

ฉินชิงถงแสดงท่าทางดื้อรั้นปรากฏออกมาทางสายตา สูดลมหายใจลึก และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “เอาล่ะ! ดูเหมือนว่าเป็นความผิดของฉันทั้งหมด! ”

“ดูเหมือนว่าในตระกูลนี้ ฉันคงจะไม่มีที่ให้ยืนอีกแล้วจริง ๆ! ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้! ”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่ใช่คนของตระกูลฉินอีกต่อไปแล้ว! ”

พูดจบ ก็หันหลังวิ่งออกไปพร้อมกับร้องไห้

ฉินเหมยเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็รีบไล่ตามออกไปทันที แต่เมื่อก้าวออกไปนั้น ก็หยุดลงอยู่กับที่ เธอเสียใจมากที่สุดจริง ๆ

ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง

หลินหยุนกับซิงเฟยทั้งสองคน ก็ได้เดินทางมาถึงด้านนอกของเมืองสุริยันอีกครั้งแล้ว

อีกทั้งยังได้ยินข่าวว่าถ้าหากเขาไม่ปรากฏตัว สำนักสุริยันก็จะลงมือจัดการกับตระกูลฉิน

สำหรับข่าวนี้นั้น ทั้งสองคนต่างก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร

ซิงเฟยยิ้มเยาะและพูดว่า “ไม่น่าแปลก! ถ้าหากพวกเขายินยอมตามนั้นจริง ๆ ถึงจะเป็นเรื่องที่น่าแปลก! ”

ขณะที่พูด ก็หันมองไปที่หลินหยุนและพูดขึ้นว่า “นายคงต้องปรากฏตัวออกมาจริง ๆ ใช่ไหม? จะว่าไปแล้ว นี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ! ”

หลินหยุนสีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก และพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร! ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ งั้นก็ไม่ต้องไปคิดอย่างอื่นอีกแล้ว”

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง

เวลานี้ หลินหยุนได้ทำการหยุดการระงับรอยประทับเลือดทางจิตวิญญาณไปแล้ว

พลังสายเลือดอันแข็งแกร่งน่าเกรงขามได้ปะทุขึ้นในพริบตา ซึ่งทั้งหมดลอยวนเวียนอยู่เหนือศีรษะของหลินหยุน

วินาทีที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ เกือบทุกคนต่างก็อุทานขึ้น และรีบหลบหนีกันไปโดยเร็ว

“พระเจ้า! เขาคือหลินหยุน! ”

“ด้านบนศีรษะของเขานั้นคือสัญลักษณ์ของคำบัญชาชำระล้าง! ”

“คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะปรากฏตัวอยู่ที่นี่! ”

“เขาไม่กลัวตายจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ”

“ไอ้หนุ่มคนนี้ช่างกล้าหาญเสียจริงเลย! ”

ต่อให้สำหรับยอดฝีมือแดนยาทองแล้ว นี่ก็ถือเป็นจำนวนที่มากมายอย่างแน่นอน!

และเกรงว่าคนส่วนใหญ่ก็คงจะไม่สามารถมีทรัพยากรจำนวนมากขนาดนี้

ขณะที่หลินหยุนกำลังเดินอยู่กับซิงเฟยนั้น มีลมหายใจอันแข็งแกร่งได้พุ่งทะยานขึ้นฟ้า และพุ่งตรงเข้าใส่สองคนนี้

ไม่นาน ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำตาลคนหนึ่ง ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของหลินหยุนและซิงเฟย

เห็นชายวัยกลางคนนั้นปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่างก็พากันเบิกตาโพลงทันที

“ดูเร็ว มีคนที่อดทนไม่ไหวได้เริ่มลงมือแล้ว! ”

“คนผู้นี้คือผู้ฝึกอิสระหลานเหอล่ะสิ! ”

“ถูกต้อง! ”

“นั่นคือหลานเหอ ซึ่งก็คือหนึ่งในยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระเพียงไม่กี่คน! ”

“ได้ยินว่าหลานเหอกำลังเตรียมตัวที่จะกลั่นยาทอง! ”

“แต่เป็นเพราะเกี่ยวเนื่องกับทรัพยากร จึงทำให้ไม่สามารถสำเร็จได้เสียที! ”

“ดูเหมือนว่าการสังหารหลินหยุนนั้น จะเป็นโอกาสที่ดีมากเลยทีเดียว! ”

“หลานเหอผู้นี้ คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งในระดับขั้นรองลงมากจากแดนยาทองแล้ว! ”

“ถูกต้อง! ที่จริงแล้วหลายปีก่อนหน้านี้เขาสามารถที่จะบรรลุขั้นแดนยาทองได้แล้ว! แต่เป็นเพราะเขาคือผู้ฝึกอิสระ ไม่มีสำนักให้การสนับสนุน ดังนั้นจึงไม่มีทรัพยากรที่เพียงพอ จึงไม่สามารถสำเร็จขั้นแดนยาทองได้! ”

“พวกนายทายกันดูสิว่า สองคนนี้ใครจะเป็นผู้ที่มีชีวิตรอดคนนั้น? ”

“ต้องเป็นหลานเหออย่างแน่นอน! ”

“หลินหยุนผู้นี้แม้ว่าจะมีการร่ำลือว่าเป็นคนที่สังหารผู้อาวุโสสองคนของสำนักสุริยัน แต่พวกเราก็ยังไม่เคยมีใครเห็นกับตาของตนเองมาก่อน ซึ่งจะไปรู้ได้อย่างไรว่าตกลงมันเป็นอย่างไรกันแน่? ”

“คงจะไม่ใช่เรื่องโกหกหรอกนะ? ”

“ได้ยินว่าหลินหยุนคนเดียวต่อสู้กับสามคน ถึงกับทำให้ทูตวิญญาณที่หนึ่งของวิหารผนึกวิญญาณ รวมถึงท่านเฒ่ายันต์ตกใจจนต้องเผ่นหนีอย่างหัวซุกหัวซุนเลย! ”

“เหอะเหอะ เรื่องนี้ยิ่งทำให้รู้สึกไม่น่าเชื่อเข้าไปใหญ่! ”

“ลำพังแค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้น ๆ คนเดียวต่อสู้กับสามคน และสามคนนั้นยังเป็นถึงยอดฝีมือแดนยาทองที่มีชื่อเสียงมานานแล้วอีกด้วย! ”

“และยังถูกเขาสังหารไปได้หนึ่งคน! ”

“พวกนายคิดว่า มันเป็นไปได้ไหมล่ะ? ”

“โลกคุนชางเคยปรากฏปีศาจร้ายแบบนี้มาก่อนหรือไม่? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์