ตระกูลซิงอยู่ที่เมืองเทียนเฟิง ก็นับว่ามีฐานะและอิทธิพลมากทีเดียว
แต่ว่า
ถ้าทุกเดือนต้องจ่ายค่าเช่าอย่างต่ำหนึ่งร้อยชี่ทิพย์ขึ้นไป ไม่ใช่ว่าจ่ายไม่ไหว แต่ก็ต้องไม่ฟุ่มเฟือยมากเกินไป!
แน่นอนถ้ายังอยู่ในเมืองเทียนเฟิงละก็ ซิงเฟยก็ยังสามารถอยู่ได้
แต่ตอนนี้ที่นี่ไม่ใช่เมืองเทียนเฟิง แต่เป็นเมืองเทียนหยุน
ในตัวซิงเฟยจะมีหยดชี่ทิพย์มากขนาดนั้นเชียวเหรอ?
แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
ซิงเฟยพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า “ที่แท้แกก็พูดถึงเรื่องของหยดชี่ทิพย์นั่นเอง งั้นก็ไม่มีอะไร ในตัวฉันก็ยังพอมีบ้าง”
ติงหลิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เฟยเฟย ลำพังตัวแกคนเดียวก็พอได้อยู่ แต่แกก็คงไม่จ่ายให้กับเขาด้วยใช่ไหม?”
พูดพลางติงหลิงก็หันไปมองทางหลินหยุน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณเป็นถึงลูกผู้ชายอกสามศอก ถึงกับต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งจ่ายเงินให้คุณด้วยเหรอ? นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันเปิดหูเปิดตามากขึ้นเลยนะ! ”
“หรือว่าแม้แต่คำว่าไร้ยางอายแกก็ไม่รู้ใช่ไหมว่ามันเขียนยังไง?”
“หรือจะบอกว่าแกกำลังดีดลูกคิดอยากจะได้ทั้งเงินได้ทั้งตัวเหรอ?”
ติงหลิงยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห สีหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
อู่เหลียนที่อยู่ข้างๆทำเสียงฮื่อใส่แล้วกวาดสายตาไปยังหลินหยุน พูดเยาะเย้ยด้วยความดูถูกว่า “ศิษย์พี่ คุณจะไปโมโหอย่างนี้ทำไมกัน เพื่อนของคุณยอมจ่ายเอง งั้นใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
ถังเหมิงก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็นั่นน่ะสิ! มีเงินสามารถซื้อความสุขได้! คุณอย่าไปยุ่งดีกว่าเลยศิษย์พี่!”
เจียงเผิงหนังตากระตุก สายตามองไปยังหลินหยุน
“สหายท่านนี้ เกิดมาเป็นลูกผู้ชาย ควรจะพึ่งตัวเองไปหาโอกาสหาเงินมาเองจะดีกว่านะ อย่างนี้คนอื่นจะได้ไม่ดูถูกเราไง!”
“คิดแต่จะหาทางลัด คิดแต่จะเกาะผู้หญิงกิน อย่างนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน ไม่ว่าจะเวลาไหน ก็ต้องถูกผู้คนเหยียดหยามทั้งนั้น!”
พูดพลางก็มองไปยังซิงเฟย
“แม่นางซิงครับ ผมรู้สึกว่าคุณไม่ควรจะคบหากับคนประเภทนี้เลยนะ!”
“โลกคุนชางกว้างขวางใหญ่โต มีชายหนุ่มที่ดีมากมายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า แม่นางทำไมจะต้องไปอยู่กับพวกคนที่ผู้คนรังเกียจเช่นนี้ให้ได้ล่ะ?”
“อย่าว่าแต่เป็นเพื่อนเลย แม้แต่แม่นางจะมองหน้าเขาสักครั้ง ผมก็ยังรู้สึกว่าจะทำให้ลูกตาของแม่นางจะแปดเปื้อน ทำให้ฐานะของคุณตกต่ำลงไปด้วยซ้ำ”
ซิงเฟยขมวดคิ้ว สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก สายตากวาดมองไปยังเจียงเผิงและติงหลิงทุกคน
แต่ว่าเห็นแก่หน้าติงหลิง ก็ไม่อยากจะอาละวาด ได้แต่อธิบายว่า “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว! หลินหยุนไม่ได้ใช้หยดชี่ทิพย์ของฉัน พวกเราเดินทางมาด้วยกัน ตลอดทางมาเขาเป็นคนจ่ายหยดชี่ทิพย์ทั้งนั้นเลย!”
“คราวนี้พวกเรามาถึงเมืองเทียนหยุน คิดจะเข้าไปพักที่โรงเตี๊ยมเยว่หลาย ก็ไม่ยกเว้นเหมือนกัน!”
“พวกคุณเข้าใจผิดจริงๆแล้ว อย่าได้พูดอย่างนี้อีกเลย!”
ซิงเฟยไม่อธิบายยังดีเสียกว่า เพราะยิ่งอธิบายไป ในสายตาของเจียงเผิงและติงหลิงกลับรู้สึกว่ากำลังบิดเบือนความจริงอยู่
ติงหลิงพูดอย่างไม่เกรงใจขึ้นมาทันทีว่า “เฟยเฟย แกเปลี่ยนเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ไอ้เศษสวะคนนี้หลงใหลในความงามของแกไม่พอ ยังคิดจะใช้หยดชี่ทิพย์ของแกอีกด้วย ตอนนี้แกกลับรักษาหน้าของเขาไว้ แล้วยังพูดปกป้องเขาอีกเหรอ?”
“แกดูเจ้าหมอนี่สิ หน้าตาก็ไม่เอาไหน แถมไม่มีพลังฝึกฝนอีกด้วย!”
“ดูจากการแต่งตัวแล้ว จะต้องไม่มีภูมิหลังที่ดีอย่างแน่นอน แกชอบเขาตรงไหนกันแน่?”
“ฉันไม่เข้าใจแกจริงๆเลย!”
เจียงเผิงก็ขมวดคิ้วพยักหน้าแล้วพูดว่า “แม่นางซิงครับ เสี่ยวหลิงพูดถูกแล้ว! เสี่ยวหลิงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ ย่อมต้องไม่ทำร้ายคุณหรอก! ฉันก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน!”
“แม่นางซิงครับ ลำพังเงื่อนไขของคุณ จะหาเพื่อนฝึกฝนหน้าตายังไงก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเลย!”
“คุณทำไมจะต้องไปเสียเวลากับเศษสวะคนหนึ่งให้ได้ล่ะ?”
ซิงเฟยพูดอย่างร้อนใจขึ้นมาทันทีว่า “เสี่ยวหลิง แกเข้าใจผิดจริงๆแล้ว! ที่ฉันพูดมาเป็นความจริงทั้งนั้น! หลินหยุนไม่ใช่เศษสวะตามที่พวกคุณพูดเลย!”
ถึงแม้ตั้งแต่เล็กจนโต ติงหลิงก็อิจฉาตัวเองมาโดยตลอด แต่ว่าความรู้สึกที่ดีต่อกันของพวกเธอทั้งสองก็เป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้เลย
แต่ถ้าหากหลินหยุนเป็นเศษสวะจริงละก็ งั้นเกรงว่าทุกคนในโลกนี้ต่างก็เป็นเศษสวะด้วยกันทั้งนั้นแล้ว!
ติงหลิงโกรธจัดที่ไม่ได้ดั่งใจจึงพูดว่า “เฟยเฟย ไม่ได้เห็นหน้ากันหลายปี ตอนนี้แกเปลี่ยนไปมากจริงๆเลย! เปลี่ยนจนฉันแทบจะไม่รู้จักแกด้วยซ้ำไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...