บทที่ 1253 ออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1253 ออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลินหยุนยื่นมือออกมา และใช้เปลวไฟเผาไหม้หมอกควันกลิ่นคาวเลือดที่แผ่กระจายออกมาทั้งหมดนี้
อุณหภูมิภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ซิงเฟยตกใจขึ้นอย่างกะทันหัน “นี่คือ......”
“ร่องรอยวิญญาณชีวิตของกี่คนนั้นของสำนักเทียนหยุน ได้ถูกเปลวไฟเผาไหม้ ทำลายลงไปหมดสิ้นอย่างไร้ร่องรอยแล้ว! ”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง! ” ซิงเฟยสงบนิ่ง “ดังนั้น ถ้าหากปล่อยให้ร่องรอยนี้ยังคงติดตัวนายต่อไป พวกเขาก็จะสามารถตามหาที่พักพิงของพวกเราจนพบได้ใช่ไหม? ”
“ถูกต้อง! ” หลินหยุนพยักหน้า
ชะงักไปชั่วครู่ ก็มองไปที่ซิงเฟยและพูดขึ้นว่า “ฉันจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ เธอห้ามออกไปที่ไหน! ”
ซิงเฟยรีบพยักหน้า และพูดขึ้นว่า ”วางใจเถอะ ฉันไม่ไปไหนหรอก! แต่ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีปัญหาแน่นอนใช่ไหม? ”
เธอยังคงรู้สึกไม่ค่อยวางใจ!
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “เพียงแค่ไม่มียอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้าขึ้นไปมาบริเวณแถวนี้ และใช้ดวงจิตตรวจสอบ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร”
ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ ซิงเฟยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และวางใจลงได้บ้างแล้ว
หลินหยุนปิดตาสองข้างลง แล้วก็ดูดซับพลังของยาภายในร่างกายต่อไป
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง สำนักเทียนหยุน ในห้องโถงเทียนหยุน
ผู้อาวุโสสี่ที่บาดเจ็บเห็นรองเจ้าสำนักและคนอื่น ๆ กลับกันมา ก็รีบเดินเข้าไปต้อนรับ
“รองเจ้าสำนัก ศิษย์พี่ทั้งหลาย ผลลัพธ์เป็นอย่างไรบ้าง? ”
“ไล่ตามไอ้หนุ่มนั้นไม่ทัน! ” ผู้อาวุโสสองพูดขึ้นอย่างจริงจัง “แต่ว่า จากที่พวกเราวิเคราะห์ คนผู้นี้คงจะไม่ใช่เด็กหนุ่มทั่วไป แต่น่าจะเป็นยอดฝีมืออาวุโสที่มีความแค้นฝังลึกกับสำนักของเรามาตั้งนานแล้ว! ”
“อะไรนะ? ”
ผู้อาวุโสสี่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับตกใจ แทบไม่อยากที่จะเชื่อ
“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน? ”
“สำนักของเราเคยไปล่วงเกินยอดฝีมืออาวุโสอะไรที่ไหนกัน ถึงขนาดทำให้เขาต้องมาสังหารผู้อาวุโสสำนักของเราไปหลายคน? ”
“นอกจากนี้ คนผู้นี้ทำไมถึงได้หลบหนีเอาตัวรอดจากการไล่ล่าสังหารของพวกศิษย์พี่ไปได้? ”
อย่างที่ทราบว่า รองเจ้าสำนักนั้นเป็นถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับแปดเลยทีเดียว
ทั่วทั้งโลกคุนชาง ยอดฝีมือชั้นสูงขั้นยาทองระดับแปด มีไม่เกินยี่สิบคนเท่านั้น
ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าสังหารของรองเจ้าสำนักมาได้ล่ะ?
นี่ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อโดยสิ้นเชิง
รองเจ้าสำนักพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ในตอนที่คนผู้นี้หลบหนีนั้น ความเร็วของเขา เท่าเทียมกันกับฉัน ตอนที่ไม่ได้ไล่ตามนั้น ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้ลดความเร็วลง นั่นแสดงว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว เรื่องนี้ตกลงเกิดขึ้นเพราะเหตุใดกันแน่? ”
ผู้อาวุโสสี่รีบพูดขึ้นว่า “ขอเรียนรองเจ้าสำนัก ฉันเองก็ไม่แน่ชัดเช่นกัน เพียงแต่ได้ยินมาจากการบอกกล่าวของจางเซียวยู่ที่เป็นลูกศิษย์ของฉัน ซึ่งบอกว่าน้องสิบกำลังตกอยู่ในอันตราย จำเป็นต้องให้ฉันและคนอื่น ๆ รีบไปช่วยเหลือ”
“ฉันจึงได้พาน้องเจ็ดและน้องแปดมุ่งหน้าไปทันที”
“หลังจากที่ไปถึง เด็กหนุ่มที่ชื่อว่าหลินหยุนนั้น ได้ลงมือทำร้ายน้องสิบจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว จากนั้นน้องเจ็ดก็ลงมือ! ”
“น้องสิบยังเตือนน้องเจ็ดอีกว่าอย่าได้ดูถูกคู่ต่อสู้คนนี้! ”
“ขณะนั้นเอง ไอ้หนุ่มนั่นก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วปฐพี และน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก แล้วก็สังหารน้องเจ็ดลงในทันที”
“จากนั้นฉันกับน้องแปดรวมถึงน้องสิบก็ลงมือจัดการพร้อมกัน! ”
“แต่ คิดไม่ถึงว่า ไอ้หนุ่มนั้นก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นกว่าเดิมอีก ซึ่งแม้แต่ฉันเองก็ยังไม่สามารถที่จะต้านทานได้”
“เพียงพริบตาเดียว น้องสิบก็ถูกฝ่ายตรงข้ามสังหาร และจากนั้นน้องแปดก็ถูกสังหารด้วยเช่นกัน”
“ฉันพยายามอย่างสุดกำลัง ถึงจะหลบหนีเอาตัวรอดกลับมาได้! ”
“ถ้าหากรองเจ้าสำนักต้องการทราบความเป็นมาของเรื่องราวทั้งหมด ก็สามารถเรียกจางเซียวยู่และเฉินหย่งมาสอบถาม ก็จะทราบเรื่องทั้งหมดได้”
รองเจ้าสำนักสีหน้าหม่นหมองอย่างที่สุด แล้วก็พยักหน้า “อย่างนั้นก็เรียกตัวจางเซียวยู่และเฉินหย่งมาพบฉันหน่อย”
“ฉันเองจะทำความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่ามีเหตุเกิดมาจากอะไร จากนั้นจึงจะไปเชิญเจ้าสำนักออกมาจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน! ”
“ถ้าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไข สำนักเทียนหยุนของเราคงจะเสียหน้าเสียศักดิ์ศรีอย่างหมดสิ้น! ”
“ไม่สนว่าคนผู้นี้จะเป็นใคร! จะต้องสังหารชีวิตเขาลงให้ได้! ”
อีกทั้งความสัมพันธ์ของเธอกับซิงเฟย รวมถึงตระกูลซิง ก็เล่าทั้งหมดออกมาอย่างเปิดเผย
รองเจ้าสำนักได้ฟังทั้งหมดแล้วก็ยังไม่รีบแสดงท่าทีอะไรออกมา โดยให้กี่คนนั้นกลับออกไปแล้ว
เขาจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่หม่นหมอง “หรือว่า หลินชางฉองผู้นั้นจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งจริง ๆ? ซึ่งไม่ใช่ยอดฝีมืออาวุโสอะไรที่ไหน? ”
ผู้อาวุโสสองพูดว่า “ฉันไม่คิดเช่นนั้น! ทำไมคนผู้นี้ต้องมาที่เมืองเทียนหยุนด้วย? ดูเหมือนจะไร้จุดประสงค์ แต่ก็มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ลำพังรายละเอียดที่พวกเรารับรู้นั้น ก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันอะไรที่แน่ชัดได้! ”
รองเจ้าสำนักพยักหน้า และพูดว่า “อย่างนั้นก็ไปตรวจสอบสถานะตัวตนที่แท้จริงของไอ้หนุ่มนี้ให้ชัดเจน เมื่อครู่ที่สาวน้อยติงหลิงพูดว่า ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายหลินชางฉองนั้นเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งเป็นคนของตระกูลซิงแห่งเมืองเทียนเฟิง! ”
“สั่งคนไปที่ตระกูลซิงแห่งเมืองเทียนเฟิง ดูสิว่าตระกูลซิงนั้นรับรู้เรื่องอะไรของหลินชางฉองบ้าง! ”
“อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของคนผู้นี้ เป็นวิชาที่แปลกประหลาด ซึ่งไม่เคยปรากฏขึ้นในโลกคุนชางมาก่อน คงจะได้รับการสืบทอดมาจากโบราณอย่างแน่นอน! ”
“หากว่าสำนักเทียนหยุนของเราได้รับการถ่ายทอดวิชานี้ คงจะเกิดผลกระทบอย่างมากต่อสำนักของเรา ถึงขนาดที่ว่าในอนาคตอาจจะทะยานขึ้นไปอยู่ในสามอันดับสำนักสูงสุดก็เป็นได้”
อย่ามองว่าเก้าสำนักใหญ่ล้วนเป็นสำนักชั้นหนึ่งทั้งหมด ซึ่งยังได้มีการแบ่งแยกระดับชั้นอีกด้วย
สามอันดับแรก คือสามสำนักชั้นสูง
สามอันดับกลาง คือสามสำนักชั้นกลาง
สามอันดับสุดท้าย คือสามสำนักชั้นล่าง
สำนักเทียนหยุน สำนักจวู้หลิง สำนักหยุนเยว่
อยู่ในอันดับที่เจ็ด อันดับที่แปด อันดับที่เก้า ซึ่งก็คือสามสำนักชั้นล่าง
แม้ว่ารองเจ้าสำนักจะไม่ได้เห็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่หลินหยุนแสดงออกมาด้วยตาของตนเองว่าน่าสะพรึงกลัวมากขนาดไหน แต่จากที่ผู้อาวุโสสี่ได้พูดแนะนำนั้น ก็เพียงพอที่จะรับรู้ได้แล้ว
วิชาบำเพ็ญของหลินชางฉองนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ทำให้เขาเกิดความคิดอะไรขึ้นบ้างแล้ว
ผู้อาวุโสสองพูดว่า “รองเจ้าสำนักพูดได้ถูกต้อง! ถ้าหากสถานะของคนนี้เป็นจริง วิชาบำเพ็ญที่สืบทอดของเขานั้นช่างสะเทือนเลือนลั่นอย่างที่สุด! สำนักเทียนหยุนของเราจะต้องได้รับมาครอบครองให้ได้! ”
“แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเชิญเจ้าสำนักออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนก่อนเถอะ! ”
“หากยืดเยื้อเวลานานเกินไปเกรงว่าจะยิ่งเกิดปัญหาและอุปสรรคมากขึ้นอีก! ”
รองเจ้าสำนักพยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ ไปเชิญเจ้าสำนักออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนด้วยกับกับฉัน เพื่อใช้วิชาการสืบค้นวิญญาณชีวิต ตามหาที่พักพิงของหลินชางฉองนั้น! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...