จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1254

สรุปบท บทที่ 1254 ส่งข่าวกลับ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 1254 ส่งข่าวกลับ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 1254 ส่งข่าวกลับ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เขตต้องห้ามด้านหลังภูเขา คือสถานที่เก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนของเจ้าสำนัก

จุดธูปเงินสามดอกขึ้น โดยหลังจากนั้นไม่นาน ประตูถ้ำก็ได้เปิดออกแล้ว

ชายชราผมขาวที่กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาคนหนึ่งได้เดินออกมาจากด้านใน

ชายชรารูปร่างไม่สูงนัก และก็ไม่มีลมหายใจที่น่าเกรงกลัวแต่อย่างใด ชุดที่สวมใส่ก็ไม่สวยงาม ธรรมดาเรียบง่ายอย่างมาก ราวกับว่าเป็นชาวนาที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน

เห็นชายชราค่อย ๆ เดินออกมา รองเจ้าสำนักและคนอื่น ๆ ต่างก็เดินเข้าไปต้อนรับ และโค้งตัวแสดงความเคารพต่อชายชรา

รองเจ้าสำนักพูดขึ้นว่า “รบกวนศิษย์พี่ขณะกำลังเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน ต้องขออภัยศิษย์พี่ด้วย! ”

ชายชราส่ายมือไปมาเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้า ไม่ว่าผู้ใดได้พบเห็น ก็จะรู้สึกถึงความสุขสบายใจ

ชายชราพูดขึ้นว่า “ศิษย์น้องไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไร ศิษย์น้องคงจะไม่จุดธูปเงินเพื่อให้ฉันออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนหรอก! โอ้ว พวกนายต่างก็มากันด้วย! ”

ผู้อาวุโสทั้งหลายได้ยินดังนั้น ก็รีบโค้งตัวแสดงความเคารพ และพูดพร้อมกันว่า “คารวะอาจารย์ลุงเจ้าสำนัก! ”

ชายชราพยักหน้า และพูดว่า “มีเรื่องอะไรเหรอ พูดกันมาสิ! ”

เวลานี้ รองเจ้าสำนักก็ได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเล่าให้ฟังหนึ่งรอบ

ถ้าหากเป็นเจ้าสำนักคนอื่น เมื่อได้ยินว่ายอดฝีมือหลายคนของสำนักถูกสังหารบริเวณใกล้กับสำนัก คงจะเกิดความโกรธแค้น โมโหพลุ่งพล่านอย่างที่สุดแล้ว

แต่เจ้าสำนักที่ดุจดั่งชาวนาผู้นี้กลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย

เขาเพียงแค่ตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ โดยขณะที่ฟังอยู่นั้นก็ได้หยิบจอบขึ้นมา ถากหญ้าทำความสะอาดบริเวณโดยรอบของถ้ำ

รอจนรองเจ้าสำนักพูดจบ เขาจึงค่อย ๆ หยุดลง

รองเจ้าสำนักพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ ซึ่งฉันได้สั่งให้คนไปตรวจสอบสถานะที่แท้จริงของคนผู้นี้แล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะได้รับข่าวสารตอบกลับมา”

“แต่ฉันและคนอื่น ๆ ต่างก็สงสัยว่า สถานะของเด็กหนุ่มคนนี้ ที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่คำลวง”

“เป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้น คือยอดฝีมืออาวุโสที่มีความแค้นยิ่งใหญ่กับสำนักของเรา! ”

“คนผู้นี้มีพลังบำเพ็ญสูงส่ง โดยฉันใช้พลังบำเพ็ญทั้งหมด ในการไล่ล่าอยู่เป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่สามารถไล่ตามได้ทัน! ”

“ดังนั้นพลังบำเพ็ญของคนผู้นี้ ลึกล้ำอย่างที่สุด ซึ่งไม่ใช่ระดับขั้นที่เด็กหนุ่มทั่วไปจะสามารถบรรลุได้! ”

“แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่สำคัญเท่าไร! ”

“ที่เชิญศิษย์พี่ออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนนี้ ก็เพื่อต้องการให้ศิษย์พี่ใช้การสืบค้นวิญญาณชีวิต ตามหาคนผู้นี้ให้เจอ! “จำเป็นจะต้องนำตัวคนผู้นี้มาที่สำนักของเราให้เร็วที่สุด! ”

ชายชราพยักหน้าเล็กน้อย ครุ่นคิดสักครู่ และพูดขึ้นว่า “ได้! ฉันจะลองใช้การสืบค้นวิญญาณชีวิตแล้วกัน! แต่ว่า......”

ชายชราไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ดวงไฟวิญญาณก็ได้ปรากฏขึ้นที่นิ้วมือของเขา

ถ้าการสืบค้นวิญญาณชีวิตสำเร็จ ด้านบนของดวงไฟวิญญาณ ก็จะปรากฏภาพลักษณ์ของหลินหยุนผู้ที่สังหารพวกผู้อาวุโสเหล่านั้น

แต่ในเวลานี้ ขณะที่ดวงไฟวิญญาณกำลังเผาไหม้อยู่นั้น กลับไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นเลย

ผ่านไปสักพัก ชายชราก็ส่ายศีรษะ และดับดวงไฟวิญญาณ

“ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะมีพลังบำเพ็ญที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ! ”

“ไม่อย่างนั้น เขาคงจะไม่ค้นพบ และไม่มีความสามารถที่จะลบรอยประทับวิญญาณชีวิตลงได้! ”

รองเจ้าสำนักและผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก็มีสีหน้าท่าทางที่ย่ำแย่

รองเจ้าสำนักสูดหายใจลึก และพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันและคนอื่น ๆ ได้รีบมาหาศิษย์พี่เจ้าสำนักโดยเร็วที่สุดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะทำการลบรอยประทับวิญญาณชีวิตลงรวดเร็วขนาดนี้”

ผู้อาวุโสสองพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าคนผู้นี้คงจะเป็นยอดฝีมืออาวุโสจริง ๆ ด้วย”

รองเจ้าสำนักมองไปที่ชายชราและพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ฉันว่าพวกเราจำเป็นจะต้องประกาศคำสั่งฆ่าแล้ว! ”

ชายชราครุ่นคิดเล็กน้อย

ผ่านไปสักพัก ก็ส่ายศีรษะและพูดว่า “ไม่ต้องหรอก! วันจัดงานประลองยุทธเก้าสำนักใกล้จะถึงแล้ว นายและคนอื่น ๆ อยู่กันที่สำนัก เพื่อจัดเตรียมเรื่องนี้เถอะ! สำหรับคนที่ชื่อหลินชางฉองนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน! ”

ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ตื่นตะลึงขึ้นโดยพลัน

รองเจ้าสำนักพูดขึ้นว่า “ศิษย์พี่ ท่านจะตามล่าสังหารคนผู้นี้ด้วยตัวเองเหรอ? ”

ชายชราพูดขึ้นว่า “ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามมุ่งเป้าหมายมาที่สำนักเทียนหยุน ในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าสำนัก แน่นอนว่าจะต้องพูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามดูสักหน่อย! พวกนายกลับไปกันก่อนเถอะ! ”

ทุกคนได้ยินดังนั้น ก็รีบโค้งตัวแสดงความเคารพ แล้วก็หันหลังเดินจากไป

เห็นทุกคนจากไปกันแล้ว ชายชราจึงได้ใคร่ครวญอย่างจริงจังอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร เงาร่างของชายชราก็หายวับจากไปอย่างเงียบ ๆ

ไม่มีลมหายใจที่ผันผวน และก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย

เธอตื่นตกใจเป็นอย่างมาก

สำนักเทียนหยุนมีผู้อาวุโสทั้งหมดสิบสองคน ชั่วครู่เดียวก็ถูกหลินหยุนสังหารไปสี่คนแล้ว?

นี่มัน......

ช่างน่ากลัวจริง ๆ!

ซิงเฟยตั้งสติกลับคืนมา แล้วก็หยิบยันต์สื่อสารออกมา และส่งข้อความให้กับพ่อของเธอ

ในเวลานี้ ที่ตระกูลซิงเมืองเทียนเฟิง

ชายแก่คนหนึ่งกำลังเอนร่างอยู่บนเก้าอี้โยกอย่างเบิกบานใจ

จิบดื่มชาหอมไปพลาง ฮัมเพลงไปพลาง

สุขสบายอย่างมาก

ไม่มีลูกสาวที่น่ารำคาญอยู่ที่บ้าน ชีวิตนี้ช่างแสนสุขเบิกบานใจยิ่งนัก!

สุขสบายใจจริง ๆ!

เบิกบานใจจริง ๆ!

นี่ที่เรียกว่างดงาม!

นี่ที่เรียกว่าอิ่มใจ!

นี่ที่เรียกว่าความสุขอย่างแท้จริง!

ในเวลานี้ ยันต์สื่อสารที่อยู่ในร่างกายก็สว่างไสวขึ้นอย่างกะทันหัน

ชายแก่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหยิบยันต์สื่อสารขึ้นมาดูอย่างไม่ค่อยพึงพอใจ

แต่ไม่ดูยังจะดีกว่า เมื่อดูแล้ว ชายแก่ก็ลุกขึ้นนั่งทันที ขยี้ตาอย่างรุนแรง พร้อมกับอ่านและตรวจสอบข้อความบนยันต์สื่อสารอีกครั้ง

จากนั้นร่างกายก็แวบหายไป ไม่นานนัก ประตูห้องที่ลานหลังบ้านก็เปิดขึ้น

ชายแก่ในชุดภูมิฐาน สวมหมวกฟาง หลังค่อม มีกระเป๋าคาดอยู่ข้างเอว เหมือนกับขโมยอย่างไรอย่างนั้น

ได้ค่อย ๆ มุดออกมาจากห้องอย่างระมัดระวัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์