จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1227

สรุปบท บทที่ 1227 ผู้พิพากษายาทอง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1227 ผู้พิพากษายาทอง – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1227 ผู้พิพากษายาทอง ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“เป็นลูกศิษย์สำนักเทียนหยุน!”

“เจ้าเด็กที่แต่งตัวธรรมดาตรงข้ามนั้นเป็นใครกัน?”

“ถึงกับกล้าลงมือกับลูกศิษย์สำนักเทียนหยุน นี่คงไม่อยากจะมีชีวิตต่อไปอีกแล้วเหรอไง? ที่นี่เป็นเมืองเทียนหยุนนะ!”

“ก็นั่นน่ะสิ!”

“ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนี่เป็นใคร แต่วันนี้ก็ต้องตายอย่างแน่นอนแล้ว!”

“ไม่มีใครกล้าที่จะลงมือกับคนของสำนักเทียนหยุนในเมืองเทียนหยุนนี้หรอก!”

“ใครกล้าลงมือ สุดท้ายก็ต้องตายทั้งนั้น!”

“ไม่เพียงแต่ตาย อีกทั้งยังตายอย่างอนาถอีกด้วย!”

ในขณะที่ผู้คนที่มุงดูอยู่รอบๆบริเวณนั้นต่างก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้น มีคนที่แต่งกายผู้พิพากษาของเมืองเทียนหยุนจำนวนสองคน กำลังมองลงมาจากข้างบนตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มองไปยังหลินหยุนด้วยสายตาที่เย็นชา

“ศิษย์พี่เฉิน พวกเราต้องไปห้ามหรือไม่?”

ชายหนุ่มคนที่เพิ่งรับตำแหน่งผู้พิพากษาคนหนึ่ง รีบหันหน้าไปยังชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ แล้วถามขึ้น

“ไม่ต้อง!” ชายวัยกลางคนพูดเยาะเย้ย

“ถึงกับกล้าลงมือกับลูกศิษย์สำนักเทียนหยุนเรา รนหาที่ตายชัดๆ! ก็ไม่ดูซะบ้างว่าที่นี่เป็นที่ไหน!”

ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็รีบพูดว่า “ศิษย์พี่เฉิน แต่ว่าพวกเราเป็นผู้พิพากษานะ ดูเฉยๆอย่างนี้ไม่ค่อยดีหรือเปล่า?”

ชายวัยกลางคนพูดเยาะเย้ยว่า “ศิษย์น้องหลิว พวกเราเป็นผู้พิพากษาก็จริง แต่ต้องหยุดคนที่ไม่ใช่คนของสำนักเรา! เข้าใจหรือยัง?”

ศิษย์น้องหลิวก็กระจ่างขึ้นมาทันที รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอบคุณศิษย์พี่เฉิน ผมเข้าใจแล้วครับ!”

ส่วนในเวลานี้เอง บนถนนข้างล่าง

เผชิญหน้ากับพลังกระบี่อันน่ากลัวที่กวาดต้อนมาอย่างแรงนั้น หลินหยุนก็ชี้นิ้วออกไปหนึ่งที

“ปั้ง!”

ในขณะที่ทุกคนต่างก็คิดว่าหลินหยุนจะต้องถูกฆ่าตายคาที่นั้น ฉากที่ปรากฏให้เห็นนี้กลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

เห็นแต่ว่าติงหลิงถูกกระแทกจนกระเด็นลอยออกไปทั้งตัว จากนั้นก็ตกลงบนพื้นอย่างแรง ในปากก็กระอักเลือดออกมา

ซิงเฟยตกใจทันที รีบวิ่งหายวับไปยังติงหลิงทันที

พวกอู่เหลียนและถังเหมิงทั้งหลายก็ทยอยเข้าไปตรวจดูอาการของติงหลิง

ส่วนเจียงเผิงกลับยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อน สายตาที่มองไปยังหลินหยุนเยือกเย็น ราวกับกำลังมองคนตายคนหนึ่งอยู่

หันหน้าไปมองติงหลิง แล้วก็หันหน้ากลับมา สายตามองไปยังหลินหยุนอีกครั้ง

“ที่แท้ก็แอบซ่อนพลังฝึกฝนไว้ พวกลับๆล่อๆนี่เอง!”

“ใครกล้าแตะต้องศิษย์น้องของเจียงเผิง ใครกล้าแตะต้องคนของสำนักเทียนหยุนเรา ไอ้เด็กเวร แกสมควรตาย!”

“จำไว้เลย คนที่ฆ่าแกวันนี้ ชื่อเจียงเผิง แห่งสำนักเทียนหยุน!”

เมื่อสิ้นเสียงลง เจียงเผิงก็ลงมือทันที

แต่ว่าในเวลานี้เอง หลินหยุนขยับแขนขึ้นโบกสะบัดไปมา ราวกับกำลังปัดแมลงวันออกไป

เจียงเผิงในแดนฝึกพลังระยะหลังนั้น ในบรรดาคนรุ่นใหม่ของสํานักเทียนหยุนทั้งหมดถึงแม้ว่าไม่ใช่โดดเด่นที่สุดในส่วนนั้นก็ตาม

แต่ก็เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในหล่อหลอมให้เป็นศิษย์เอกสำคัญคนหนึ่ง

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุนแล้ว ถึงกับไม่มีโอกาสแม้แต่จะลงมือเลย ก็ถูกพัดกระเด็นลอยออกไปเหมือนกับแมลงวันที่ถูกปัดออกไป แล้วตกลงมาบนพื้นอย่างแรง จากนั้นเจียงเผิงก็รีบลุกขึ้นยืน

พวกติงหลิงต่างก็หน้าถอดสี ไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่ามอีกต่อไปแล้ว

คนที่มุงดูอยู่รอบๆบริเวณนั้นต่างก็ตื่นตกใจไปหมด ไม่มีใครคิดเลยว่า หลินหยุนถึงกับแข็งแกร่งขนาดนี้!

แข็งแกร่งก็ไม่ว่า แต่ถึงกับกล้าหาญชาญชัยถึงเพียงนี้!

ที่นี่คือเมืองเทียนหลิน ก็คือสำนักเทียนหยุนเช่นกัน

อยู่ที่นี่ ทุกคนต่างก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันว่า มีเพียงแต่คนของสำนักเทียนหยุนลงมือกับคนอื่นได้ แต่ไม่เคยมีคนนอกที่ไหนกล้าจะลงมือกับคนของเทียนหยุนเลย

อยู่ที่นี่ ถ้าเป็นมังกรก็ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรจะขดตัว ถ้าเป็นเสื้อก็ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรจะหมอบตัวลงอย่างแท้จริง

ในเวลานี้เอง ก็มีเงาร่างสองคนปรากฏแวบขึ้นมา ผู้พิพากษาที่แต่งตัวในชุดยาวสีดำ

เมื่อเห็นผู้พิพากษาสองคนแล้ว คนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

“ผู้พิพากษาของสำนักเทียนหยุนปรากฏตัวแล้ว!”

พูดพลางร่างของเขาก็หลบหายวับไปอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็ยื่นเข้าไปจับตรงจุดตันเถียนของหลินหยุนทันที

หลินหยุนยิ้มเยาะเย้ย ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

แล้วใช้นิ้วชี้จิ้มออกไปที่ฝ่ามือของศิษย์พี่เฉินที่กำลังเข้ามาจับนั้น

“ปั้ง_____”

เสียงดังระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว

ศิษย์พี่เฉินที่อยู่ในแดนยาทองระดับหนึ่งนั้น ก็กระอักเลือดแล้วกระเด็นลอยออกไป

ส่วนหลินหยุน กลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างมั่นคง

เมื่อเห็นฉากเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้พิพากษาอีกคนหนึ่ง เจียงเผิงและติงหลิง ยังมีผู้คนที่ล้อมรอบอยู่ข้างนอกนั้น ต่างก็อ้าปากค้างกันไปหมด ทุกคนต่างก็เบิ่งตาโตด้วยความเหลือเชื่อ

ผู้คนที่เข้าออกไปมาในเมืองเทียนหยุนนั้น ก็ย่อมต้องรู้จักผู้พิพากษาเฉินหย่งคนนี้อย่างแน่นอน ก็นับว่าเขาเป็นหนึ่งในศิษย์เอกของสำนักเทียนหยุนตอนนั้น

ตอนนี้ พลังฝึกฝนก็อยู่ในแดนยาทองชั้นหนึ่งแล้ว!

แต่ก็เพราะเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งเช่นนี้ ถึงกับถูกชายหนุ่มที่ดูเรียบเฉยไม่มีอะไรเลยคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า ใช้นิ้วมือจิ้มทีเดียวก็ล้มลงแล้ว!

ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!

“เจ้าเด็กนี่เป็นใครกัน?”

“ดูจากอายุเขาแล้ว น่าจะแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้นเอง!”

“เป็นไปได้ยังไงที่แข็งแกร่งขนาดนี้?”

“ผู้พิพากษาเฉินหย่ง........เป็นถึงยอดฝีมือแดนยาทองที่จริงแท้แน่นอนเลยนะ.......”

“เจ้าเด็กนี่ถึงกับใช้นิ้วมือจิ้มไปทีเดียวก็ล้มผู้พิพากษาเฉินหย่งได้แล้ว พลังฝึกฝนของเขาถึงแดนไหนกันแน่?”

ไม่เพียงแต่คนที่มุงดูจำนวนมากพวกนั้น แม้แต่ติงหลิงที่โกรธแค้นเพราะถูกซัดจนกระเด็นลอยออกไปนั้น ตอนนี้ก็อึ้งไปหมด จนกระทั่งลืมความโกรธแค้นด้วยซ้ำไป

กลืนน้ำลายลงไปอย่างแรง ติงหลิงหันไปมองซิงเฟย แล้วจับแขนของซิงเฟยไว้ พูดด้วยเสียงแข็งว่า “เฟยเฟย หลินหยุนคนนี้เป็นใครกันแน่?”

“เขา.........”

“เขาทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์