คิดถึงจุดนี้ เขาก็ได้ตะโกนเสียงแข็งขึ้นว่า “ไอ้คนชั่ว นายหลบหนีไม่รอดหรอก! ไม่มีผู้ใดที่จะมีชีวิตรอดไปได้ หลังจากที่ได้สังหารคนของสำนักเทียนหยุนแล้ว! ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้เร่งความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย และก็ขยับเข้าใกล้หลินหยุนอีกครั้ง
เสียงของฝั่งตรงข้ามดังสนั่นกึกก้อง เจตนาสังหารแผ่ปกคลุมไปทั่ว
ซิงเฟยตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
หลินหยุนกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร
ชาติที่แล้ว ตั้งแต่ที่เขาอ่อนแอจนแข็งแกร่งนั้น ได้ตระเวนท่องโลกมากมายอย่างนับไม่ถ้วน จนสำเร็จขึ้นเป็นมหากษัตริย์ ไล่ตามสังหารผู้คนจำนวนมาก และแน่นอนว่าก็ถูกคนอื่นไล่ตามสังหารมากครั้งด้วยเช่นกัน
สถานการณ์เช่นนี้ สำหรับเขาแล้วนั้นไม่นับประสาอะไรเลย
แต่ว่า โชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้เกล็ดมังกรนั้นมา อีกทั้งได้สละยายั้งอายุไปหลายเม็ด เพื่อแลกซื้อวัตถุดิบจำนวนไม่น้อย มาหลอมเป็นสมบัติล้ำค่าที่ใช้ในการหลบหนี
ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงจะต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่คับขันเป็นแน่
หลินหยุนรวดเร็วอย่างมาก แต่รองเจ้าสำนักเทียนหยุนที่อยู่ด้านหลังนั้นก็ถือว่าไม่ช้า
กลับกลายเป็นว่ายอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้า และขั้นยาทองระดับหกกี่คนที่อยู่ด้านหลังนั้น เหมือนจะไล่ตามไม่ทันแล้ว เริ่มที่จะเกิดระยะห่างกับพวกเขาสองคนมากขึ้น
เดิมทีพลังทิพย์ในร่างกายของหลินหยุนก็ได้สูญสิ้นไปอย่างมาก เวลานี้ยังใช้แผ่นทองเกล็ดมังกรอีก ยิ่งทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังมากขึ้นไปอีก ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
เงยหน้าขึ้นเพื่อกลืนโอสถลงไป พลังทิพย์ได้รับการเพิ่มพลังไม่น้อย จึงทำให้เขาสามารถยืนหยัดใช้แผ่นทองเกล็ดมังกรต่อไปได้
หลบหนีมาเป็นเวลานาน จนเขาได้ทิ้งพวกคนที่ติดตามอยู่ด้านหลังไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงแค่รองเจ้าสำนักคนเดียวที่ยังคงไล่ตามอย่างไม่ท้อถอย
หลินหยุนสีหน้าขาวซีดอย่างที่สุด
ซิงเฟยเห็นแล้วก็ยิ่งเป็นกังวลอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้ทำได้เพียงแค่กัดฟันยืนหยัด โดยที่ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นแล้ว
ยอดฝีมือที่อยู่ด้านหลังนั้น คงจะตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วที่จะสังหารพวกเขาให้จงได้
แต่จะพูดถึงการตกตะลึงนั้น รองเจ้าสำนักที่ไล่ตามอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด ถึงจะเรียกได้ว่าตกตะลึงอย่างแท้จริง
เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้สูญเสียพลังงานอะไร
แต่ไล่ตามมาตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามก็ยังคงยืนหยัดความเร็วโดยไม่ได้ลดลงเลย
นี่คือสิ่งที่เหนือการคาดคิดของเขาแล้ว
จากคำพูดของผู้อาวุโสสี่ แม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะสังหารผู้อาวุโสไปหลายคนแล้ว แต่ก็ต้องสูญเสียพลังงานไปอย่างมาก และยังได้รับบาดเจ็บด้วย
แต่นี่เป็นลักษณะของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่สูญเสียพลังงานไปอย่างมากอย่างนั้นเหรอ?
หรือว่า คนผู้นี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มอย่างที่พูดกัน แต่เป็นยอดฝีมืออาวุโส?
หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เกรงว่าคงอาจจะไม่เกรงกลัวตนเองก็เป็นได้
ที่ไม่ต่อสู้ก็อาจเป็นเพราะไม่ต้องการอยู่ใกล้กับขอบเขตของสำนักเทียนหยุน แล้วถูกยอดฝีมือของสำนักเทียนหยุนรุมโจมตีก็เท่านั้น
คิดถึงจุดนี้แล้ว รองเจ้าสำนักได้หันหลังกลับไปมอง จิตใจก็พลันเย็นชาขึ้น
ผู้อาวุโสหลายคนที่ไล่ตามมาพร้อมกับเขานั้น เวลานี้ไม่เห็นร่องรอยแม้แต่เงาเลย
ตนเองไล่ติดตามด้วยความเร็วสูง กี่คนนั้นไม่สามารถไล่ตามได้ทัน
เวลานี้ เขาเองก็เกิดความลังเลใจขึ้นแล้ว
ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามเป็นเหมือนดั่งที่เขาคิด เป็นยอดฝีมืออาวุโสที่เก่งกาจทรงพลัง
ตนเองนั้นก็อาจจะไม่สามารถควบคุมจับตัวฝ่ายตรงข้ามได้
คิดถึงจุดนี้ ก็ลดความเร็วในการไล่ตามลงเล็กน้อย
ที่จริงแล้วเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะขบคิดเช่นนี้ขึ้น
ฝ่ายตรงข้ามถึงขนาดกล้าลงมือฟาดฟันสังหารในบริเวณใกล้กับสำนักเทียนหยุนของเขา นั่นแสดงว่าอาจหาญไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย
เวลานี้ที่กำลังหลบหนีไม่ยอมต่อสู้นั้น บางทีอาจจะเป็นแผนการล่อลวงก็ได้!
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก
ดังนั้นความตั้งใจในการไล่ตามของเขานั้นก็เกิดการสั่นคลอน ความเร็วก็ลดลงด้วยเช่นกัน
ส่วนหลินหยุนกับซิงเฟยที่อยู่ด้านหน้า ก็รับรู้ได้ในทันที
ซิงเฟยดีใจอย่างมาก และพูดขึ้นว่า “เขาลดความเร็วลงแล้ว! เหมือนจะไม่ไล่ตามมาแล้ว! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...