สีหน้าของเขาขาวซีดลงอย่างกะทันหัน
ขณะมองไปที่หลินหยุน สายตาที่จริงจังก็ได้เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อไปแล้ว
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ผางเห้อก็ถึงกับตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก
ซึ่งยิ่งตกตะลึงมากกว่า ตอนที่ค่ายกลผนึกห้าธาตุของเขาถูกทำลายลงเมื่อครู่เสียอีก
“นี่......ไอ้หนุ่มนี้ตกลงเป็นใครกันแน่? ”
“ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนี้? ”
“ตระกูลซิง......แม่นางตระกูลซิงผู้นี้ ทำไมถึงได้มีผู้ติดตามที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ด้วย? ”
ผางเห้อไม่เข้าใจเลยจริง ๆ
ยอดฝีมืออย่างหลินหยุนนี้ ทำไมถึงเป็นเพียงแค่ผู้ติดตามของแม่นางตระกูลซิงที่ธรรมดาอย่างนี้
นี่มันช่างน่าเหลือเชื่ออย่างมาก
ตระกูลซิงมีอิทธพลความสามารถอะไรที่ไหน?
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งบนท้องฟ้าที่ไกลออกไป
เวลานี้ ผู้อาวุโสรองสำนักสุริยัน ทูตวิญญาณที่สองของวิหารผนึกวิญญาณ รวมถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับสองและขั้นยาทองระดับสามอีกห้าหกคนที่ไล่ตามมานั้น เวลานี้ทั้งหมดต่างก็ตกตะลึงกันอย่างที่สุด
“คนผู้นี้เป็นใครกันแน่? ”
“มีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ กลับไม่เคยพบเจอมาก่อน อีกทั้งการสืบทอดวิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของเขา ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยเช่นกัน! ”
“คนผู้นี้ทำไมถึงได้ยอมเป็นเพียงแค่ผู้ติดตามของคุณหนูตระกูลซิงที่ธรรมดานี้ล่ะ? ”
“ช่างน่ากลัวเหลือเกิน! ”
“กู่มู่คนนี้ก็น่ากลัวเช่นกัน! ใครจะไปคิดได้ว่า เขาผู้นี้จะปกปิดพลังความสามารถได้ลึกลับขนาดนี้! ”
“แต่ก็ยังคงถูกคนฝ่ายตรงข้ามทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว! ”
“ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ......”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รวดเร็ว
แต่ก็ไล่ตามมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานก็ทยอยไล่ตามมาจนทันแล้ว
แต่ เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสรองสำนักสุริยัน และทูตวิญญาณที่สองของวิหารผนึกวิญญาณ ต่างก็ไม่ได้เข้าไป พวกเขาเองก็หยุดลงด้วยเช่นกัน ยืนอยู่ในอากาศระยะไกลออกมา มองดูความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ฝั่งนั้น
เมื่อเช็ดรอยเลือดตรงมุมปากแล้ว กู่มู่ก็ถอนหายใจยาว และมองไปที่หลินหยุน “ไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริง ๆ! ถึงขนาดที่เกินกว่าการคาดคิดล่วงหน้าของฉันด้วย! ”
“นายแข็งแกร่งมากจริง ๆ! ”
“มีคุณสมบัติที่จะให้ฉันแสดงพลังออกมาอย่างเต็มที่แล้ว! ”
“จากนี้ไป จะให้นายได้รับรู้สัมผัสกับ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน! ”
กู่มู่โอบกล่องเก็บกระบี่โบราณไว้ในอ้อมอก จากนั้น ก็เอานิ้วชี้ไปตรงที่บริเวณระหว่างคิ้วของตัวเอง
เลือดพ่นออกมาบนกล่องเก็บกระบี่นั้น ทั่วทั้งกล่องเก็บกระบี่โบราณ ก็ปลดปล่อยลำแสงเลือดสีแดงเข้มออกมา
ผมยาวดกดำของกู่มู่ ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีขาวเทาขึ้นอย่างกะทันหัน
ที่จริงเขาอยู่ในวัยกลางคน ดูเหมือนว่าจะอายุมากขึ้นไปหลายสิบปี เนื้อหนังทั้งหย่อนยานและแก่ชราลงไปอย่างมาก
ในขณะนี้เอง กล่องเก็บกระบี่ราวกับมีชีวิตขึ้นใหม่ มีเสียงหัวเราะที่หลอนของเด็กดังขึ้นเป็นระยะ
เมื่อเสียงหัวเราะดังกระจายไปทั่ว บริเวณท้องฟ้าทั้งหมดก็เปลี่ยนสีในทันที
ด้านบนกล่องเก็บกระบี่ได้ปลดปล่อยลำแสงสีเลือดออกมาจำนวนมาก ทำให้ทั้งท้องฟ้าถูกย้อมกลายเป็นสีแดงเข้ม
จากนั้น กระบี่สั้นสีแดงเข้มก็พุ่งออกมาจากกล่องเก็บกระบี่ในทันที
กระบี่สั้นเล่มนี้เหมือนจะตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ส่องแสงระยับและลอยวนเวียนไปมาในอากาศ
ก็เหมือนกับเด็กน้อยที่ซุกซนร่าเริงคนหนึ่ง
เวลานี้เอง กู่มู่กัดปลายลิ้น แล้วก็ใช้นิ้วแตะไปที่กระบี่สั้นนั้น กระบี่สั้นก็ได้ส่งเสียงร้องที่โศกเศร้าขึ้นทันที
ขณะเดียวกัน พลังอานุภาพอันสะเทือนเลือนลั่นของดาบ ก็พัดโหมกระหน่ำขึ้น
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอานุภาพอันสะเทือนเลือนลั่นที่น่าสะพรึงกลัวนี้แล้ว ทุกคนล้วนตื่นตระหนกตกใจขึ้นทั้งหมด
มองเห็นกระบี่สั้นสีแดงเข้มที่มีชีวิตชีวาเล่มนั้น แต่ละคนต่างพากันสูดลมหายใจลึก
“พระเจ้า! ”
“นี่คือความน่าสะพรึงกลัวอะไรกันแน่? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...