จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1229

หลินหยุนพูดด้วยเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไรหรอก!”

พูดพลาง ก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปภายในโรงเตี๊ยม

เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามา ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามาหาทันที

ชายวัยกลางคนกลับไม่ได้รังเกียจดูถูกการแต่งกายของหลินหยุนเลย แต่กลับให้คำแนะนำวิมานแต่ละระดับชั้นให้ทั้งสองคนฟังอย่างอดทน

เดิมทีความคิดเห็นของหลินหยุนแล้ว คือจะเลือกวิมานสองหลัง แต่ว่าหลังจากซิงเฟยได้ยินราคานั้นแล้ว พูดยังไงก็ไม่ยอมตกลงด้วย

ตอนนี้เธอเหลือเพียงอีกก้าวเดียวเท่านั้นก็จะหลอมยาทองสำเร็จแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่โอกาสในการหลอมยาทองเท่านั้นเอง

ดังนั้นต่อให้พักอยู่ในวิมานที่ดีกว่านี้ มีค่ายกลรวมพลังที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ สำหรับเธอแล้วก็นับว่าเป็นการสิ้นเปลืองแล้ว สู้ยอมที่จะเลือกอยู่ในวิมานเดียวกับหลินหยุนด้วยจะดีกว่า ยังไงก็ไม่มีความแตกต่างอะไรเลย

ถึงแม้ว่าหลินหยุนไม่ค่อยยินยอมก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ยืนหยัดต่อไป

ในที่สุด ทั้งสองคนก็เลือกวิมานในราคาสามร้อยหยดชี่ทิพย์ต่อเดือนหลังหนึ่ง

วิมานหลังนี้ ไม่ใช่ระดับสูงสุด แต่ก็ไม่ใช่ระดับต่ำสุดด้วย เป็นวิมานระดับกลาง ก็ยังนับว่าไม่เลวนัก

วิมานอยู่นอกเมือง ที่ห่างจากในเมืองไปไม่ไกลมากนัก

หลังจากที่มาถึงวิมานแล้ว หลินหยุนก็เริ่มฟื้นฟูพลังฝึกฝนของตัวเองให้มั่นคงต่อไป

ซิงเฟยก็เริ่มนั่งสมาธิเช่นกัน

ในไม่ช้าพลังฝึกฝนของหลินหยุนก็มั่นคงแล้วในที่สุด

วันรุ่งขึ้น ติงหลิงก็มาหาอีกครั้ง

แต่ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายของซิงเฟยเลย

เมื่อพาติงหลิงเข้าไปในวิมาน ทักทายกับหลินหยุนอย่างเรียบง่ายแล้ว

ซิงเฟยก็รีบถามขึ้นว่า “เสี่ยวหลิง สำนักพวกแกทางนั้น พูดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานยังไงบ้าง?”

ติงหลิงส่ายหน้า ชำเลืองมองหลินหยุน ส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเบาว่า “อย่างอื่นฉันไม่รู้ แต่ว่าศิษย์พี่เจียงเผิงทางนั้นโกรธมาก ดูเหมือนไม่ยอมเลิกราง่ายๆด้วย ฉันเข้าใจนิสัยเขาดี!”

“เขาไม่ใช่พวกคนใจกว้าง!”

“ถูกพวกแกสองคนตบหน้าต่อหน้าผู้คนทั้งตลาด เขาจะต้องแก้แค้นอย่างแน่นอน!”

“ดังนั้นฉันมาก็เพื่อจะบอกกับพวกแกว่า ทางที่ดีรีบออกไปจากเมืองเทียนหยุนนี้ให้เร็วที่สุด!”

“ไม่ใช่บอกให้พวกแกกลัวเขานะ เพียงแต่ว่าไม่มีความจำเป็นที่ไปทำให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นอีกเลย!”

“เจียงเผิงนั้นมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว! ปู่ของเขาเป็นผู้อาวุโสที่สิบเอ็ดของสำนักเทียนหยุน มีอิทธิพลมากในสำนักด้วย!”

“ถ้าหากเขาตัดสินใจจะมาหาเรื่องจริงๆละก็ สำหรับพวกแกแล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย!”

พูดพลางสายตาของเธอก็มองไปยังหลินหยุนอีกครั้ง

สีหน้าหลินหยุนก็ยังคงไร้ความรู้สึก ลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับซิงเฟยว่า “พวกคุณคุยกันไปนะ ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย”

พูดจบก็ก้าวเท้าเดินออกจากวิมานไป

เมื่อเห็นหลินหยุนออกไปแล้ว ติงหลิงก็รีบจับแขนของซิงเฟยอีกครั้งแล้วรีบถามว่า “เฟยเฟย แกรีบบอกมาเร็ว หลินหยุนนี้เป็นใครกันแน่? แกไปรู้จักกับเขาได้ยังไง?”

เมื่อซิงเฟยได้ยินดังนั้น ก็ทำตาค้อนใส่อย่างไม่สบอารมณ์แล้วพูดว่า “ยังไงล่ะ นังตัวดี คิดจะเปลี่ยนใจจากศิษย์พี่เจียงเผิงคนนั้นเร็วขนาดนี้ แล้วหันมาเปลี่ยนเป้าหมายใหม่แล้วเหรอ?”

ถึงแม้ทั้งสองคนไม่ได้พบกันมาหลายปี แต่พวกเธอต่างก็เข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งเป็นอย่างดี

ซิงเฟยเป็นคนอย่างไรนั้น ติงหลิงก็เข้าใจดี

ส่วนติงหลิงเป็นคนอย่างไรนั้น ซิงเฟยก็ย่อมเข้าใจเป็นอย่างดีเช่นกัน

ติงหลิงพูดอะไรไม่ออกทันที ทำตาถลนใส่ซิงเฟยแล้วพูดว่า “นี่มันเวลาไหนแล้ว แกถึงกับยังมีอารมณ์พูดเล่นอยู่อีกเหรอ? แกรู้หรือเปล่าว่าเรื่องเมื่อวานใหญ่โตขนาดไหน?”

“ฉันอยากจะมาเตือนแกว่า ถ้าความสัมพันธ์พวกแกยังไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่ละก็ รีบจากไปเถอะ!”

“เชื่อฉันสิ สำนักเทียนหยุนไม่ยอมเลิกราง่ายๆอย่างแน่นอน!”

“หรืออาจเพราะว่าแกรู้ภูมิหลังของหลินหยุนนี้แล้ว ถ้าเขามีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งจริงๆละก็ งั้นกลับยังไม่มีอะไรมาก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์